เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Kat-san Diary -TOKYO-Vuttiphong Mahasamut
Kat-san Diary -TOKYO- DAY 3


  • วันที่ 3 เริ่มต้นแบบธรรมดา ไม่มีการตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ไม่มีโยคะ เมื่อความเหนื่อยล้าที่สะสมมา 2 วันเริ่มกลายเป็นความเคยชิน  วันนี้ตัดสินใจเดินมาที่สถานีOtsuka จากอีกทาง ผ่านหน้ารางรถไฟที่คุ้นเคย


    ที่สถานี Otsuka มีบรรยากาศเปลี่ยนไป ผมรู้สึกได้ถึงความวุ่นวายที่ผมยังไม่ได้เจอที่โตเกียว ผู้คนเดินกันขวักไขว่ นึกขึ้นได้ อ่อ วันนี้วันจันทร์  " Salaryman Day "

    รู้สึกหิว ผมบอก Kat-san ว่าจะซื้ออะไรรองท้อง เธอดูอารมณ์แปรปรวน(เป็นปกติ) แต่ก็ตกลงที่จะเข้าไปด้วย ผมแวะร้านเบเกอร์รี่ตรงทางเข้าสถานี  

    และก็เป็นที่นี่เอง ที่ผมได้ค้นพบของกินในตำนานอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งก็ยังอ่านชื่อไม่ออก แต่เป็นขนมปังเครืบกรอบๆด้านนอก 


    วันจันทร์ ณ โตเกียว 

    ที่แรกของวัน มุ่งหน้าสู่ Kichijoji เพื่อไปร้านชาหมีแดง ตามโปรแกรมท่องเที่ยวของ Kat-san
  • Kichijoji - ชาหมีแดงและแกงกระหรี่สีดำ

    คิจิโจจิเป็นอีกย่านที่น่ารักและน่าเดิน ตอนแรกผมสังเกตุว่ามันน่าจะเป็นย่านของเด็กน้อย แถวๆร้าน ชาหมีแดง มีสถานที่เหมือนกับที่รับเลี้ยงเด็ก มีออร่าของความเป็นเด็กน้อยอยู่ในระแวกนั้น แต่พอเดินไปเดินมาก็ไม่คิดอย่างนั้น ย่านนี้ร้านค้าเล็กๆติดๆกัน ดูอบอุ่น


    Kat-san ณ ร้านชาหมีแดง
    เมื่อเธอเดินดมและเลือกซื้อชาเพื่อเป็นของฝากและของตัวเองอย่างพอใจ

    ถึงเวลาอาหารกลางวัน เดินไปเดินมา จึงได้มาจบที่ร้านใกล้ๆนี่เอง ร้านแกงกระหรี่สีดำ(ป้ายสีดำ)
    รสชาติอร่อย ขาวนิ่ม เครื่องแกงต้นตำรับ หวาน เค็ม เผ็ด กำลังดี ผมให้ 9/10.... กินหมดอย่างรวดเร็ว
     

    บรรยากาศรอบๆ

  • KOENJI -  ตรอกของวินเทจมือสอง 

    ที่ต่อมาคือ โคเอ็นจิ อีกหนึ่งสถานที่ต้องมาของเธอ  ที่นี่มีร้านขายของวินเทจมือสองเพียบเต็มสองข้างทาง  เธอได้อะไรกลับมาบ้างนั้นผมขอไม่ระบุ แต่เอาภาพบรรยายกาศมาให้ดู


    ถ่ายจากในร้านเสื้อผ้า ชั้น2



    ร้านขนมแมว


  • Shimokitazawa - วังหลังแห่งโตเกียว แหล่งอาหารชาวบ้าน ร้านค้ามือสอง

    ที่สุดท้ายของวัน และผมคิดว่าเป็นไฮไลท์ มาถึงจุดนี้ ผมรู้สึกว่าผมปวดขามาก Kat-san เองก็เช่นกัน ในระหว่างเดิน อยู่ดีๆเธอเกิดอาการต้องเข้าห้องน้ำ แล้วเลยสถานีมาแล้ว เราเห็น supermarket ตึกใหญ่จึงแวะเข้าไปเพื่อหาห้องน้ำ  ในระหว่างรอ ผมมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วถ่ายรูปป้ายทางเข้าสู่ SHIMOKITAZAWA ได้พอดี



    เดินผ่านร้านแมว(อีกแล้ว)

    ร้านขนมปัง



    ไฮไลท์อย่างแรกของย่านนี้คือการเดินไปเจอร้านขายขนมดั้งเดิม (ขนมกรอบๆ พวกถั่วทอด อะไรทอดห่อสาหร่าย พอนึกออกใช่ไหม ???) แต่ติดที่ว่าคนขายพูดอังกฤษไม่ได้เลย (เป็นลุงคนนึง) พอเดินเข้าไป Kat-san ผุดไอเดียว่าให้(ผม)ถามเขาว่าอะไรขายดีสุด (What is the best seller ??) คำตอบที่ผมได้กลับมา.....ใช่แล้วครับ....ความเงียบ ไม่มี what ? sorry ? หรืออะไรตอบกลับมาเลย หน้านิ่งๆกับความเงียบ


    นี่คือลุงคนนั้น!!!?!!


    ไฮไลท์อย่างที่สองของวัน(อันนี้ดีหน่อย) Darwin's Room ร้านขายหนังสือเกี่ยวกับพืชและสัตว์ ส่วนใหญ่เป็นพืชจำพวกเห็ด ดอกไม้ และสัตว์จำพวกแมลง หอย ผีเสื้อ เต่า หรืออะไรที่เด็กๆเขาศึกษากันเองได้ ภายในยังทำเป็นคาเฟ่เล็กๆ ขายน้ำโซดา โกโก้ กาแฟ ตกแต่งได้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมในป่า(จริงๆนะ) 




    ทางเข้าร้าน Darwin's room 



    จริงๆวันนี้ยังไม่จบดี แต่ผมขอจบไดอารี่ของวันไว้เพียงเท่านี้  

    การบันทึกไดอารี่สำหรับผมมันสนุกตรงที่เราสามารถบันทึกเรื่องราวที่เป็นไฮไลท์ประจำของวันได้ เพื่อที่จะกลับมาหวนระลึกถึงในภายหลัง แต่ไดอารี่ไม่สามารถบันทึกกิจกรรมทุกอย่างที่ทำได้ทั้งหมด เหมือนกับที่ความทรงจำของเราไม่สามารถเก็บเรื่องราวรายละเอียดทุกอย่างได้  เราจำได้เฉพาะในสิ่งที่เราสนใจ  รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเล็ดลอดออกไปเหมือนกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือรัศมีของไฟฉาย เหมือนว่าเราใช้ชีวิตที่มองไปข้างหน้าเหมือนกับไฟฉาย เห็นเฉพาะสิ่งที่ตามองเห็น และหลงคิดว่าสิ่งเหล่านั้นเท่านั้นที่สำคัญ  บ่อยครั้งเราสนใจแต่ตัวเอง จนไม่ได้สังเกตุว่าเสียงดนตรีที่เขาเปิดมันดังเกินไป น้ำดื่มในขวดรสชาติแปลกๆ อากาศมีกลิ่นตุๆ อาหารสีสันเกินจริง พลาสติกถูกฝังดิน หมากฝรั่งติดต้นไม้ 

    ความรักที่เราให้สิ่งอื่นไปจึงกลายเป็นการทำลาย เพราะเราให้ในสิ่งที่เรา เห็น ว่าดี

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in