ต้องแยกขยะ เผาได้ กับ เผาไม่ได้
JIUGAOKA - เมืองสีขาว
ในช่วงสายๆของวัน สถานที่แห่งที่3คือย่าน Jiugaoka ถ้าเกิดผมเลือกได้ว่าจะอาศัยอยู่แถบย่านไหนของญี่ปุ่น คำตอบคือที่นี่แหละ มันเล็กๆแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ มีที่พักอาศัย มีซุปเปอร์มาเก็ต สวน ศาลเจ้า แต่ก็ยังมีโซนธุรกิจที่เต็มไปด้วยร้านขนมและร้านขายของเก๋ๆ มีสไตล์ของตัวเอง เช่น ร้าน Village Vanguard ที่ขายของแนววินเทจเกี่ยวกับตัวการ์ตูนเก่าๆ (ผมได้เสื้อมะม่วงจังมาจากร้านนี้ด้วยนะ Kat-san รู้สึกเหมือนว่าเธอเป็นอลิส ที่หลงเข้ามาในดินแดนมหัศจรรย์แล้วหาทางออกไม่ได้ ผมได้ห้ามปรามและยับยั้งสินค้าที่เธอจะซื้อได้บางส่วน แต่เธอก็ได้อะไรกลับติดมือออกมาเยอะอยู่)
รวมitemส่วนนึงของ Kat-san ที่ได้จากย่านนี้
แวะพักกินทาโกยากิตรงหน้าซุปเปอรมาเก็ต นั้งกินตรงป้ายรถเมล์
Shibuya ความวุ่นวายที่รับได้!!
ตกเย็นก็เป็นช่วงเวลาของแสงสี เหตุผลหลักที่มาก็เพื่อจะมาให้เห็นด้วยตา (และเพื่อมาซื้อของที่คนอื่นฝากมาซื้อและตัวเองอยากได้(ถ้าเจอ)) โดยรวมบรรยากาศประมาณสยามแต่ใหญ่กว่า เจริญกว่า ทันสมัยว่า เป็นย่านธุรกิจที่ไม่เคยหลับใหล แต่ในความวุ่นวายผมยังแอบรู้สึกถึงความเป็นระเบียบ เป็นความวุ่นวายที่รับได้
มาญี่ปุ่นทำให้ผมได้เห็นความเร่งรีบที่มีระเบียบแบบแผน คนยืนรอรถไฟจะให้คนด้านในออกก่อนเสมอและจะต่อคิว ขึ้นรถเมล์ก็ต้องยืนต่อคิวในระหว่างรอ ไม่ได้แย่งกันขึ้นแบบบ้านเรา สูบบุหรี่ต้องสูบในที่ให้สูบเท่านั้น เวลากินขนมก็จะต้องยืนกินให้หมดก่อนแล้วค่อยเดิน และถึงแม้จะไม่มีของกินตามข้างทาง หรือร้านสะดวกซื้อเยอะติดกันมากมายเหมือนบ้านเรา แต่ก็มีในปริมาณที่มากพอ คละกันไปตามทาง พอให้ไม่ลำบาก และไม่ให้สะดวกสบายเกินไป
ทุกคนที่มาญี่ปุ่นเมื่อกลับไปจะต้องทำการเปรียบเทียบกับเมืองไทย แต่การเปรียบเทียบแบบนี้ผมได้ทำไปแล้วตั้งแต่สมัยที่ต้องไปอยู่ที่อเมริกากับแม่ พอได้ไปอาศัยอยู่จริงๆ(ไม่ใช่แค่ไปเที่ยว) ทุกๆทีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่ผมตามหา ไม่ได้อยู่ในญี่ปุ่น ในอเมริกา หรือในเมืองไทย
มันอยู่ในตัวผมเอง
(To Be Continued)
ติดตามต่อตอนต่อไป Day 3
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in