DAY 1 // AOYAMA-HARAJUKU-ROPPONGI
ด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบแน่ชัด ผมตื่นนอนตั้งแต่ตี5 เปิดม่านหน้าต่างเพื่อดูวิวด้านนอก บรรยากาศนอกหน้าต่างเหมือนตอน 7 โมงเช้า หันกลับไปดูที่นาฬิกาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ.... ตี5จริงๆ แต่มีแดดออก
ตามแผนที่เตรียมเอาไว้ ที่แรกที่จะไปคือ ตลาดนัด Farmer Market @UNU ตรงแถวAoyama แต่เนื่องจากว่าเรามีเวลาเยอะ Kat-san จึงตั้งใจจะเดินไปดูศาลเจ้าใกล้ๆที่อ่านเจอในหนังสือ เวลาประมาณ6โมง เราออกเดินไปตามตรอกเล็กๆผ่านบ้านคน รางรถไฟ และร้านค้าปลีกย่อย ส่วนตัวผมคิดว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของทริปนี้ มันคือสิ่งที่ผมอยากมาเห็นมากที่สุด ความรู้สึกว่าได้อยู่ในชุมชนเล็กๆที่ไม่วุ่นวาย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ธรรมดาแบบไม่ธรรมดา แม้ว่าจะเป็นหน้าร้อนแต่ในความที่ยังเช้าอยู่จึงมีลมเย็นนิดๆคอยพัด และในความที่มันเป็นวันเสาร์เช้า จึงไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน
ราวๆ 9 โมง เราถึงAoyama ตลาดนัดยังไม่ตั้ง ไม่มีอะไรทำบวกกับหิวเล็กน้อย จึงแวะมานั้งรอกินอาหารเช้าที่ร้าน Pronto ที่อยู่ถัดออกมา ผมมีปัญหาในการสั่งโกโก้ (Cacao) สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นสั่ง Americano เย็น Kat-san สั่งอาหารเช้า ในระหว่างนั้งรอ ผมจึงตัดสินใจลองศึกษาประโยคญี่ปุ่นเพิ่มเติม จากที่เพิ่งได้ประโยคเดียว Sumimasen = Excuse me!!
เลยได้เพิ่มมา
Korewa Kudasai = อันนี้ครับ (พร้อมชี้นิ้ว)
Mitotsu = 1 อัน
บรรยากาศ ตลาดนัด Farmer Market at UNU
ซื้อมาจนได้ 1,000 Yen!!!
เวลา 11 โมง ตามหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย kat-san ตั้งใจจะไปเดินดูตึก Prada, Miu Miu และ Sretsis Inn ตามGPS เราเดินข้ามมาอีกฝั่งและก็เดินตามหา
Miu Miu
Sretsis Inn
เมื่อเดินชม ถ่ายรูปจนพอใจ ที่ต่อไปคือร้าน Soft Serve Ice Cream ที่เธอหมายตาเอาไว้ เมนูที่ตามหาคือ ไอศครีมบนฝักข้าวโพด(จำชื่อไม่ได้)
ช่วงบ่ายๆ หลังจากเดินเล่นแถวHarajuku อย่างมึนๆ และแวะกินเครป(ผมกิน) ที่ต่อไปคือ Roppongi Hill เพื่อไปชมงานนิทรรศการ Ghibli
วิวหอคอยโตเกียว
เนื่องจากด้านในถ่ายรูปไม่ได้ และรายละเอียดส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่นที่เราอ่านไม่ออก จึงทำให้การไปชมนิทรรศการไม่ค่อยสนุกเท่าที่ควร แต่จุดไฮไลท์คือคาเฟ่ด้านบนที่ขายอาหารและเครื่องดื่มตามท้องเรื่อง เธอจึงไม่พลาด แม้ว่าคิดจะยาวแค่ไหนก็ตาม (ถอนหายใจ)
ลงที่สถานี Otsuka (สถานีที่ใกล้ที่พักที่สุดที่เราใช้เป็นจุดเริ่มต้นและจุดจบของแต่ละวัน ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาทีถึงที่พัก) พวกเราเดินกลับด้วยความเหนื่อยล้า เกิดมาผมไม่เคยเดินเยอะขนาดนี้มาก่อน เมื่อยยิ่งกว่าเตะบอล ต่อเนื่องยิ่งกว่า รด. แต่ Kat-san ดูชิวๆ เธอคงเหนื่อยแต่มีพลังงานบางอย่างทำให้เธอยังไปต่อได้เรื่อยๆ เธอคงอยากเก็บให้ได้มากที่สุดเพราะเรามีเวลาแค่ 4 วันเต็ม แต่เหมือนที่พี่ป็อกบอก " คนเราไม่ว่าเก่งแค่ไหนก็กินได้แค่อิ่ม ไม่ต้องกอบโกย ไม่ต้องกักตุน อนาคตถึงจะมี " ความสุขที่พยายามกอบโกยคือความทุกข์ เรามีความสุขก็ต่อเมื่อเราปล่อยให้มันเกิดขึ้นเอง
ผู้คนแวะดูดอกไม้ไฟ วันที่ผมไปบังเอิญตรงกับช่วงเทศกาลดอกไม้ไฟของญี่ปุ่นพอดี(จะมีในช่วงหน้าร้อน) แม้จะเห็นแค่ไกลๆ (ไกลมาก พยายามมองจุดกลมๆสีชมพูตรงซอกตึก) แต่คนญี่ปุ่นก็ยังตื่นเต้นกัน
ระหว่างทาง เนื่องจากผมมีอาการเจ็บคอมาตั้งแต่ก่อนมาถึง จึงหาโอกาสแวะเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อชุดทำน้ำผึ้งมะนาว ได้แก่ มีดหนึ่งเล่ม มะนาว น้ำผึ้ง (+มาม่าและขนมต่างๆสำหรับความหิวช่วงดึก)
จบวันแรก แช่เท้า อาบน้ำ นอน zZZ zZZ
(ติดตามต่อในวันที่ 2)
つづく
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in