เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไดอารี่เรื่อยเปื่อยpete
รีวิวลงโรงเรียน ปี1-ปี3
  • ไม่อยากทำงาน มาบ่นไปเรื่อยเหมือนเดิม  เริ่ม!
    เป็นรุ่นครู 4 ปี มีวิชาปฏิบัติการในสถานศึกษา ลงรรตอนเทอม2 20 สัปดาห์ = 1 เดือน ตั้งแต่ปี1
    ของนี่มหาลัยมีชื่อโรงเรียนกับระบุจำนวนนักศึกษาแต่ละเอกมาให้ ซึ่งเป็นโรงเรียนภายในจังหวัดนั้น

    ปีแรกได้ไปโรงเรียนเก่า เป็นรรใหญ่พิเศษ
     - เรียนรู้งานฝ่ายแต่ละฝ่าย ซึ่งส่วนใหญ่โครงสร้างแต่ละโรงเรียนก็คล้าย ๆ กัน คือ กลุ่มบริหารทั่วไป งานวิชาการ งานงบประมาณ งานบุคคล ไปเห็นภาพโรงเรียนแต่เป็นอีกมุมที่เราไม่ใช่นักเรียนแล้ว
    - อันนี้ก็แล้วแต่แต่ละโรงเรียนจัดการ อาจได้ช่วยจิปาถะ แต่จะได้เห็นเขาทำงานกันจริง ๆ
    - นี่ไม่ได้ลองงานเพราะโรงเรียนไม่สะดวก ได้นั่งฟังเขาบรรยาย เสียดายเพราะรรอื่นเพื่อนพอได้ทำ
    - ได้รู้ว่าแต่ละฝ่ายทำอะไร งานครูไม่ได้มีแค่สอน แต่ต้องสังกัดฝ่าย มีงานตรงนั้นให้รับผิดชอบด้วย

    ปีสองลงรรใหม่แต่ใหญ่พิเศษเหมือนเดิม แต่ติดช่วงโควิด ก็ออนไลน์ช่วงนึง ไปรรช่วงนึง
    - ปีนี้เรียนรู้งานครูที่ปรึกษา มีครูพี่เลี้ยงของตัวเอง ครูสอนห้องไหนก็ตามไปห้องนั้น งานแล้วแต่เขาจะมอบหมาย ส่วนใหญ่เป็นสังเกตการสอน มีเพื่อนบางคนได้สอนเลยบ้าง
    - นี่ได้ครูพี่เลี้ยงแนวคล้าย ๆ กัน ใจดี เงียบ ๆ ได้ช่วยกรอกคะแนนเข้าระบบโรงเรียน ค่อนข้างตาลายแจกค่าอุปกรณ์ เดินดูเด็กตอนแกสั่งงาน พอได้เห็นภาพรวมห้องเรียนบ้าง (ม.ต้น) ม.ปลายไม่มากัน
    - เข้าแถวสวดมนต์ตอนเช้า นั่งห้องหมวด (เด็กมีทั้งเรียนออนไลน์กับคนที่สะดวกก็มารร) 
    - ได้รู้อย่างนึงคือถึงครูที่ปรึกษาพยายามแล้ว แต่ที่บ้านไม่ช่วย เราก็ต้องส่งให้โรงเรียนช่วยจัดการ
    ได้เห็นว่าเด็กต่างกันจริง ๆ แล้วต้องทำยังไงให้เด็กอยู่กับเรา ยิ่งเป็นออนไลน์ยิ่งยาก
    - สิ่งที่ได้จากรร คือ ยกโต๊ะ ใส่คัชชูทรงเอ ยกจากชั้นล่างไปชั้นสอง หมวดวิทย์หกคน แข็งแกร่ง 

    ปีสามพอได้เรื่องบ้าง หลังจากสองปีไม่ค่อยได้ทำอะไร ลงรรขนาดธรรมดา+วัดในพระพุทธศาสนา
    - ปีนี้ต้องสอนจริงแล้ว แต่ละมอกำหนดสอนกี่ชั่วโมงแล้วแต่ ต้องเขียนแผนส่งแผน มีครูพี่เลี้ยง
    - นี่ได้ครูพี่เลี้ยงม.ต้น เพราะม.ปลายมีครูตรงสาขาคนเดียว รรจัดให้เอง
    - ม.ต้นเทอมสองเรียนฟิสิกส์ ความชิบหายบังเกิด ครูต้องไปเปิดคลิปเรียนก่อนมาสอนเด็กเพราะไม่ใช่วิชาถนัด55 เด็กห้องเก่งเก่งกว่าเราอ่ะบางที เรากำลังคิด เด็กตอบละ

    - ก่อนไปเรื่องเรียน เริ่มที่ภาระงาน ไปช่วงโรงเรียนมีกิจกรรมพอดี ซึ่งรรนี้กิจกรรมค่อนข้างมากอย่างนึงที่รู้สึกคือครูเขาอยู่แยกกัน ไม่มีห้องหมวด ครูแต่ละคนอยู่ประจำห้องเรียน ครูประถมก็อยู่กัน ครูม.ต้นก็ไม่ค่อยยุ่งครูม.ปลาย เช่น โครงการหมวดวิทย์จริง แต่เพื่อนที่ประจำม.ปลายไม่ได้ลงมาทำ จะว่าเพราะไม่ได้อยู่ในมอบหมายของครูพี่เลี้ยง ไม่ใช่หน้าที่จะเสนอตัวเองเข้ามาอยากทำก็แล้วแต่

    - ช่วงจัดโครงการ อยู่จีบผ้าจัดโต๊ะจัดบอร์ดจัดสถานที่กันตั้งแต่กลางวันจนสองทุ่ม วันถัดไปไปจัดเอกสารโครงงานวุ่นวาย เด็กเปลี่ยนหัวข้อไม่แจ้งนั่งหานั่งแก้กัน กลางวันได้ไปสังเกตการสอนบ้าง
    - นี่อยู่คนละตึกกับเพื่อน ของเพื่อนครูสั่งงานอยู่กันหกโมงก็ยังไม่กลับ แต่ครูพี่เลี้ยงนี่กลับตั้งแต่ห้าโมงละของเพื่อนครูสั่งจิปาถะได้ทำไปทั่ว เดินเอกสาร เขียนใบนู้นนี่ ประชุมผปค ประชุมงาน ไปทำนั่นนี่เยอะ
    - ได้เห็นว่ากว่าจะเป็นงาน ผ่านมาหลายขั้นหลายอย่างมากนะ

    - ตัดกลับมาเรื่องเด็ก อย่างแรกการคุมชั้นเรียน ครูสอนเลยว่าเรามาเป็นครู ไม่ได้มาเป็นนักเรียน วางตัวให้ถูก นี่ค่อนข้างชิว ๆ กับเด็กในห้อง แซวได้ เดินมาบ่นๆ ได้ ครูคะ เนี่ยเพื่อนคนนี้เขาไม่ยอมเรียนค่ะ อ่ะเด็กเล่นเกมอีกแล้ว โห่ครู แปบเดียว แล้วทำงานเสร็จรึยัง ครูเค้าให้ส่งวันนี้ละนะ ไหนเพื่อนใครมาคุมพฤติกรรมหน่อย (เด็กม.ต้น ซน ๆ บ้าง แต่ตอนเรียนนั่งเรียบร้อยไม่คุย ทำงานบ้างเล่นบ้าง เด็กดี) ตัดภาพไปที่เพื่อนที่อยู่กับเด็กชั้นเดียวกันแต่เป็นอีกแบบ ก็จะดุกว่า ไม่ได้มาพูดเล่นแซวเล่นกันแบบเรา

    ตอนนี่ได้ไปคุมเด็กห้องเพื่อน เห็นเลยว่ากลุ่มนี้ฟังตั้งใจ กลุ่มนี้ได้แปบเดียว กลุ่มนี้พูดหลายรอบละก็ไม่ทำไม่ฟัง เด็กคนละแบบกับห้องเราเลย ปรับตัวยากอยู่สำหรับคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยมีเอเนอจี้แบบเราที่จะคุมเค้า
    ต้องเสียงดังพอแต่ไม่ตวาด ไม่พูดเเข่ง ตะโกนแข่งกับเสียงเด็ก ห้องเรียนบางห้องไม่พร้อม 

    แผนที่เราเขียนเราเตรียมมาใช้ไม่ได้ ต้องแก้หน้างานยังไง สั่งงานแต่เด็กไม่ยอมส่งทำยังไง
     เด็กเล่นชวนเพื่อนคุยทำยังไงพูดยังไงให้เด็กฟัง ดึงความสนใจมาที่เรา ที่สิ่งที่เราสอนยังไง 
    ต้องใช้สื่อ เกม หรือเทคนิคอะไรให้ไม่เบื่อ เวลา 1 คาบ 2 คาบ อย่างน้อยเด็กต้องได้อะไรจากเราไปบ้าง 
    แผนที่เตรียมมาเด็กจะเข้าใจไหม  สื่อนี้เด็กเข้าใจไหม เช่น นี่ใช้ simulation ซึ่งเราอ่ะเข้าใจ คิดว่าง่าย แต่พอเป็นเด็กปุ้บ คนที่เข้าใจเร็วก็มีแต่ไม่มาก คนที่ตามไม่ทันก็มีอีก เตรียมไปให้เด็กสแกนเล่นเอง ห้องนี้ใช้ได้ เด็กอีกห้องโปรเจคเตอร์ใช้ไม่ได้ พอส่งให้สแกน บางคนเข้าได้เข้าไมาได้อีก เฟลแต่ห้ามทิ้งให้เด็กเคว้งอยู่แบบนั้น ก็ต้องหาวิธีอธิบายอื่น  จะยกตัวอย่างอะไรที่ใกล้ตัวละเด็กนึกตามได้ง่ายอีก

    สอนโจทย์คำนวณ เขียนโจทย์เสร็จนัั่งนิ่ง ไม่รู้ต้องหาอะไร คิดยังไง ซึ่งเราตอนเรียนก็เคยเป็นและเข้าใจมากๆ ว่าโคตรงงกับฟิสิกส์ 5555 ก็ต้องอธิบายทีละขั้นไป เด็กที่ไปไวก็เชิญทำข้ออื่นพลาง เดินไปชม        ให้ช่วยสอนเ่พื่อนอธิบายเพื่อนด้วย ตรงนี้สนุกนะ เราลุ้นอ่ะ เด็กนึกตามเราทีละขั้น ๆ จนเขาตอบได้ เอ้ยเห็นมะ อ่ะข้อสองเขาให้หาอะไร ใช้สูตรไหน ละโจทย์ให้อะไรมาบ้าง หน่วยอะไร ลองทำดู เอ้ยได้ เห็นมะ มีกำลังใจละ ไปพร้อมกันกับเด็ก มีเด็กห้องนึงเด็กพิเศษ ค่อนข้างช้า ต้องค่อย ๆ มาก จนเขาเห็นภาพ เข้าใจจนทำได้ สอนเด็กเก่งก็สนุกนะ เราแทรกอะไรให้เขายิ่งยากเข้าไปอีกอ่ะ ครูไม่ได้เเกล้งนะแต่ลองทำดู ลองคิดวิธีนี้ดู

    กิจวัตรแต่ละวันไปโรงเรียนก่อน 7.30 ถ้ามีเวรต้องไป 6.30-6.45 ของนี่เวรสหกรณ์ ไปจัดของเล็กน้อยกับช่วยดูเด็ก ช่วยน้องประถมหาของ มาซื้อดินน้ำมันคับ สีแดง ซื้อกรรไกรคับ เสร็จแล้วเข้าแถว           ครูพี่เลี้ยงเช็กในเว็ปใครยังไม่สแกนบัตร ใครไม่มารร สวดมนต์ ฟังพูดแปบ ๆ ขึ้นห้องเวรทำความสะอาดห้อง ครูมีอะไรแจ้งโฮมรูม รอเรียน ตอนเย็นทำเวรให้เรียบร้อย ตอนไปห้องเพื่อน โดนไปนำสวดมนต์เด็ก อย่างเขิน55 เรียนเชิญท่าน ๆ ที่ติดศูนย์วิชาไหนรีบไปแก้

    ตรวจงานตัวเองไม่เท่าไหร่ ช่วยตรวจงานเพื่อนคือเราหักคะแนนมั้ยถ้าเด็กเขียนไม่ครบงี้ เป็นเราเราหัก แต่เพื่อนให้ก็ให้ อ่านลายมือเด็กต้องใช้สกิล อันนี้เขียนผิดรึตั้งใจ รู้ว่าเธอเข้าใจนะ แต่เข้าใจผิด            จำตัวแปรสลับกันนิดเดียวผิดหมดเลย รู้ตัวก็ยังไม่เก่งพูดหน้าห้องสักทีแบบ เด็กเข้าใจที่เราพูดมั้ย ทันมั้ย อ่ะรีเช็กอีกรอบก่อนไปเนื้อหาถัดไป เหมือนจะเข้าใจ ทำโจทย์พร้อมกันก็ตอบได้ แต่พอสั่งงานปุ้บ ครูคะอันนี้มันต้องทำยังไง สรุปเราสอนเข้าใจรึไม่นะ รึมันต้องใช้เวลาอยู่แล้ว55 

    ส่วนตัวคิดว่าเพราะครูพี่เลี้ยงดีด้วยเราเลยสนุก แกไม่เข้ามาดุว่าเธอต้องสอนต้องพูดแบบนี้ ๆ แต่แกเข้ามาช่วยอธิบายเพิ่ม เพราะตอนเเรกเราเร็วไป คิดว่าเด็กมีพฐละ แต่พอแกขึ้นมาถึงได้รู้ว่าเด็กคิดเลขไม่ทันนะ ตรงนี้ต้องคิดให้เขาดูนะ รึมีอะไรแกก็เตือนดี ๆ น้องไม่ต้องไปเดินตามเด็ก น้องให้เด็กมาหาที่โต๊ะดีกว่า น้องทานข้าวรึยัง มีอะไรอยากทำไหมบอกได้เลย อยากสอนเรื่องอะไรห้องไหน เเนะนำห้องนี้นะเด็กสอนง่ายกว่า น้องเอาไมค์ไปใช้มั้ย เราต้องปรับเรื่องเสียงอีกนิด ห้องเท่านี้ได้ยิน แต่ถ้าห้องใหญ่เราต้องใช้เสียงเยอะ น้องไม่สบายหายรึยัง นี่เจ็บคอแบบเสียงหายเสียงแหบ ไปหาหมอได้ยาแก้คออักเสบมากิน แบบแกดีอ่ะ ดีมาก น้องลองสอบวิทย์ทั่วไปไหม รับเยอะกว่า อยากทำงานที่ไหน ชวนคุยเรื่องทั่วไป ไม่เกร็งมากที่จะเขาไปถามอะไรแก (เราเป็นคนเงียบๆ อยู่แล้ว ขีี้เกรงใจ ชวนคุยไม่เก่ง)

    ตอนแกอยู่กับเด็กก็ดูออกเลยว่าเด็กรัก เข้าใจ สอนฟัง จริงจัง อยากช่วยพร้อมช่วย หวังดีกับเด็กจริง ๆปัญหาเล็ก ๆ เด็กมีปัญหากันในห้อง แกก็พูดก็สอน เปิดเวทีให้เด็กเปิดใจพูดกันรับฟังกันทั้งห้อง              อะไรที่มันดีไม่ดี ควรไม่ควร ไม่หาคนผิด นี่นั่งฟังอยู่ก็เออ แกเต็มที่กับการเป็นที่ปรึกษาเด็กห้องนี้จริง ๆสอนให้สังเกตหมดว่าเด็กแต่ละคนเป็นยังไง คนไหนเราต้องพูดเราต้องเข้าหาเขาแบบไหนเขาถึงจะ  เปิดใจ ถึงจะฟังเรา บางคนชอบให้ดุกระตุ้น บางคนต้องบอกดี ๆ เด็กอยู่กันยังไง อยู่เป็นกลุ่มแบบไหน เด็กคนนี้ที่บ้านเป็นแบบนี้นะ เด็กคนนี้เป็นนักกีฬานะ เป็นนางรำนะ อยู่วงโยนะ เวลาครูคนอื่นมาถามมาตามงานจะได้เข้าใจได้ว่าเด็กมีความรับผิดชอบอื่นด้วย ไม่ได้ไปโทษอย่างเดียวว่าไม่ทำ เช่นเด็กห้องข้าง ๆ อยู่ดูเกเรบ้าง ไม่ทำงานบ้างแต่ช่วยแม่เข็นผักขายในตลาดเช้า ๆ ได้เงินมาให้แม่ เราก็ได้รู้จักเขา

    จริง ๆ กว่าเด็กจะเปิดใจให้ครูแต่ละคนก็ไม่ง่าย แล้วแต่เด็ก แล้วแต่บุคลิกเราด้วย เหมือนพื่อนนี่เล่นเกม อ่ะได้เรื่องคุยกับเด็กแล้ว เด็กเข้าไปถามนั่นนี่แล้ว ถ้าเราเป็นคนไม่มีอะไร อย่างน้อยก็เป็นมิตร ยิ้มเข้าไว้ อย่าตาลอย อย่าตาแข็งใส่เด็กใส่ใคร รับไหว้ด้วย ทักเด็กก่อนได้ เช่น นี่ขึ้นสองแถว เจอเด็กในห้อง ก็ทัก พอวันถัดไปก่อนกลับบ้าน เด็กก็มาทักครูกลับตอนไหน แบบก่อนหน้าไม่เคยคุยกัน55

    มันตรงช่วงวันเด็กด้วยตอนนั้น ครูที่ประสานงานมาบอกให้ฝึกสอนเตรียมการแสดงด้วย 1 ชุด ชิบหายละ
    ไปกัน 15 คน ดีที่มีเพื่อนสายเอนเตอร์เทน ตอนเย็นนัดซ้อมกัน คนโนสกิลเรื่องเต้นอย่างผมจะขิต จนถึงวันแสดงก็ขึ้นเวทีไป ทั้งขำทั้งเขิน โชคดีที่ไม่ค่อยมีเด็กรู้จักเรา เด็กห้องเราไม่มาอยู่หน้าเวทีเลยมปร
    ละวันนั้นมีกิจกรรมทั้งวัน ไปทำไร ไปช่วยตักไอติมแจกเด็ก เพิ่งรู้ว่าขูดไอติมไม่ง่ายถ้าที่ตักไม่ดี เห็นครูท่าทางอยู่ฝ่ายบริหาร ไม่กล้าไปทักแต่ก็เดินไปละ ครูคะให้หนูช่วยแจกไหมคะ อ่ะยืนแจกขนมแปบนึง


    ส่วนตัวพอปีสี่ ต้องฝึกให้ตรงวิชาเอกแล้วคือม.ปลาย ไม่รู้จะปรับตัวได้มั้ยเหมือนกันเพราะเราเจอม.ต้น มาตลอด เพื่อนที่เคยเจอม.ปลายก็บอก บางคนไม่รับ ไม่ฟัง เด็กเก่งแล้วไม่เอาเลยก็กลัวอยู่เคยแต่คุยเล่น ๆ กับเด็กห้องเพื่อน ส่วนมากก็ปรึกษาอนาคต จะต่อทหาร จะสอบหมอที่นี่ อุ้ยเรื่องนี้เรียนยากไหมครู ครูครับเพื่อนผมอกหัก อ่ะก็มาเลย นั่งเปิดเพลงบิ๊วให้เพื่อนร้องไห้ ครูก็ช่วยปลอบแบบธรรมะแท้ไม่มีคำปลอบใจไป เด็กบอกโห่ครู555 

    มีกิจกรรมอันนึงของหมวดจัดให้เด็กประถม ได้ฐานอธิบายการทดลอง สนุกนะ ทำกับเด็กม.3 กับรุ่นพี่ ก็สอนเด็ก ให้เด็กเอาไปสอนน้องต่อ แต่รู้สึกประถมจะซนไปบางที55 คนที่อยู่กับเราก็อยู่ ช่วยตอบช่วยคิดตาม คนที่มานั่งฟังแต่ใจอยากเล่นก็นั่งอยู่55  ถ้ามีอะไรสนุก ๆ ให้เขาได้เรียนพร้อมเล่นไปด้วยก็ดีส่วนตัวตอนแรกอยากลงประถมแหละ แต่คิดว่าต้องเขียนแผนหลายวิชาก็โอ้ โอ้มายก็อดแล้ว55แต่ดูคิดกิจกรรมรึทำอะไรได้ฟรีกว่าม.ปลายที่ส่วนใหญ่เน้นความรู้เน้นการคิดการทำการสอบอ่ะ

    วู้ฮุ้ ปีสามได้อะไรเยอะอยู่ รู้สึกสนุกตอนสอนละเด็กทำได้ เครียดแหละตอนไม่เป็นแบบที่คิดไว้ เขียนแผนยังไงดี เอาวิธีไหนสอนดี ถ้าไปเจอรรที่โหดที่วิชาการกว่านี้ ครูพี่เลี้ยงเข้มกว่านี่เราจะรอดไหมนะ โอ้
    ปีสี่ฝึกเทอมนึงเต็ม ๆ รับผิดชอบเต็ม ๆ สู้ ๆ คับตัวผมและทุกคน เราต้องเรียนจบให้ได้ ผ่านมันไปให้ได้ขอให้ทุกอย่าเป็นไปด้วยดี ราบรื่น มีพลังและกำลังใจ เจอแต่คนดี  ๆ สิ่งดี ๆ สาธุเพี้ยง ๆ






เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in