บนชั้นสามของโปรดักชั่นเฮาส์แห่งนี้ถือเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนทั้งออฟฟิสเลยทีเดียว เพราะมันเป็นดาดฟ้าที่ทำเป้นพื้นที่โล่งๆไว้ เพื่อจัดปาร์ตี้สังสรรค์เวลามีงานเทศกาลอะไรแล้วไม่อยากออกไปเบียดกับผู้คน หรือบางทีก็เป็นที่เอาไว้ปลีกวิเวกเลียแผลใจหลังจากโดนลูกค้าสั่งให้แก้งานมา…
ทารคากำลังนั่งสูบบุหรี่เป็นมวนที่ห้าของวันนี้ เถ้าบุหรี่หล่นเกลื่อนเต็มพื้นไปหมด แถมหน้าตาก็ยังกะยากูซ่าอดนอนที่พร้อมจะจ้วงแทงยังไงยังงั้น
บากที่นอนเอกเขนกกลิ้งเล่นมือถืออยู่ข้างๆเห็นแล้วยังหงุดหงิดใจปนเครียดแทนไม่ได้ พลางต้องปิดหน้าจอมือถือแล้วหันมาทักซักหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวต้องกลับไปอยู่ในห้องตัดสองคนกับยักษ์อารมณ์เมนส์มาทั้งวันแบบนี้คงไม่ไหว
“เป็นอะไรของมึงทารคา ลูกค้าด่ามารึไง” บากชันตัวลุกขึ้นมานั่งในระดับเดียวกันพลางถามข้อสงสัยอย่างอดไม่ได้
“.......เปล่า กูโอเค...” เป็นคำตอบที่ตอบไปยังงั้นๆ แถมไม่หันมามองคู่สนทนายังคงคาบบุหรี่แล้วปล่อยให้ขี้เถ้าตกต่อไป
“โอเคแล้วทำหน้าแบบยักษ์จะเอากระบองไล่ฟาดทุกคนเนี่ยนะ”
ทารคากลอกตามามองบากแล้วก็ทำท่าคิดหนัก เหงื่อตก เอายังไงดี อืม….อ๊าาาา ก็ได้ๆ เล่าก็ได้ เผื่อไอ้บากมันจะมีความคิดอะไรดีๆ ทารคาหันทั้งตัวมาทางบาก พลางกระดิกนิ้วเรียกให้เข้ามาใกล้ๆ
“(เสียงเบา) คือว่า....เมื่อวันก่อน…
โดนไอ้อ๊อดรุกมา”
“ยังไง?” บากเอียงหัวมองหน้ายักษาตรงหน้าด้วยความอยากรู้
.
.
.
.
.
.
“มึงไปทำอีท่าไหนให้น้องมันจับกดได้วะ ไอ้อ๊อดมันตัวเล็กกว่ามึงตั้งเยอะ”
บากถอนหายใจแล้วเอนตัวเท้าแขนมองท้องฟ้า พลางคิด
…เฮ้อ…ให้มันได้อย่างงี้…
“กูก็ปัดป้องน้องมันทุกอย่างแล้วโว๊ย แต่แบบ…น้องมันมาบอกว่าชอบ...แล้วก็ขอจีบได้มั้ย...คือกูกำลังคิดว่าจะบอกมันว่ายังไง..ดี”
ทารคาชะงักไปนิดเพราะเห็นบากเงียบไป พลางสูดควันเข้าปอดแล้วหันไปมอง แต่เห็นอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาอะไรก็เลยว่าจะสาธยายต่อ
พลันมือสีม่วงยื่นมาคว้าบุหรี่ออกจากปากคนกำลังว้าวุ่น
“อะ..เอาไปท--”
ทารคากำลังจะหันมาด่ากับคนถือวิสาสะ แต่ก็พลันต้องสะดุ้งเพราะดวงตาสีทองพื้นดำเข้ามาใกล้จนแทบจะรู้สึกได้ถึงลมหายใจ
ขนตาสีขาวที่ปกติไม่ค่อยสังเกตุเห็นก็พลันชัดเจน ตอนนี้ในหัวของทารคาลืมเรื่องทุกสิ่งหมดสิ้น จนไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังโดนดันให้ล้มลงนอนทีละนิด….ทีละนิด..
ลมหายใจร้อนจนรู้สึกเหมือนจะทำให้หยุดหายใจ ริมฝีปากที่มีแผลเป็นยาวเผยอขึ้น เหมือนจะเข้ากอบกุมอีกฝ่าย...แต่ก็ชะงักไปด้วยความรู้สึกบางอย่างเล็กๆ
สิบกว่าปีที่อยู่ด้วยกันมา...จะว่ายาวนานก็นาน จะว่ามันสั้นจนเหมือนเมื่อวานก็ใช่….
...ถึงสิ่งที่จะทำอยู่นี่อาจจะไม่ใช่จุดเปลี่ยน….
แต่มันก็จะเป็นเหมือนปมด้ายเล็กๆที่ลูบไปแล้วก็จะสะดุดมือรึเปล่านะ…
ไม่อยากปล่อยไป แต่จะยื้อไว้กับตัวเองก็ใช่ที่….
ทารคาเห็นสายตาบากดูจมลึกหายเข้าไปในความคิดก็พลันลอบมองไปยังแผลเป็นที่ปากของคนตรงหน้า แผลที่ตัวเองเป็นคนฝากไว้..
ทารคายกมือขึ้นมาลูบแผลเป็นจากช่วงจมูกลงมา ไล่ไปจนถึงช่วงคาง บากสะดุ้งกับสัมผัส แต่มันเป็นการสะดุ้งที่ทำให้ในใจปิติยินดี การสัมผัสเขา…ที่มีให้เขาคนเดียวเท่านั้น…
จากที่ใกล้กันอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งรู้สึกใกล้กันมากขึ้น บากโน้มตัวลงมาเล็กน้อย
พอจะเข้าใกล้อีกครั้ง ยักษ์เขียวก็เหมือนจะสะดุ้งนิดๆพอที่จะทำให้ร่างสีม่วงใจไม่ดีขึ้นมา แต่ก็ไม่อยากผละออกไป
เมื่อห่างกันแค่ไม่กี่มิลจนผิวยังรู้สึกถึงสัมผัสแต่ยังไม่แนบกัน ปลายริมฝีปากต่างสีของทั้งคู่ก็สั่นน้อยๆ สองคนที่ไม่รู้ว่าความสั่นนี้คือความกลัว หวั่นไหว ไม่แน่ใจ หรืออะไร..
แค่การขยับตัวเพียงนิดเดียวริมฝีปากทั้งคู่ก็แตะกัน พวกเขามองตากันและกัน จะว่ากระดากก็กระดาก แต่จะว่าเหมือนคุ้นชินก็อาจจะใช่..ทั้งๆที่ไม่เคยจูบกันมาก่อน…
เมื่อเริ่มคุ้นกับการแนบชิดและหายสั่นแล้วก็พลางเริ่มจูบอย่างคนคุ้นเคย….
จูบอย่างเพื่อน….
จูบอย่างคนเคยรู้จักที่ไม่ได้พบกันนาน….
จูบอย่างคนสนิท…
จูบอย่างคนที่ไว้ใจกัน…
จูบให้กับคนที่เราจะอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิต….
เนิ่นนาน……ดูดดื่ม….
มือของทารคายื่นมาจับใบหน้าของบากไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ บากละริมฝีปากออกช้าให้อีกฝ่ายได้หายใจ น้ำเส้นสีใสเชื่อมทั้งคู่ไว้และขาดออกจากกันเมื่อออกห่าง ทารคาหน้าแดงจนเห็นได้ชัด สายตาปรือจนเหมือนความคิดจะหลุดไปไหนแล้ว
บากเห็นแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม แล้วบอกตัวเองอดทนไว้ แค่นี้ก็ก้าวหน้ามาจากสถานะคนสนิทมากๆแล้ว
……คิดว่านะ
บากมองหน้าทารคาพลางคิดอยู่นานจนทารคาถาม
“มองอะไรของมึง...” คนนอนอยู่ด้านล่างทำตาปรือแล้วถามคนข้างบนที่คร่อมเขาไว้ จะว่าดูอารมณ์เสียก็คงนิดหน่อย เพราะคงมีหลายอย่างที่ไม่ได้อย่างใจ โดยเฉพาะโพซิชั่นตอนนี้
“เปล่า... แค่กำลังคิดว่ามึงคงไม่ได้ให้อ๊อดรุกขนาดนี้ใช่มั้ย ก็ไม่เห็นจะมีการป้องกันอะไรอย่างที่ว่าไว้เลย”
ทมิฬที่เท้าแขนสองข้างครอมเอาไว้ยิ้มมุมปากร้ายๆ เหมือนจะเย้ยแต่ก็แฝงเอ็นดูเล็กๆ
@#$%$%^$%^!!!!! ทารคาหน้าแดงสบถด่าออกมาไม่เป็นภาษา
ทมิฬยกบุหรี่ของทารคาที่ถือไว้มาอัดควันเข้าไป ทั้งๆที่นั่งคร่อมตัวทารคาไว้ แล้วก็คืนบุหรี่มวนเดิมให้เจ้าของๆมัน คนนอนอยู่เหมือนโดนปิดปากด้วยบุหรี่รสเดิมเพื่อหยุดคำด่ากลายๆ
แชะๆๆๆ!!
ทั้งสองคนหันมาตามเสียงชัตเตอร์ เห็นเสี่ยวหลานกำลังกดถ่ายรูปที่ประตูทางเข้าดาดฟ้า
ทารคาที่นอนหงายโดนทมิฬทับอยู่ก็เงยคอห้อยหัวมองมาทางเสี่ยวหลาน แล้วก็ทำหน้ายักษ์ใส่ที่ตอนนี้เป็นสีแดงพอๆกับมารตา
“ถ่ายอะไรวะ! ลบทิ้งให้หมด!!” ทารคาแยกเขี้ยวพร้อมคำรามขู่ พลันรีบพลิกตัวโดยไม่สนใจว่าคนที่นั่งทับตัวเองอยู่จะหลบทันมั้ย
“โถ่ว ทำไมมารู้ตัวแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆ นี่นั่งถ่ายอยู่ตั้งนานไม่เห็นมีใครรู้สึกตัวเลย”
เสี่ยวหลานรีบวิงหนีทารคาลงไปชั้นล่างพร้อมเก็บมือถือใส่กระเป๋าที่เอวแล้วล๊อค
“ไอ้เสี่ยวหลานนนน ลบทิ้งงงงง!”
“ไม่ยยยย ชั้นจะเอาไปอัดขายยยย”
“ฟ๊าคคคค”
ทมิฬมองตามไล่หลังทั้งคู่จนเสียงเงียบไป แล้วทิ้งตัวลงนอนอาบแดด
แสงแดดจ้าจนทำให้ต้องหลับตาหนี พลันมุมปากก็กระตุกขึ้นมานิดๆ
พลิกตัวเป็นนอนตะแคงข้างแล้วเขยิบหลบแดดไปใกล้ๆเงาไม้จากตึกข้างๆ ลมเย็นๆพัดมาจนผมสีขาวหมดจนปลิวพริ้วไปตามแรงลม อยู่ๆบากก็เผลอยิ้มออกมาทั้งๆที่ยังหลับตานอน แล้วอยู่ๆก็ยกมือขึ้นมาปิดหน้าอย่างเร็ว
…..บ้าจริง! หยุดยิ้มไม่ได้วุ้ย……
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in