Pairing : จมื่นพันธ์xพรานทมิฬ,อ๊อดxทารคา
ตอน5นี่จะเริ่มมีความเป็นตอนต่อมากขึ้น ถ้าไงอ่านตั้งแต่ตอน1-4มาก่อนจะได้อรรถรสกว่านะฮะ
ปกติตั้งใจว่าจะเขียนแบบจบในตอน ใครอ่านตอนไหนก็ได้ แต่ตอนนี้มันเริ่มไม่ได้แล้วล่ะ55555
---------------------------------------
บากกำลังตัดงานในห้อง ทารคานอนกินหนมรอส่งต่องานตัดบนโซฟา
มารตาก็บรีฟงานถัดไปให้พี่ชายที่นอนเอกเขนกฟัง
อยู่ๆอ๊อดก็เดินเปิดประตูเข้ามา
“พี่เทหะจ๊ะ พี่ช่วยสอนเรื่องการถ่ายให้ชั้นหน่อยได้มั้ยจ๊ะ”
“ห๊ะ สอนอะไร แกก็เป็นตากล้องอยู่แล้วนี่”
“ไม่จ๊ะ เมื่อวานพี่ชาดเอางานเก่าๆที่พี่เทหะเป็นคนถ่ายให้ดูแล้วชั้นประทับใจมุมมองมากๆ จนอยากให้พี่สอนให้จ๊ะ”
คนโดนรบเร้าจากหนุ่มใสซื่อหันไปมองแรงใส่น้องชายผิวแดงเข้มที่นั่งทำหน้าเหวออยู่อย่างกินเลือดกินเนื้อ
“มึงไปขุดงานอะไรให้ดูวะไอ้ชาด” ทารคาลุกขึ้นมาทำหน้าเข้มแยกเขี้ยวใส่น้องชาย
“อ่า ก็แค่งานโฆษณาสองสามตัว สมัยพี่เป็นคนถ่าย แล้วพอดีคอนเซ็ปมันเข้ากับงานใหม่นี่ เลยให้อ๊อดมันเอาไปดูเพื่อศึกษาไว้น่ะ”
บากนั่งตัดงานไปเงียบๆ ทำเป็นไม่สนใจแต่ก็ฟังอยู่ ว่าจะมีคนอาละวาดมั้ย
“ก็ไปสอนมันหน่อยจะเป็นไร เผื่อในอนาคตมันจะถ่ายเก่งเท่าเอ็ง”
ลุงพันธ์ได้ยินเสียงเอะอะก็เลยเดินเข้ามาดู
“ต่อให้ชมกันแบบนี้ก็ไม่มีอะไรให้หรอกนะลุง” ทารคาหรี่ตาพูดค่อนแคะกับคนสูงวัยที่เพิ่งเดินเข้ามา
“เดินขึ้นมายังไงล่ะลุง เดี๋ยวไม้เท้าก็ขัดขาตกบันไดหรอก”
บากไม่หันออกจากหน้าจอ แต่ก็กัดจิกคนแก่กว่าซะหน่อย
“งั้นให้ไอ้ทารคามันไปกับอ๊อดนะ เดี๋ยวข้าช่วยไอ้บากมันตัดเอง”
ลุงยิ้มแบบได้ใจ
“เฮ้ย ไม่ต้องเลยครับลุง! ลุงเป็นโปรดิวซ์ จะมานั่งตัดงานทำไมล่ะวะครับ”
บากรีบหมุนเก้าอี้หันมาต่อปากต่อคำกับคนสูงวัย เพราะถ้าอยู่กันสองคนในห้องกับลุงพันธ์คงไม่วายโดนแกล้งอะไรอีกแน่ๆ
“อ้าว อย่างน้อยก็มานั่งคุมคนตัดไง”
ลุงยิ้มร้าย
“งั้นเราไปกันเถอะจ๊ะพี่เทหะ”
อ๊อดดึงแขนทารคาออกจากห้องไป
“เฮ้ยยย เดี๋ยวๆ อะไรยังไงวะ ไอ้อ๊อดไม่ต้องดึง”
มารตาโบกมือให้พี่ชายพร้อมกับยกเอกสารขึ้นมานั่งดูรายละเอียดต่อ
“มึงจะบ๊ายบายทำไ----“
ทารคาหันมาโวยวายก่อนจะโดนดันตัวออกไป
ณ ห้องเช็คงานชั้นล่าง /ควบห้องดูหนังด้วย
สุดท้ายหลังจากคุยเรื่องทฤษฏีของขนาดภาพไปอย่างละเอียด อ๊อดกับเทหะก็มานั่งดูเรฟหนังกันสองคน อธิบายกันไปฉากต่อฉาก
นั่งดูไปเรื่อยๆเทหะก็สังเกตุว่าอ๊อดเพิ่งไปไถผมด้านหลังมาซะเลี่ยนเชียว
“เนียนเชียวนะ” เทหะพูดทักทรงผมใหม่(?) ที่อ๊อดเพิ่งไปตัดมา ไม่พูดเปล่าเอามือลูบตรงท้ายทอยไปด้วย
“จับแล้วจั๊กจี้มือดี” ทารคาลูบตรงจุดผมสั้นนั้นเพลินๆประหนึ่งลูบหัวหมาขนเกรียน
ทำเอาคนโดนลูบเสียวๆจนต้องเอียงคอ
“ละ แล้วพี่เทหะไม่อยากลองตัดผมสั้นดูบ้างเหรอจ๊ะ เห็นไว้ยาวตลอดเลย”
“อืม ไม่ค่อยได้คิดถึงมันนะ… ก็แค่...ปล่อยมันไปเรื่อยๆนะ” ดูหนังตรงหน้าไปด้วย คิดวิเคราะห์ฉากกับการแพนกล้องไปด้วย ตอบน้องมันไปด้วย มือก็เลยลูบๆไปบนหลังคอไล่จนถึงกกหูอ๊อดเพลินๆอย่างลืมตัว
“……..”
มัวแต่ดูช๊อตหนังเพลิน ทารคาเห็นอ๊อดเงียบไปเลยหันไปดู เห็นอ๊อดมันหน้าแดงแปร๊ดมาจนถึงหู
อ๊อดชม้อยตาขึ้นมามองทารคาอย่างหยาดเยิ้ม
…เอ๊ะ.. บรรยากาศแบบนี้…
…ไอ้ทารคาเอ้ย…แกทำอะไรให้น้องมันเข้าใจผิดมั้ยเนี่ย…
ทารคาเกาหัวแกรก แล้วก็เพิ่งรู้สึกตัวว่ามือตัวเองอีกข้างมันลูบคอน้องเล่นอยู่
“พี่ทารคาจ๊ะ..ไม่รู้ว่าพี่จะพอรู้มั้ย แต่ฉันแอบชอบพี่อยู่…”
ห้องดูหนังนี่ก็ช่างเป็นใจ ปิดม่านสีส้มเข้ม พอแดดส่องเข้ามาก็เหมือนกับเป็นแสงเทียนหรือแสงยามเย็นกลายๆ ช่างดูอีโรติค ให้อารมณ์เหมือนหนังeros ของหว่องกาไวไม่มีผิด
“อ่า..ไม่รู้เลยครับ..”. …อยู่ๆกูพูดสุภาพกับมันทำไมวะ
อ๊อดเบียดตัวเข้ามาใกล้ยักษ์เขียวมรกตที่ตอนนี้นั่งนิ่งจนตัวลีบ
“แต่ก็กลัวว่าพี่จะรังเกียจ..เลยกะจะบอ—“
“รังเกียจอะไร! มันไม่เกี่ยวว่าเป็นผู้ชายหรอกนะผู้ชายพี่ก็โอเค เพียงแต่ว่าเราก็เพิ่งจะรู้จักกันไ—“
เขาล่ะไม่ชอบนักกับพวกแบ่งแยกเพศทำทีท่าว่ารังเกียจอย่างนั้นอย่างนี้ ได้ยินเรื่องแบบนี้ทีไรแล้วก็อารมณ์ขึ้น ไม่อยากให้น้องมันรู้สึกไม่ดีว่าเราจะรังเกียจมันแบบนั้นเลย
อ๊อดยืดตัวขึ้นบนโซฟาพอที่จะค้อมตัวลงมาหาคนผมแดงด้านล่าง แล้วคว้ามือทารคามาจับไว้แน่น
“จริงเหรอครับ” ปกติพูดจ๊ะจ๋าเป็นประจำ แต่พอตื่นเต้นแล้วเหมือนลิ้นจะพันกันจนประสาทสั่งการไม่ได้
“เอ๊ะ” คนตัวใหญ่กว่าทำหน้างง
“ที่พี่ว่ากับผู้ชายก็โอเค” อ๊อดกุมมือทารคาไว้ สายตาเปี่ยมไปด้วยความหวังและศรัทธา
“เอ..อ่ะ.. ก็...ใช่…” ทารคาเบือนหน้านิดๆแล้วกรอกตาไปด้านข้างก่อนจะยิ้มแห้งๆตอบออกไป
....รึกูกำลังทำอะไรพลาดไปวะทารค๊าาา!...
“ตอนแรกผมกะจะบอกเฉยๆ ไม่ได้คิดเลยครับว่าจะมีความหวังแบบนี้”
อ๊อดโค้งตัวลงมาใกล้อีก คราวนี้แทบจะทับลงมาทั้งตัว โชคดีที่โซฟาตัวที่นั่งกันอยู่ตัวใหญ่พอที่จะรับน้ำหนักคนกับยักษ์ได้พร้อมกัน
“งั้นจีบได้มั้ยครับ”
อ๊อดทำหน้าหื่นโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับตาดำขลับที่เป็นประกายของความสุข
“เอ่อ มันก็…”
คนโดนทับก็ไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มเอียงตัวโน้มลงนอนมาตั้งกะเมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงโดนต้อนมาจนถึงจุดนี้ได้ นี่มันกำลังขออนุญาตจีบหรือกำลังขออนุญาตอะไรวะถึงต้องเข้ามาชิดจนตัวแนบกันขนาดนี้
แกร๊ก!
“พี่.. พี่บากตัดจะเสร็จแล้ว เดี๋—“
มารตาเงยหน้าจากเอกสาร แล้วชะงักมือหนาใหญ่ไว้ที่ลูกบิด พลันหันมามองพี่ชายตัวเองที่กำลังโดนรุกอยู่แน่ๆ สองมือของทารคากำลังดันตัวอ๊อดให้ออกห่าง ส่วนอ๊อดก็แทบจะคร่อมพี่เขาไว้ทั้งตัว
ทารคาทำปากขมุบขมิบไปทางมารตาเป็นสัญญาณว่าให้ช่วยหน่อย ทำอะไรซักอย่างทีซิ!
“ไอ้เบิ้ม ทำไมไม่เข้าไปวะ ยืนขวา—“
ปึ๊ง!!
มารตาหันตัวปิดประตูอย่างแรงแล้วเอาตัวขวางประตูไว้ไม่ให้วาตะเข้าไปได้
“ขอโทษครับ!!” ยักษ์สีชาดหน้าถอดสี…บ้าเอ้ย ว่าแล้วว่าต้องกำลังคบกันอยู่ พี่ก็ปฏิเสธอยู่ได้!
เอ๊ะ แต่พี่อยู่ล่างเหรอ!
…อา…ไม่คิดเลยว่าจะต้องมารับรู้สถานะบนเตียงของพี่ตัวเองแบบนี้…
“อะไรของเอ็งวะไอ้เบิ้ม! ไม่เรียกพี่เอ็งไปกินข้าวเหรอ!” วาตะทุบเข้าที่ไหล่ชาดด้วยความไม่พอใจ หรืออาจจะกลัวว่าตัวเองก็จะอดกินเหมือนกัน
มารตาส่ายหน้าให้กับความรู้สึกอะไรบางอย่าง…แล้วก็จูงมือวาตะเดินลากออกห่างจากห้องไป
“เดี๋ยวววว ไอ้น้องใจยักษ์ อย่าเพิ่งไปยยยยย”
กลับมาที่ห้องตัดต่อ
หลังจากที่มารตาบรีฟงานเสร็จก็ออกไปจากห้องตัด ปล่อยให้บากและลุงพันธ์อยู่ในห้อง
บากก็ตัดงานไปเงียบๆ แต่ก็แอบมีเหลือบมาระแวงหลังบ้าง
มันก็ธรรมดานะถ้าโปรดิวซ์จะมานั่งดูงานตัดบ้าง อืม…ลูกค้าอาจจะอยากให้มาดูความคืบหน้าล่ะมั้ง...
เอากันจริงๆ ตั้งแต่รู้กจักลุงแกมา ก็รู้สึกแค่ว่า “ลุงโปรดิวซ์ที่เป็นพ่อของอ๊อด” เท่านั้น
แล้วก็รู้สึกว่าทำตัวลำบากเวลาอยู่ต่อหน้าลุงแก เพราะแกชอบมาจ้องๆกันเหมือนจะจับผิด ตอนแรกก็นึกว่าจะมาดูงานที่ตัด แต่ขนาดตอนกินข้าวแกยังนั่งจ้อง ก็รู้สึกเกร็งๆอยู่บ้าง แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะภาพลักษณ์ตัวเองที่ดูติดแบดบอยนิดๆด้วยล่ะน—
บากสะดุ้งโหยง ระหว่างกำลังคิดๆแล้วก็ตัดงานไปด้วย ลุงพันธ์ก็เดินมายืนขนาบข้างโต๊ะด้านซ้าย
“พักหน่อยมั้ย นี่ตัดมาสี่ห้าชั่วโมงแล้วนี่ ตาคงล้าหมดแล้ว” คนสูงวัยกว่าเดินมาทักแล้วก็เหลือบมองไปที่รอยช้ำใต้ตาของคนผิวม่วงหม่น
“เอ่อ ผมโอเคอยู่ครับ เดี๋ยวค่อยนอนพักทีเดียว” บากพยายามตอบแบบเลี่ยงๆ
“น่า ถือว่าบริการคนแก่ หิวแล้วด้วย ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย มีอะไรกินมั่งมั้ย”
ลุงพันธ์ว่าอย่างนั้นแล้วก็หันมายิ้มเบาๆให้
…วันนี้ดูลุงแกเข้าหาแบบใจเย็นกว่าทุกทีแฮะ…
…สุดท้ายก็เลยพากันลงมาห้องครัวด้านล่าง (*ในเฮ้าส์จะมีครัวเล็กๆไว้ให้ทำอะไรง่ายๆกินกันเอง จะมีวัตถุดิบง่ายๆแบบไข่ไก่ ขนมปัง แฮม ไรงี้ไว้ให้ด้วย ใครอยากกินไรก็บริการตัวเองได้เลย)
ร่างสูงกว่าเหล่มองลุงอย่างไม่ไว้ใจ พลางดื่มโกโก้ไปด้วย
…วันนี้ดูสงบเสงี่ยมแฮะ เกิดอะไรขึ้นหว่า…
ลุงกินแพนเค้กที่เขาเป็นคนทำให้ไปพลางดื่มน้ำเต้าหู้ไปพลาง พลันบากเห็นเศษขนมติดที่ปอยผมลุงตรงใกล้ๆหูเลยเดินอ้อมเค้าเตอร์มา
“กินยังไงเนี่ยลุง กระเด็นมาถึงนี่”
คนทักก้มลงมาหาลุงที่นั่งอยู่ แล้วเอื้อมมือมาหยิบชิ้นขนมออก ปลายนิ้วเรียวยาว เกลี่ยโดนปลายผมและใบหูของลุงช้าๆ
ลุงพันธ์หน้าแดงขึ้นมาทันที
“มะ..มันก็กระเด็นกันได้ล่ะน่า” ลุงเอามือขึ้นมาปิดหูข้างที่โดนแตะไป
บากเอาเศษขนมเล็กๆนั่นเข้าปากแบบไม่คิดอะไรมาก แล้วก็สังเกตุว่าลุงหน้าแดงขึ้น
“เป็นอะไรอีกล่ะ อยู่ๆก็ดูหน้าแดงขึ้นมา”
ทมิฬยืนกอดอกพร้อมเคี้ยวขนมตุ้ย แล้วก็ซดโกโก้เข้าไปอีกอึกใหญ่ แต่สายตาก็ไม่ได้ละไปจากลุง
“มีไข้รึ---”
บากทำท่าจะเอามือไปแตะหน้าผาก แต่ก็โดนลุงชิงปัดมือก่อน
“มะ ไม่ได้เป็นไข้เว้ย แค่อากาศร้อนน่า”
ลุงก้มหน้าก้มตาซัดน้ำเต้าหู้ต่อ ทำตัวงุดๆ ดูไม่มีพิษสงเท่าทุกที
คนผิวม่วงหม่นเริ่มงงกับท่าทีของลุง
เอ...หรือว่า...ตาลุงนี่ก็แพ้ทางเราเหมือนกันนี่หว่า ชอบมาแกล้งเราอย่างนู้นอย่างนี้บ่อยๆ
พอโดนทำเหมือนหยอกกลับบ้างดันไม่ชอบซะเองงั้นเหรอเนี่ย
ยังงี้ก็สวยเซ่…//ยิ้มชั่วร้ายแบบพรานทมิฬ
ลุงพันธ์ทำท่าว่าจะลุกเดินไปอีกห้อง
“อ้าวลุง ไม่กินแล้วเหรอ เหลืออีกตั้งเยอะ
“เออ เอ็งกินไปเลย” ลุงพันธ์พยายามรีบลุกขึ้นเดินทั้งๆที่สังขารไม่อำนวย
บากเดินจ้ำก้าวยาวๆมาจับแขนลุงที่พยุงด้วยไม้เท้าไว้
“เดี๋ยวซิลุง อยู่ๆก็หนีกันไปเลยได้ไง ” ร่างสูงกะวางแผนปั่นหัวลุงเล่นซักนิดนึง เผื่อว่าได้ผล
จะได้เอาคืนลุงเวลาแกล้งเขามั่ง ถ้าเป้าหมายจะหนีไปเร็วแบบนี้ก็ไม่ทันได้ทดลองอะไรกันพอดี
บากยื่นหน้ามาพูดใกล้กับหน้าลุงมากๆ จนลุงรู้สึกได้ถึงลมหายใจ ส่วนนึงก็กะแกล้งลุงให้ตกใจเล่นด้วย
คนตัวสูงยิ้มมุมปากแบบคนเหนือกว่า
“ไหนว่าจะช่วยกันตัดงา---”
ลุงพันธ์หันมาตามแรงรั้งของอีกฝ่ายพร้อมกับดึงคอเสื้อของบากลงมาและจรดริมฝีปากลงบนใบหน้าของคนตรงหน้า นัยน์ตาพื้นดำสีเหลืองทองเบิกขึ้นอย่างตกใจที่สุดในชีวิต จนไม่ได้ยินเสียงไม้เท้าของลุงที่เอียงหล่นไปที่พื้น ลุงใช้ลิ้นดุนให้โดนปลายลิ้นอีกฝ่ายนิดหน่อย พอให้ตกใจ แล้วก็ถอนริมฝีปากออกจากร่างสูงที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอประหนึ่งปลาตาย
“ข้าอุตส่าห์อดทนแล้วก็เดินหนีแล้วนะ! เพราะกลัวทนหมันเขี้ยวเอ็งไม่ไหว เอ็งที่ยืนหันหลังทำขนมอยู่กับเสื้อเสว็ตเตอร์คอกว้างๆนั่น ทั้งต้นคอเอ็งแล้วก็ไหปลาร้าเอ็ง ทำข้าจะหมดความอดทน!
แต่เอ็งก็เดินตามมาเอง.. แถมเอาหน้ามาซะใกล้เหมือนจะลองใจกัน”
ลุงร่ายยาวเหมือนกับระบายความรู้สึกที่มันล้นทะลัก ที่ต้องอดทนมาทั้งวันหรือตลอดหลายชั่วโมงที่นั่งอยู่ด้วยกันสองคนในห้องตัดต่อเล็กๆนั่น
“นี่...…ลุง..แกล้งกันเล่น..หรือว่ายังง-ไง….ครับ”
ยังไม่ลืมที่จะพูดสุภาพ บากทำหน้าช๊อคๆ ตัวเซนิดๆเหมือนจะยืนไม่อยู่ หน้าสีม่วงอ่อนก็เริ่มมีสีแดงเจือๆบ้างแล้ว
“ไม่รู้ คิดเอาเองซิ!”
ลุงพันธ์พูดยิ้มๆ แล้วก็เดินเขยกๆไปหยิบไม้เท้าข้างที่หล่นขึ้นมา
“ตัดงานที่เหลือให้เสร็จนะ แล้วเดี๋ยวจะกลับมาตรวจ”
“มะ..ไม่ต้องครับ!!ผมส่งไปให้ตรวจแบบทุกทีได้!”
แล้วทมิฬก็รีบหันกลับวิ่งขึ้นห้องตัดไป พร้อมกับความWTFในหัว
ลุงหันมองตามจนได้ยินเสียงประตูห้องตัดปิดดังปัง
“เฮ้อ...จะน่ารักไปไหน”
ลุงหัวเราะในคอ พลันหยิบหมวกที่แขวนไว้มาใส่ แล้วก็เดินออกจากเฮ้าส์ไปเนิบๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in