เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Life of PoonPoon :)
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวตรัง เกาะมุก เกาะไหง
  • สวัสดีจ้า กลับมาอีกแล้วกับการเขียนเรื่องเที่ยว (อีกแล้ว?) 55555 ก็มานั่งคิดนะว่านี่เที่ยวทุกเดือนเลย - -
    เข้าเรื่อง เนื่องจากออฟฟิศให้หยุดวันที่ 5-6 ติดกัน เราก็เลยเหมาหยุดยาว 5-8 นี้ไปตรังโลด ไปกันเล้ย

    เริ่มจากการเดินทาง รอบนี้ไป-กลับโดยรถไฟ ขาไปไปแบบนั่ง ขบวน 167 กรุงเทพ-กันตัง 
    (แต่เราลงตรังเพราะอะไรก็ไม่รู้ ยังงงอยู่ว่าทำไมไม่ลงกันตังทั้งที่มันใกล้ท่าเรือกว่ามั้ย?) - -* 
    ราคา 421 บาท ออกเดินทางวันที่ 4/4/61 

    ออกเดินทางจากหัวลำโพง เวลา 18.30 น.จ้า ถึงตรัง 10.30 น. โดยประมาณ คร่อก Zzz..
    5/4/61
    พอลงสถานีรถไฟตรัง ก็เคยติดต่อพี่จิ๊บ เอเยนต์ทัวร์เกาะมุก (อ่านเจอมาจากรีวิวสักที่) ราคา 350 บาท
    ก็ได้นั่งรถตู้แล้วไปขึ้นเรือหางยาวต่อที่ท่าเรือควนตุ้งกู 
    สมาชิกที่ขึ้นเรือไปด้วยกันก็มีคู่ชาวต่างชาติอีก 2 คน ก๋็เอ้อ โอเค ส่วนตัวดีเหมือนกัน 5555
    แล้วก็มาถึงเกาะมุก ประมาณเที่ยงครึ่ง (ใช้เวลา 2 ชม. จากเมืองตรัง)
    พอมาถึงก็ไล่ถามว่า Koh Mook Seaview Bungalow อยู่ที่ไหนเหรอคะ? #ภารกิจเช็คอินที่พักต้องมา ก็ได้ความว่าเดินจากท่าเรือได้ ก็โอเค เรื่องเดินเราไม่กลัว แต่เราหิว! 55555 
    เดินเข้าไปร้านค้าร้านแรกที่เห็นบนเกาะก่อนเลย แล้วถามว่า 
    'พี่คะ ถ้าจะไปถ้ำมรกตกับดำน้ำ หนูต้องไปติดต่อตรงไหน? แบบมีราคาสำหรับคนเดียวมั้ย?' 
    พี่เขาก็เลยแนะนำ Mr. Yong Tour ก็ตกลงโปรแกรมทัวร์กันสำเร็จในราคา 1,000 บาท
     สำหรับดำน้ำรอบเกาะมุก + พาเข้าถ้ำมรกต 
    แล้วก็ได้จองเรือไปเกาะไหงในวันที่ 6 ต่อเลยรวดเดียว ราคา 350 บาท
    แล้วก็เช็คอินที่พัก + นั่งกินมื้อเที่ยงจ้า แดดดีเหลือเกิน สดชื่น :D 
    พอจัดแจงเอากระเป๋าเก็บ เข้าห้องน้ำ ฯลฯ อะไรเรียบร้อย ก็ออกไปทัวร์ค่า มีนัดตอนบ่ายสอง Let's go!
    น้ำใสมาก สายดำน้ำห้ามพลาด ;) 
    อันนี้ถ่ายย้อนแสง เรือที่พาเราทัวร์วันนี้นี่แล 
    วันนี้บรรยากาศยังเงียบอยู่ อาจจะมีสวนเรือลำอื่นบ้าง เจอคนพายเรือคายัคบ้าง ดำน้ำบ้าง
    นี่คือหาดสบาย อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเกาะ ด้านตรงข้ามท่าเรือเกาะมุก 
    สภาพหลังจากดำน้ำไปแล้วจุดหนึ่งแล้วแวะลงไปเดินหาดเล่น ก็เลยบอกพี่ถ่ายรูปให้หน่อย 5555
    ถ้ำมรกต ลุยๆๆ ความตื่นเต้นคือที่นี่ไม่ต้องใช้หน้ากาก snorkel แค่ว่ายธรรมดาได้เลย
    จุดที่มืดก็คือมืดสนิทจริงๆ ไม่มีแสงเล็ดลอดเข้าไปเลย พี่คนที่พาเราเข้าไปก็ต้องติิดไฟฉายไว้ที่หัว
    บรรยากาศหลังออกมาอีกฟากของถ้ำจ้า น้ำสีสวย เขียวมรกตเหมือนเดิม 
    พี่เขาบอกว่าตรงนี้แทบจะเป็นใจกลางของเกาะ ส่วนระยะที่เราว่ายผ่านเข้ามาก็ประมาณ 80 เมตรได้
    (แต่ตอนเข้ามารู้สึกนานมาก อาจจะเพราะตื่นเต้น ฯลฯ แต่ขาออกจากถ้ำนี่รู้สึกแปบเดียว 555+)
    มุมมันได้จริงๆ ปาหัวใจใส่เลยนี่แน่ะ ปิ้วๆๆ *-*
    จริงๆ ถ้ามาช่วงน้ำลด ก็สามารถพายเรือลอดถ้ำมรกตเข้ามาได้นะคะ 
    เพราะว่าเพดานของถ้ำค่อนข้างสูงพอสมควรเลย แต่ถ้าเอาเข้ามาช่วงน้ำขึ้นก็ระวังหน่อยแล้วกันเนอะ
    ไปกันต่อจ้า แดดก็ดี๊ดี ไม่มีวี่แววฝนอะไรทั้งนั้น! แล้วก็ไปดำอีกจุดที่พี่เขาบอกมีปลาดาวเยอะๆ ก็เจอหลากหลายพันธุ์และสี
    ปลาดาวตัวใหญ่มากประเด็น เอาขึ้นมาถ่ายรูปประมาณ 5 นาที แต่ก็ปล่อยน้องๆ กลับสู่ท้องทะเลตามเดิม
    หลังจากใช้เวลาเกือบ 3 ชม. ในทะเล เราก็กลับมาถ่ายรูปรอบเย็นที่เกาะกันต่อ
    /แต่ว่าพระอาทิตย์ตกอีกด้านของเกาะ บายจ้า -0-
    มืิ้อเย็น กินร้านนี้ตามที่พี่ร้านขายของแนะนำมา รสชาติและราคาโอเคสำหรับคนไทยค่ะ ไม่ชาร์จเกินไป
    [เรากินสลัด 60 บาท]
    แผนที่เกาะมุกที่ที่พักให้ไว้ จะเห็นว่าแหลมของเกาะทางขวามือคือเกาะมุก ศิวาลัย บีช รีสอร์ท 
    ซึ่งพี่คนขับเรือบอกว่าเป็นมุมที่พระอาทิตย์จะขึ้น เช้าพรุ่งนี้เจอกัน!
    อ้อแล้วก็ที่นี่มีโปสการ์ดขายนะคะ ของร้านบุญชูเช่นกัน (ไม่ได้สปอนเซอร์มานะ 55)
    ประทับใจมาก เพราะว่าไม่ใช่ทุกเกาะจะมีโปสการ์ดขาย แถมลายของเกาะมุกค่อนข้างโอเคเลย :)
    (ส่วนใครจะเป็นผู้โชคดี ให้คุกกี้ทำนายกัน :p)
    6/4/61 สวัสดีตอนเช้าจ้า ต่อไปนี้คือรูปวิวพระอาทิตย์ขึ้นยาวไปเน้อ
    สวัสดีเจ้าปูลม
    ที่เซอร์ไพร์สคือเจอปลาดาวบนชายหาดแต่เช้าเนี่ยแหละ งื้อ
    คือด้วยความที่เราชอบเที่ยวทะเล เกาะ แล้วที่นี่เป็นเกาะแรกที่เจอปลาดาวเยอะและง่ายมาก เลยฟินมาก
    แต่ในฐานะนักท่องเที่ยวก็ช่วยกัน ด้วยการแค่ถ่ายภาพ เก็บความประทับใจแล้วก็ปล่อยเขาอยู่บ้านของเขาแบบเดิมเนอะ อย่าไปเก็บเขากลับมาด้วยล่ะ
    การแรนด้อมให้คนข้างทางถ่ายรูปให้มาอีกแล้วจ้า เจอผญ.ต่างชาติเดินอยู่คนเดียวก็เข้าไปบวกเลย
    /แต่ background ขยะด้านหลังนี่ไม่สวยเท่าไหร่แฮะ
    พูดถึงเรื่องขยะ คือตอนแรกก็มีความคิดแว่บหนึ่งว่ามันน่าเดินเก็บนะ แต่ก็แบบ เอ้อมันเยอะนะ
    แล้วก็ได้แต่เดินผ่านไปตามระเบียบ รอบหน้าจะพยายามไม่ขี้เกียจแบบนี้ -/|\-
    แล้วก็เดินเข้าโซนหมู่บ้าน ตามหาอาหารมื้อเช้าจ้า
    เห็นป้ายนี้ก็แอบชะงักนิดนึง ว่าเอ้อ ถ้าแจ็คพอตเจอสึนามิจริงๆ นี่จะทำยังไง จะวิ่งไปที่ไหนนะ
    มื้่อเช้าง่ายๆ ด้วยโอวัลตินร้อนและปาท่องโก๋ ทั้งหมดนี้ 25 บาท อิ่มกำลังพอดี สบายละ
    แล้วเราก็นั่งชาร์จแบตมือถือ+นั่งชิลแถวที่พัก แล้วก็เช็คเอาท์ ขึ้นเรือไปเกาะไหง 11.00 น.
    ถึงแล้วเกาะไหง ดีจ้า
    สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเกาะไหงคือที่นี่ไม่มีถนน ใช่อ่านถูกแล้ว ไม่มีถนนจ้า
    ไม่เดินเท้า ก็ต้องลงทะเล มีแค่นี้ 55555 /เพราะเคยเก้อตอนจองที่พักผ่าน booking.com 
    แล้วเขียน special request ว่าขอจักรยาน เจอที่พักตอบกลับมาบอกว่า 
    "ที่นี่ไม่มีถนนนะคะ มีแต่ชายหาดให้เดินเท้าค่ะ" ถึงกับเงิบไปชั่วขณะ 
    แต่พื้นที่เกาะมีน้อย ก็ไม่น่ามีจริงๆแหละนะ 
    แล้วด้วยความเฟอะฟะ นี่ก็ไม่แจ้งเรือที่มาส่งว่าพักที่เกาะไหงรีสอร์ท (เพราะไม่รู้ว่ามีท่าเรือส่วนตัว)
    ไอเราก็ลงหาดหลัก เป็นไงละ เดินเกือบกิโลจ้า แถมไม่คาดคิดว่าทางเดินมาที่พักต้องแอดเวนเจอร์เบอร์นี้
    จริงๆ มันมีจุดพีคกว่านี้ แต่ก็สัมภาระเยอะ ไม่มีเวลาถ่ายรูป /me เปลี่ยนรองเท้าเป็นผ้าใบทันที
    แล้วก็ถึงที่พักจ้า เกาะไหงรีสอร์ท พอใจมาก แต่ก็หิวมากเช่นกัน ลงไปหามื้อเที่ยงกันดีกว่า
    Welcome drink ที่นี่เป็นพันช์ ซึ่งจะได้รับตอน check-in ที่พัก
    อันนี้สัปปะรดปั่น ระหว่างรอจานหลักมาจ้า
    ทานเสร็จแล้ว มาชมวิวในที่พักกันดีกว่า ชิลสุด อะไรสุด /และพบว่าทรูมูฟไม่มีสัญญาณจ้า
    ถึงกับเดินไปเอาชีทอ่านสอบป.โท มานั่งอ่าน อ่านกฎหมายทะเลริมทะเลก็ได้ฟีลอีกแบบ อิ้อิ้
    พอประมาณเกือบห้าโมงเย็น เราก็เก็บชีท เพราะจำได้ว่าที่นี่มีแหลมเจ้าแม่กวนอิม
    มีจุดที่ชมวิวทะเลตรังได้ คิดได้แล้วก็ไปค่ะ
    #วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า สุดๆไปเลยทริปนี้
    ความยากของการเดินบนหินคือถ้ามันเป็นหินที่เปียกน้ำ มันจะลื่นมาก เสี่ยงล้มมากๆ
    ถึงแล้ว ปีนขึ้นมาแล้ว แต่รู้สึกว่ามันสูงเท่านี้เหรอ ไรงี้
    พอเงยหน้าขึ้นไปเจอจุดที่น่าจะได้วิวถ่ายรูปที่ดีกว่านี้ได้ ก็ตัดสินใจปีนเฉยย
    คำถามในตอนนั้นคือ "ขึ้นมาทำมั้ยยยยยยยย?????" 55555555 ความโง่ของตัวเอง
    ได้แค่นี้ เพราะไม่มีจุดโล่งๆกว้างๆ ที่ไม่มีต้นไม้เลย เศร้ามาก
    ขาขึ้นว่าขึ้นมาแบบชันๆ ขาลงเนี่ยแหละ รู้เรื่องเลยค่ะ ฮ่าๆ
    ตอนนั้นน่าจะห้าโมงครึ่งได้แล้ว ใกล้มืดเข้ามาทุกทีๆ /สมองนี่คิดไปถึงเรื่องติดอยู่ในป่า
    ท้าทายสมใจไหมล่ะ อยู่บ้านดีดีไม่ชอบ อยู่บ้านดีดีไม่ชอบ... 55555555 T-T
    ฮ่า แต่ก็ make it happen ขึ้นได้ก็ต้องลงได้ กลับมาสู่จุดพื้นที่ราบอีกครั้ง 
    เป็นความสบายใจแบบบอกไม่ถูก
    ก็จะยิ้มแหยๆหน่อย เพราะรู้สึกเฉียดตายแล้วมั้ยตะกี้ /แรนด้อมให้คนข้างทางถ่ายรูปเช่นเดิม 55
    เย็นแล้ว จะมืดแล้ว หิวข้าวมาก แต่ก็ต้องออกจากโซนรีสอร์ท เพื่อติดต่อโลกภายนอก
    เพราะ wi-fi ที่นี่ก็สัญญาณอ่อน + ทรูมูฟไม่มีสัญญาณ 
    แต่ก็คิดนะว่าไปกินที่หาดหลัก ขากลับต้องเปิดไฟฉายเดินเข้าป่าเพื่อกลับเข้าที่พัก?
    แล้วเราก็ตัดสินใจทำตามนั้นแหละ เหอๆ
    จัด Special dinner เลยจ้า ไปที่เกาะไหง แฟนตาซี รีสอร์ท แอนด์ สปา
    สเต๊กไก่และ Mai Tai ฉลองให้กับการผจญภัยในวันนี้ 
    /me เปิดไฟฉายเดินกลับที่พัก ก็จะมีความกลัวหน่อยๆ แต่ก็กลับถึงที่พักโดยสวัสดิภาพจ้า
    7/4/61
    สวัสดีตอนเช้าด้วยอเมริกันเบรคฟาสต์ค่า ^o^ ถ้าได้ตื่นมากินริมทะเลแบบนี้ทุกวันก็น่าจะฟิน
    วันนี้ต้องเดินทางกลับแล้ว จองเรือกลับตรังกับที่พักไว้ 500 บาท (เรือ+รถ) รอบ 09.30 น.
    หลังทานอาหารเสร็จ และแพ็คของเสร็จตั้งแต่ตื่นแล้ว ก็เลยเดินเลาะชายหาดเล่นอีกหน่อย
    ปลาเสือ ปลาเสือเต็มไปหมดเลยย
    ได้ขึ้นเฟอร์รี่ละ เย้
    ถึงหาดปากเมงแล้วว
    มาถึงเมืองตรังแล้วก็ต้องกินหมูย่าง เราก็เลยเอากระเป๋าใบใหญ่ไปฝากไว้กับสถานีรถไฟตรัง
    แล้วแว้นวินพี่สุชาติไปตระเวนหาร้านหมูย่าง /ซึ่งส่วนใหญ่จะปิดแล้ว เพราะเขาเปิดกันแต่เช้า
    แต่ยังทันร้าน "ตรังหมูย่าง" เย้
    แล้วก็ไปนั่งชิลร้านกาแฟข้างๆ ร้านหมูย่าง เพื่อชาร์จแบตมือถือ+หาของหวานทานเล่น
    จนบ่ายสาม ก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะรถไฟขากลับคือรอบ 17.25 น.
    ก็เลยเดินไปหาวินมอไซค์ ถามว่าในเมืองมีที่ไหนน่าไปบ้าง
    พี่เขาก็พาไปไหว้อนุสาวรีย์ พระยารัษฎานุประดิษฐ์ มหิศรภักดี ก่อนเลยที่แรก
    ก่อนที่จะพาแว้นออกไปราว 10 กม.
    เพื่อพาไป "ภูหลวง ลูกลม" ซึ่งอารมณ์เหมือนออกไปชานเมือง และแวะให้ซื้อเค้กท่าปาบ
    จบทริป กลับสู่สถานีรถไฟตรังจ้า ถือว่ายังเก็บไม่ครบ 
    เพราะยังไม่ได้ไปกันตัง, ถ้ำเลเขากอบ, เกาะเหลาเหลีียง แปะไว้ก่อนเน้อ
    ทริปนี้คาดว่าหมดไปราวๆ 5 พันบาท ก็เป็นเรทการเที่ยวคนเดียวของเรา แต่ต้องเซฟเงินมั่งละ เฮ้อ
    แล้วเจอกันกับทริปหน้าที่เกาะลันตา จ.กระบี่ :) 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in