เป็นนักท่องเที่ยว........ที่ชอบอยู่บ้าน
งงมั้ย?
ใช่ เราชอบท่องเที่ยว
ทุกครั้งที่มีโอกาส เรามักพาตัวเองไปอยู่สถานที่ใหม่ๆเสมอ พูดแล้วนึกถึงสมัยไปเรียนปริญญาโท ตอนนั้น ทุกครั้งที่ว่าง เราจะกางแผนที่ออกดู ว่ารอบที่อยู่ตัวเองนั้นน่ะ มีที่ไหนพอไปทัศนาจรได้บ้าง
แล้วก็นั่งรถไป ถ้ามีเพื่อนไปก็ไปกับเพื่อน ไม่มีก็ไปคนเดียว
ถึงคนข้างๆจะมีส่วนทำให้การเดินทางสนุกขึ้นได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่หัวใจสำคัญของการเดินทาง คือการหาโอกาสให้ตัวเองได้เปิดโลกทรรศน์ใหม่ๆ ได้ประสบการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ได้ค้นหาและเรียนรู้หลายสิ่งอย่างเพิ่มขึ้น
จะไปกี่คนก็ตาม ขอให้ได้เที่ยวเถอะ
นอกจากประสบการณ์ อีกสิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาด้วย นั่นคือรูปถ่ายสวยๆของสถานที่ท่องเที่ยว
ใช่ เราชอบถ่ายรูป
การถ่ายรูปที่ว่า ไม่ใช่การปรับโหมดกล้องมาที่กล้องหน้า แล้วทำการเซลฟี่ตัวเอง
แต่ คือการยืนอยู่บนยอดเขา แล้วกดโหมดพาโนราม่า เพื่อเก็บทัศนียภาพรอบๆตัว
...คือการย่อตัวลง เอากล้องเข้าไปใกล้ดอกไม้ ปรับสี เลือกโฟกัส แล้วกดชัตเตอร์
...และคือการร้องเหมียวๆ เรียกแมวแถวนั้นให้หันหน้ามาเพื่อถ่ายรูป
สรุปก็คือ เราถ่ายทุกสิ่งอย่าง ที่ไม่ใช่คน...และเจ้าของกล้อง
เรารู้สึกดีทุกครั้งเมื่อกลับมาดูรูปต่างๆที่ตัวเองถ่ายมา บางรูปเรานำมาเป็น wallpaper ของคอมพิวเตอร์ บางรูปเอาลงเผยแพร่ทางเฟสบุ๊ค และบางรูป
.......ก็เอาไว้ดูเล่นๆเวลานึกถึงช่วงเวลาเก่าๆ
ไม่ต้องถ่ายรูปตัวเองก็มีความสุขได้
นอกจากประสบการณ์และรูปถ่ายแล้ว ถ้าขยันพอ อีกสิ่งหนึ่งที่ได้ติดตัวกลับมา นั่นคือ บันทึกการเดินทาง
เราเป็นคนชอบจดบันทึก และเมื่อใดที่ไปท่องเที่ยวทริปยาวๆหรือหลายๆวัน ถ้าขยันพอ เรามักพกสมุดจดติดตัวไปด้วย และบันทึกทุกสิ่งตามที่สมองรายงานลงสมุด
...และมันสนุกมากเมื่อกลับมาอ่านหลังจากนั้น
ไม่ใช่แค่รายงานว่าเราไปทำอะไรบ้าง แต่มันยังเป็นสมุดจดความรู้เมื่อไปเยือนสถานที่ต่างๆว่า แต่ละที่ที่ไปนั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีเกร็ดความรู้ใดบ้างเกี่ยวข้อง ตลอดจนเล่าเรื่องราวในแต่ละวันว่า คนเขียนน่ะมีความคิดเห็นต่อสิ่งรอบตัวไปในทิศทางใดบ้าง
......พอกลับมาอ่านเหมือนเราได้ย้อนตัวเองไปอยู่ตรงนั้นอีกครั้งหนึ่ง และมันรู้สึกดี
และเพราะการเดินทางทำให้เราได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ เราจึงชอบท่องเที่ยว
แต่ในอีกมุมหนึ่ง เราก็ชอบอยู่บ้าน
เมื่อใดก็ตาม ที่ชีพจรย้ายจากเท้าลงสู่หลังคาบ้าน เมื่อใดก็ตามที่ชีวิตต้องหยุดอยู่กับที่เพื่อทำกิจการใดๆให้ลุล่วง เมื่อใดก็ตามที่ความรับผิดชอบสำคัญยิ่งกว่าอิสระเสรี
...เมื่อนั้น จะรู้ได้ทันทีว่า เราต้องอยู่เฉยๆบ้างแล้ว
เฉกเช่นตอนนี้ ที่ชีวิตต้องทำงานแบบหยุดได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นอันรู้ได้ว่า
...........อดเที่ยวนะ............
เมื่อชีวิตเดินมาถึงตรงนี้ หลายครั้งเคยถามตัวเองเหมือนกันว่า เวลาต้องอยู่บ้านเฉยๆน่ะ เคยอยากปลดปล่อยตัวเองด้วยการหาเรื่องเตร็ดเตร่ไปไหนยามเย็นหรือยามวิกาล เพื่อชดเชยการไปเที่ยวบ้างรึเปล่า
คำตอบคือ........ไม่เลยสักนิด
เมื่อใดก็ตามที่ต้องอยู่บ้าน เราก็็จะอยู่บ้าน และเมื่อรู้ว่าต้องอยู่บ้าน เราก็จะ......
..หาอะไรทำ..
"อะไรทำ" ที่ว่านี้มีเยอะแยะ ไล่ตั้งแต่ทำงาน อ่านหนังสือ ท่องเว็บ เล่นเกม เล่นดนตรี ฟังเพลง ฯลฯ
หรือแม้แต่ ที่กำลังเขียนๆอยู่นี่ ก็เป็น "อะไรทำ" ของเราเหมือนกัน
เราชอบออกไปท่อง "โลกกว้าง" ก็จริงอยู่ แต่เมื่อชีวิตต้องหยุดอยู่กับที่ แทนที่จะดิ้นรนเพื่อออกนอกชายคา
.......สิ่งที่เราทำ คือสร้าง "โลกของตัวเอง" และสถิตย์อยู่ตรงนั้น
ไม่ต้องเจอแสงสี ไม่ต้องมีผู้คน ขอแค่มีสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข แค่นี้ บ้านก็กลายเป็นสวรรค์น้อยๆได้แล้ว
เรายังคงฝันว่า สักวัน ตัวเองจะได้ออกไปผจญโลก ได้ท่องเที่ยวไปในที่ที่อยากจะไปอีกครั้ง และหวังเสมอให้วันนั้นมาถึงโดยเร็ว
แต่การอยากเที่ยวก็ไม่ได้ทำให้การอยู่เฉยๆกลายเป็นความทุกข์ เพราะเราได้แบ่งความสุขตัวเองมาอยู่ที่กิจกรรมในส่วนต่างๆของบ้านไว้แล้ว
เมื่ออยู่บ้านแล้ว เราจึงไม่ค่อยออกไปไหน เว้นแต่ไปเที่ยว...จริงๆ (ทำงานไม่นับ อันนั้นไฟลท์บังคับ เหอๆ)
เวลาเที่ยว เราจึงติดเที่ยว แต่เวลาอยู่บ้าน เราก็ติดบ้านด้วย
เราจึงกลายเป็นนักท่องเที่ยวที่ติดบ้าน ด้วยประการฉะนี้แหละ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in