เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I ROAM ALONEBANLUEBOOKS
จุดเริ่มต้น
  • จุดเริ่มต้น


    3
    นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน ฉันยังนอนลืมตามองความมืดอยู่บนเตียงชั้นบนของรถไฟ สิ่งที่เห็นตอนนี้มีแต่กระเป๋าพลาสติกสีส้มที่ข้างในอัดแน่นไปด้วยของจิปาถะอย่างไฟฉาย ยาลดไข้ น้ำยาล้างมือ ที่อุดหู ปากกา ทิชชู่ ยาหม่อง ฯลฯ ทั้งหมดถูกแขวนรวมไว้ตรงราวเหล็กข้างตัว เสียงที่ได้ยินก็มีแต่ กะฉึกกะฉัก กะฉึกกะฉัก

    ทำไมฉันต้องมาไล่สายตาดูสิ่งที่เห็นจนเบื่อแล้วในตอนนี้ด้วย?
    ง่ายๆ คือ นอนไม่หลับ
    เมื่อกลางวันดันเผลองีบไป ตอนนี้เลยตาค้างเป็นฮูกอย่างนี้
    ซวยแล้วล่ะมิ้นท์...

    2
    ฉันเดินทางบนรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย (Trans-Siberian Railway) มาราวๆ หนึ่งร้อยชั่วโมงแล้ว สภาพของฉันในตอนนี้สามารถเรียกว่าอีเพิ้งได้เต็มปากผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หัวมันเยิ้ม ตัวเหนียวหนึบ ตาบวมเพราะนอนเยอะ แถมท้องอืดจากการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาหลายมื้อ ถ้าแม่มาเจอตอนนี้ จะจำฉันได้มั้ยนะ
       
    แต่ทั้งหมดก็ทำให้ฉันเลเวลอัพ จากสองเดือนที่แล้วคอยแต่จะล็อกกระเป๋า ซ่อนของนั่นนี่เพราะกลัวหาย ตอนนี้กลับปล่อยตัวตามสบาย โยนพาสปอร์ต วางเงินทองไว้ที่ชั้นวางของด้านบน แถมยังนอนทอดหุ่ยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ได้เป็นวันๆ

    อาจเป็นเพราะฉันเริ่มชินกับตู้นอนชั้นสอง และเริ่มรู้ที่รู้ทางกับรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียแล้วก็ได้

    1
    ฉันอยากนั่งรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย ตั้งแต่สมัยไปเรียนต่อที่สเปน (ฉันไปเรียนต่อที่นั่นสามปี) ตอนนั้นฝันว่าอยากจะนั่งมันกลับมาเมืองไทย แต่ก็มีอุปสรรคหลายอย่างทำให้ต้องพับโครงการ และเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนด้วยเครื่องบินเหมือนเดิม

    แน่นอนว่า พอกลับมาแล้ว เส้นทางในฝันของฉันก็ยิ่งรางเลือน เวลาส่วนใหญ่
    หมดไปกับการวิ่งรอกสมัครงาน
     
    แต่เพลงของวงร็อกวงหนึ่งบอกว่า “ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน”
       
    ฉันจึงตรงดิ่งเข้าไปหาแม่ ทำสายตาวิงวอนขอออกเดินทางท่องเที่ยวหนึ่งปีแม้แม่จะอึกอักและไม่อยากตามใจลูก แต่เมื่อเห็นฉันเริ่มกอดแข้งกอดขา ลงไปดีดดิ้นกับพื้น แม่ก็ยินยอม โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าห้ามเที่ยวเรื่อยเปื่อย
       
    รวมถึงต้องจดบันทึกเรื่องราวมาเล่าให้แม่และคนอื่นฟังด้วย
    โปรเจ็กต์ I Roam Alone จึงเกิดขึ้น
       
    ฉันอยากให้ทุกคน (โดยเฉพาะสาวๆ) รู้ว่าการเที่ยวคนเดียวไม่ใช่เรื่องอันตราย หากรู้จักระวังตัว จะไปลุยป่าฝ่าดงที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แถมถ้าเตรียมตัวดี เราอาจได้นอนที่สบายๆ และมีเพื่อนกินข้าวทุกมื้ออีก
       
    เมื่อได้รับไฟเขียวจากแม่ ฉันก็มานั่งคิดว่าจะเริ่มโปรเจ็กต์นี้ที่ไหน หลายประเทศวนเวียนเข้ามาในหัว อาการรักพี่เสียดายน้องเกิดขึ้นตลอดเวลา และตอนนี้เองที่เกิดคำถามหนึ่งขึ้นในใจ
       
    ทำไมฉันถึงไม่เริ่ม ‘โปรเจ็กต์ในฝัน’ ด้วย ‘ทริปในฝัน’?

    ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียคือทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก แล่นผ่านเจ็ดเส้นแบ่งเขตเวลาในทวีปเอเชียและทวีปยุโรป

  • แผนการเดินทาง


    ทางรถไฟสายนี้มีจุดเริ่มต้น (หรือสิ้นสุด) ที่กรุงมอสโก (Moscow) และเมืองวลาดิวอสต็อก (Vladivostok) ประเทศรัสเซีย (Russia) ระหว่างทางมันจะพาเราเดินทางเข้าสู่ใจกลางไซบีเรีย (Siberia)—ดินแดนแห่งภูเขาและป่าสน ทะเลสาบไบคาล(Lake Baikal)—แหล่งรวมสัตว์แปลกนานาชนิด ไปจนถึงกรุงมอสโก—เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย ใช้เวลาทั้งหมดเจ็ดวันเจ็ดคืนโดยไม่หยุดแวะที่ไหนเลย
       
    อย่างไรก็ตาม นักเดินทางหลายคน (รวมถึงฉันด้วย) เลือกที่จะไม่เริ่มต้นหรือจบการเดินทางที่วลาดิวอสต็อก แต่เลือกที่จะผสมเส้นทางสายทรานส์ไซบีเรียเข้ากับเส้นทางสายทรานส์มองโกเลีย (ซึ่งเชื่อมรัสเซีย มองโกเลีย และจีนเข้าด้วยกัน) เป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดในการเดินทางต่อไป
       
    ฉันจะเริ่มต้นออกเดินทางที่กรุงปักกิ่ง (Beijing) ประเทศจีน (เมืองหลวงที่ทันสมัยและคลาคล่ำไปด้วยผู้คน) จากนั้นก็นั่งไปกรุงอูลันบาตอร์ (Ulan Bator) ประเทศมองโกเลีย ทะเลสาบไบคาล (ทะเลสาบที่ลึกและจุน้ำจืดเยอะที่สุดในโลก) เทือกเขาอัลไต (Altai Mountains) กรุงมอสโก และสิ้นสุดการเดินทาง 50 วันที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) ประเทศรัสเซีย











Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in