" ซึ่งตอนนี้ผมส่าวิธีรอดมีทางเดียวคือ ทำให้สุดชีวิตและทำให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถเราในเวลานั้นจะมีได้ "
พี่เต๋อบันทึกประโยคนี้ไว้ในหน้า 257 ของบทที่สี่จากสุดท้าย จากหนังสือประสบการณ์การทำงาน-ท่องเที่ยวระหว่างปี 2553-2558 สีชมพูเรื่อๆ ดูสวยงามมีสไตล์
ที่จริงไม่ใช่อะไรหรอกครับ แค่จะหาทางเปิดดีๆ ให้กับการชื่นชมผลงานของพี่เต๋ออีกชิ้นก็เท่านั้นแหละ สำหรับผม นอกจากพี่เต๋อจะเป็นนักออกแบบสื่อที่เจ๋งโคตรๆ แล้ว ยังเป็นนักเล่าเรื่องระดับมหากาฬตัวทอป หนังสือ-สเตตัส-งานเขียนทุกอันที่ผมเคยอ่าน พี่แกเล่าได้ลื่นไหลต่อเนื่องและเป็นกันเองมากๆ ไม่เคยจะสะดุดเลยไม่ว่าจะในแง่ภาษาหรือความรู้สึก
เล่มนี้เองก็ไม่ต่างกัน พี่เต๋อได้แง้มให้เรามีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวในโลกอีกใบ ที่ซ้อนทับกับงานที่เคยผ่านสู่ตาสาธารณชนมาแล้ว แต่หมุนมาแชร์เรื่องราวที่อยู่ในหัว ทัศคติความคิดคิดเห็น และเหตุการณ์เบื้องหลังที่เกี่ยวข้องต่างๆ มาเป็นตัวเอกในแต่ละบท เป็นการย้อนกลับมา reflect เส้นทางชีวิตได้ครบเครื่องดีครับ
_______________
จะขออนุญาต reflect เนื้อหาแต่ละบทของพี่บ้าง
สวนกุหลาบนนท์
ทั้งชีวิตนี้ผมไม่เคยได้มีโอกาสใส่ชุดนักเรียนทั่วไปแบบเสื้อขาวกางเกงขาสั้นเลย ได้เรียนรู้วัฒนธรรมโรงเรียนอย่างทุติยภูมิมาตลอด แต่ตลกและเห็นด้วยกับโลกของผู้หญิงมัธยมนะ แม่งเถื่อนจริง
ห้องทำแคสต์
เหล่านางเอกของพี่เต๋อแม่งคือชอบทุกคนอ่ะ (โดยเฉพาะ เมโกะ เต้ย นุ่น เบลล์) สนุกมากๆ ที่ได้มาอ่านความคิดพี่เต๋อเวลาเลือกนักแสดงแต่ละคน มันคงจะเป็นงานที่สนุกมากๆ แน่เลย พี่เต๋อเองก็เลือกได้อย่างเฉียบขาดมาก
โซนบัตร 500 บาท
ผมไม่ชอบดูคอนเสิร์ต
โรงแรมม่านรูด
มีเพื่อนผมอยู่คนนึง วันไหนว่างๆ ผมจะชวนมันออกมาเดินเล่นที่สยามแล้วให้มันพาไปกินร้านอาหาร unseen อร่อยๆ คืออร่อยทุกร้านจริงๆ มันบอกว่าที่บ้านมันชอบตามล่าเสาะหาร้านเด็ด มีร้านนึงดีมาก อยู่ในโรงแรมม่านรูดแถวพญาไทย (ตึง!) ฟังไปก้นึกภาพครอบครัวสุขสันค์กินข้าวกันพร้อมหน้าในคืนวันเสาร์ แม่ง เซอร์เรียลสุด
สนามม้านางเลิ้ง
ตอนกำลังอ่านบทนี้อยู่ มีเพื่อนมาปรึกษาให้ช่วยถ่ายรูปพีอาร์ชวนคนมารับปริญญาน้องสาวให้หน่อย เราเลยเสนอว่าลองไปถ่ายที่สนามม้านางเลิ้งดูป่าว (จะได้ถือโอกาสตามรอยพี่เต๋อซะเลย) ตอนไปก็หวัั่นๆอยู่นะว่าจะรอดไม่รอด หามุมถ่ายได้ไม๊ ขอเข้าได้หรือเปล่า สุดท้ายไปถึงประทับใจมากเลย ถ้ายสนุกมาก แต่คนที่นั่นก็โคตรชิว ให้อิสระเราทุกอย่าง ภายใต้ป้ายห้ามเข้าที่เรียงรายอยู่ทั่วไป (ฮา) อันนี้เป็นบางรูปที่ถ่ายมาได้ครับ ดีงามมาก
เวนิซ
ผมไม่เคยไปเวนิซ แต่ที่ที่พี่เต๋อไปก็ไม่มีความเป็นเวนิซเล้ย มีความ shutter island มีความ The lobster เซอร์เรียลๆ ดี
ปารีส
ผมเคยไปปารีส แล้วก็ชอบมากเสียด้วย เป็นบทที่อ่านสนุกมาก มันได้เปิดจินตนาการถึงสภาพแวดล้อมใหม่ๆ คนใหม่ๆ แถมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตลกแต่มีความคูล และสร้างความตื่นเต้นได้ดี ตอนแตกฮือหน้าลูฟว์นี่ฮามาก
แผนกเสื้อผ้าสตรี
เมื่อก่อนเป็นเหมือนพี่เต๋อเลย (แต่ตอนนี้เลเวลอัพละ) ส่วนพ่อผมนี่เป็นหนักกว่าแต่ดันเป็นแบบ invert มีวันนึงพ่อหยุดดูเสื้อแขนยาวตัวนึง พูดกับผมว่าสวยดี คนขายก็เลยถามว่าจะลองใส่ดูไม๊ เป็นไซส์ไหนดี พ่อส่ายหน้า แล้วก็เดินออกมาพร้อมกับพูดว่า พนักงงานที่นี่ไม่ใช้หัวเลย พ่อบอกว่าเสื้อสวยหมายถึงวจะซื้อให้แม่ นี่จะมาให้พ่ต้าอลองเสื้อผู้หญิงเนี่ยนะ บ้ารึเปล่า (เราก็คิดในใตว่า เอ่อะ พ่อ นั่นมันเสื้อผู้ชายที่แฟชั่นๆ ต่างหาก)
รถยนต์
การหลับในรถคือความสุข
สยามสแควร์
คิดถึงโรงหนังสยาม ที่เคยมาเรียนติวสถาปัตย์ คิดถึงดังกิ้นโดนัทชั้นสองที่ชอบโดดเรียนพิเศษไปนั่งคุยกับเพื่อนเก่าม.ต้นที่แยกย้ายกันไปคนละโรงเรียนตอนม.ปลาย มันเป็นพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดอย่างไม่หยุดจริงๆ
สตูดิโอเล็ก
The master เป็นสารคดีที่สนุกมากพี่ อยากสัมภาษณ์คนได้เก่งๆ อย่างพี่เต๋อมั่ง
คอนโดฯจูน
ในชีวิตผมรู้จักคนชื่อจูนสองคนคนแรกเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมหาลัยอีกคนเป็นรุ่นพี่ ป.4 ตอนเราอยู่ ป.2 เล่นหมากเก็บเก่งมาก
แบ็คสเตจ, อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี
ไม่ชอบบอดี้แสลม เวลาไปร้องเกะกัน พอถึงช่วงเพลงพี่ตูนนี่แม่งยิ่งกว่ายาพิษอีกอ่ะ (ฮา)
ห้องมิกซ์เสียง
มีคนบอกว่าเราเป็น ENTP ซึ่งแพ้ทางการทำงานละเอียดที่ใช้ความอดทนมากที่สุด รู้ว่าถ้าไปทำคงจะประสาทแดก
ห้องประชุมชั้น 4
ในบทนี้มีประโยคที่ผมชอบที่สุดในเล่มอยู่
"ผมใช้คำว่าทำความเข้าใจ ไม่ได้ใช้คำว่าอดทน เพราะผมรู้สึกว่าถ้าเราเข้าใจมัน เราจะอยู่ร่วมกับมันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าเราอดทนกับมัน แปลว่าจริงๆ เราอยู่กับมันไม่ได้"
มันเป็น life motto ของผมเลยนะ
"Enjoy the most Endure the least"
ห้องบรรยายรวม
การได้พูดบรรยายในหวัข้อที่เราอยากพูดในคนที่สนใจอยากฟังเยอะๆ นี่ก็เป็นหนึ่งในความฝันของผมเลยนะ
ปูซาน, 2557
อยากมีบุญวาสนาได้เจอกับ Scarlet Johenson ตัวจริงบ้าง
ทัวร์ 9 ห้างฯ
ชอบ ดู๋-สัญญา คุณากร โหยสมัยนี้ไม่ค่อยมาพิธีกรเด่นๆ ที่เป็นสไตล์นี้เลย
อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม
รู้สึกชอบคนชื่อ ปูเป้ 55555 รู้สึกว่าต้องเป็นคนไม่ธรรมดา
หน้าโรง
เห็นด้วยครับว่าคนไทยกับคนไต้หวันเก๊ทกัน
เตียงนอน
สรุป มันรอดนะครับพี่ รอดอย่างสมภาคภูมิเสียด้วย ยกนิ้วๆ
_______________
อ่านจบแล้วรู้สึกดีมากเลย ยินดีที่พี่แกสามารถเป็นตัวอย่างของการ เวิร์คที่มีความสุขราวกับได้ทราเวลอยู่ตลอด สัมผัสได้เลยว่าคนที่เค้ามีแพชชั่นกับงานมันทำให้ประสบความสำเร็จแค่ไหน
เขียนเพ้อเจ้อมาเสียยาว สุดท้ายนี้อยากจะสรุปสั้นๆ ว่าพี่เต๋อเขียนหนังสือสนุกมาก ชอบพอๆ (เผลอๆ มากกว่า) อยากให้ประเทศนวพลเปิดรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 1500 คนในรอบแรกนี้ แล้วจะรอติดตามหนังสือเล่มต่อไปของพี่เต๋ออีก
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆ และแรงบันดาลใจดีๆ นะครับ
: )
ปล. มีใครรู้บ้างว่าหาดู Scene 37 / Scene 38 ได้ที่ไหนเหรอ อ่านเสร็จอินมากจะไปไล่ตามดูแล้วหาไม่เจอเลย ขอบคุณล่วงหน้าฮะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in