อันนี้เป็นงาน
info graphic ชิ้นแรกที่ผมได้ลองหาข้อมูลและทำอย่างจริงจรัง พบว่ามันสนุกและมีประโยชน์มากทีเดียว อย่างแรกที่ได้แน่แบบไม่ต้องคิดเลยคือได้ความรู้ใหม่ เอาไปเล่าไปโม้ให้เพื่อนฟังอย่างเพลินปาก ได้เปิดหูเปิดตาแปรไปจากโลกเดิมๆ ที่เคยชิน
แต่ไฮไลท์ที่สุด คือความอัศจรรย์ในการได้มาซึ่งข้อมูล เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมาก เริ่มจากที่เราตั้งใจจะทำเกี่ยวกับยีราฟ แล้วจะไปหาคือมูลที่มันพิเศษกว่าที่หาได้ทั่วไปได้ที่ไหนหว่า ผมเลยนึกถึงเพื่อนของเพื่อนที่อยู่สัตวแพทย์คนนึง เคยปรึกษาตอนโดนนกแก้วทำร้าย (ฮา) ทักไปถามกันโต้งๆ เลยว่า แก แกพอจะรู้จักผู้เชี่ยวชาญเรื่องยีราฟป่ะ ปรากฎว่าได้เรื่องเฉย เพื่อนตอบกลับมาว่าไม่รู้จัก แต่มีเมลติดต่ออาจารย์ที่สอนเกี่ยวกับสัตว์ป่า น่าจะพอมีประโยชน์อะไรบ้าง อ่ะ เอาเมลไป
ผมก็ส่งเมลติดต่อไปหาอาจารย์ ซึ่งอาจารย์ก็น่ารักมากๆ ให้เบอร์ติดต่อของพี่ที่ดูแลยีราฟที่สวนสัตว์ดุสิตมาอีกที คืนนั้นผมกลั้นใจโทรไป จึงได้รู้จักกับ พี่ใหญ่ เป็นหัวหน้างานสุขภาพสัตว์ พี่ใหญ่ฟังเรื่องราวและเหตุผลที่จะโทรมาขอข้อมูลคืนนั้นอย่างงงๆ แล้วก็ยินดีที่จะถูกสัมภาษณ์เดี๋ยวนั้นเลย ใจดีสุดๆ
นอกจากข้อมูลที่เอาไปใช้ทำงานแล้ว ผมยังได้แรงบันดาลใจกลับมาเป็นของแถม มันสัมผัสได้อย่างเหนือจริง เวลาคนเขาพูดถึงในสิ่งที่ตัวเองชอบ บทสนนทนาจะแฝงไปด้วยความรักและความใส่ใจอย่างปิดไม่มิด พี่เขาเป็นคนชอบทำฟาร์มทำสวนมาตั้งแต่เด็ก พอมีโอกาสได้มาฝึกงานที่เขาดินแล้วรู้สึกว่ามันหลากหลายดี ได้ทำอะไรทุกวันเทียบกับคลินิกที่ต้องเจอแต่สัตว์ป่วย หลังจบพี่ใหญ่เลยตัดสินใจทำงานในตำแหน่ง health care provider ให้กับเหล่าสัตว์
"ที่นี่ค่อนข้างให้ความอิสระมาก ทุกตัวมีนิสัยมีชื่อ ของมันเหมือน ขนาดลิงเป็นฝูงก็รู้ว่าใครพ่อใครลูกเหมือนเพื่อนเหมือนนักเรียนของเราคนนึง (หัวเราะ) พี่ชอบเพราะงานมันไม่น่าเบื่อ"
ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสแว้บไปเก็บภาพเจ้ายีราฟสองหน่อนี้มา (ไปตอนสวนสัตว์ใกล้ปิด พี่เขาก็ใจดีให้เข้าฟรีด้วย) ตัวข้างหน้าเป็นผู้ชายชื่อ บินลาเดน จะซนๆ แล้วก็ขี้หวง ส่วนตัวที่แอบอยู่ข้างหลังชื่อตาหวาน เป็นสาวน้อยขี้อาย ตรงตามที่พี่ใหญ่บอกอย่างเป๊ะ!พี่ใหญ่ทิ้งท้ายให้เราตื่นเต้น พอรู้ว่าเราเรียนหมอฟันอยู่ ก็บอกว่าที่นี่ก็อุดฟันให้สัตว์ด้วย เพราะมีศาสตราจารย์จากอเมริกาเคยมาสอน ตอนแรกต้องวางยาสลบก่อน แล้วกรอ-อุดตามปกติ ถ้าผุทะลุถึงโพรงประสาทก็ต้องเปลี่ยนเป็นรักษาราก ใส่ zinc oxide ตามด้วยอัด Gutta pecha เข้าไปแล้วอุดปิดด้วย Glass Ionomer (แว้ก ศัพท์ทันตแพทย์มาเต็ม) ถ้ามีโอกาสพี่ใหญ่ยังชวนผมมาทำให้ด้วย เปิดโอกาส สร้างคอนเนกชั่นไปอีก
สุดท้ายก็ขอฝากผลงานจุ๊กจิ๊ก(แต่ตั้งใจทำนะ) ให้ลองอ่านกันดูครับClick here for full image (อ่านไม่เห็นคลิกตรงนี้ได้ครับ)
ของแถม
- ลิ้นของยีราฟหยาบมาก เพราะมันเอาไว้ใช้รูดกินใบของต้นอะคาเซียที่มีหนาม
- ขาของมันก็มีสัดส่วนที่ยาวเกินพอดีไม่แพ้กับคอ ทำให้บางอากัปกริยาจะทำได้ลำบาก เช่นการย่อขา ภาพของยีราก ถ่างขากินน้ำอย่างกระอักกระอ่วนจรึงถูกพบเห็นได้บ่อยครั้ง
- หน้าผากจะมีปุ่มโหนกๆ คล้ายเขา ชื่อทางการของมัน คือ Ossicone มีลักษณะคล้ายเขาแบบ Horn (ไม่ได้เป็น Adler ของสัตว์จำพวกกวางที่มีการ 'ผลัดเขา' งอกขึ้นมาใหม่) ลักษระที่เปลี่ยนไปสามารถใช้บอกอายุได้ แหม่ เหมือนปลาหมอสีเลย
- โดยปกติแล้ว ยีราฟจะยืนหลับ เพราะเป็นท่า stand by ที่ดีเผื่อมีภยันอันตรายกะทันหัน ภาพที่หายากติดอันดับคือ ภาพของยีราฟนอนพับขา พอคอเก็ยเหมือนน้องหมาที่จะเกิดขึ้นเมื่อมันรู้สึกปลอดภัยจริงๆ ภาพนี้แหละ สามารถพบได้ในเขาดิน
: )
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in