* แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบังเทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น boy’s love…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
สายลมยามบ่ายพัดแผ่วอย่างอ่อนโยน
อีริค เลนเชอร์ทอดสายตามองเงียบๆ…สวนที่เขามักจะมานั่งเล่นหมากรุกเสมอยังคงไร้ผู้คนเหมือนเดิม จากการที่เขานั่งบนขั้นบันไดที่สูงขึ้นมาเหนือพื้นดินทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพทั้งหมดได้ชัดเจน…ลานหินสีขาว พื้นหญ้าเขียวขจี และบ่อน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ทอดยาวไปจนสุดสวน
บรรยากาศสงบนิ่งเหมือนเวลาเดินเชื่องช้า…จนไม่น่าเชื่อว่าสงครามกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
“อีริค…ตานายแล้ว” เสียงเรียกจากคนข้างตัวทำให้เขาหันไปมอง…ก่อนจะได้เห็นว่าอีกฝ่ายได้ตัดสินใจวางหมากของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ใบหน้าสีน้ำนมของชาร์ลส์ เซเวียร์ที่รับกับนัยน์ตาสีแซฟไฟร์ดูนุ่มนวลด้วยแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่ฉาบทา เส้นผมสีดำสนิทพลิ้วเป็นระยะตามแรงลม รอยยิ้มระบายจางๆ อยู่บนริมฝีปากสีเรื่อ….ส่งให้วงหน้าดูอ่อนโยนกว่าเก่า
…ภาพที่ทำให้ใจเขารู้สึกสงบทุกครั้งที่ได้มอง
“อีริค…?” อีกฝ่ายเรียกซ้ำ ทำให้นัยน์ตาสีเทาละจากใบหน้านั้นแล้วก้มลงมองกระดานหมากรุก มือใหญ่เดินหมากอย่างไม่ใคร่ใส่ใจกับเกมส์นัก
“นายเป็นอะไรของนาย?” ชาร์ลส์ถามเสียงนุ่ม ขยับหมากของตนลงในช่องเดียวกันกับตัวหมากที่ชายหนุ่มผมน้ำตาลเพิ่งวางลงไป…อีริคไม่เคยพลาดกับการเดินหมากง่ายๆ แบบนี้มาก่อน “คิดอะไรอยู่รึไง?”
“ฉันคิดว่า…มันแปลกดีนะ” เสียงทุ้มตอบเรียบเรื่อย “สงครามกำลังจะเริ่ม…สงครามที่มนุษย์ต้องการจะฆ่ากันเองและก็กำจัดมิวแทนต์อย่างพวกเรา แต่ฉันกับนายก็ยังมีเวลามานั่งเล่นหมากรุกกันแบบนี้”
นัยน์ตาสีเหล็กที่ทอดมองภาพสวนที่เงียบงันดึงสายตาของคนฟังให้มองตาม…ก่อนที่ดวงตาสีน้ำเงินจะเบนกลับมาจ้องเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของคนข้างตัว
“อย่างน้อยๆ มันก็ดีกับตัวนายเองนะ อีริค” เสียงนุ่มนวลพูดติดตลก “พลังของนายอยู่กึ่งกลางระหว่างความโกรธแค้นกับความสงบในใจนาย…และที่เราทำอยู่นี่ก็เป็นการสร้างความสงบให้ใจนายไง”
ดวงตาสีเหล็กคมกริบหันมาสบประสาน…สีเทานั้นเยือกเย็นไร้อารมณ์ใด
“ฉันมีชีวิตอยู่ก็เพื่อจะได้ฆ่าชอว์” เสียงทุ้มกล่าวเรียบนิ่ง “ใจของฉันมีแต่ความโกรธแค้น ชาร์ลส์…มันเป็นพลังของฉัน”
คนฟังยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้ร่างกำยำ “ไม่จริง อีริค…นายไม่ได้ทำให้ดาวเทียมนั่นขยับเพราะพลังจากความแค้น เพราะงั้นฉันมั่นใจว่าทฤษฎีของฉันถูกต้อง”
“นายไม่เข้าใจ ชาร์ลส์…” ชายหนุ่มผมน้ำตาลพูดเสียงอ่อน “ที่ฉันทำได้…ก็เพราะนายอยู่กับฉันในตอนนั้น…”
มือใหญ่เอื้อมออกไป…ไล้ผิวแก้มขาวนั้นแผ่วเบา
“ฉันรู้ดีว่านายปฏิเสธความคิดที่จะฆ่าใคร เพราะฉะนั้น…เมื่อถึงตอนที่ฉันจะฆ่าชอว์ นายก็จะปฏิเสธฉัน” นัยน์ตาสีเทานั้นจ้องคนฟังอย่างแน่วแน่…หากความเจ็บปวดก็ฉายระคนอยู่ในนั้น “และเมื่อถึงตอนนั้น…เมื่อนายไม่ได้อยู่เคียงข้างฉันแล้ว ในใจของฉันก็จะเหลือเพียงแค่ความโกรธแค้นเท่านั้น”
เสียงทุ้มเอ่ยประโยคสุดท้ายแผ่วเบา…หากถ้อยคำหนักแน่นนั้นก็ก้องกังวานในสายลมที่โชยแผ่ว
“เพราะนายคือความสงบในใจของฉัน…ชาร์ลส์”
ชายหนุ่มผมดำนิ่งไปกับสิ่งที่ได้ฟัง…มันไม่ได้อ่อนหวานหรือทำให้ใจเต้นแรง แต่กลับลึกซึ้งเสียจนเขาไม่อาจสรรหาคำใดมาบอกเล่าถึงความรู้สึกที่เต็มตื้นขึ้นมาในหัวใจตอนนี้
มือเรียวเอื้อมไปกุมมืออบอุ่นไว้แน่น รอยยิ้มงดงามระบายเต็มริมฝีปาก
“จำไว้นะ อีริค…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้เราไม่ได้อยู่เคียงข้างกันอีกแล้ว หรือต่อให้เราต้องกลายเป็นศัตรู…” เสียงนุ่มนวลกล่าวคำ…มั่นคงราวกับให้สัญญา “ก็จำไว้เถอะ…ว่านายยังคงจะเป็นคนที่สำคัญที่สุดของฉัน…”
มือที่เกี่ยวกุมกับไว้ถูกยกขึ้นแนบแก้ม…เสียงอ่อนโยนเอ่ยชัดเจน
“ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเรา แต่สุดท้ายของสุดท้าย…นายก็จะยังมีฉันอยู่เสมอ”
ทันทีที่กล่าวจบ…ท่อนแขนแข็งแรงก็โอบรั้งเขาให้เข้ามาชิด ชาร์ลส์หลับตาลง…ปล่อยตัวเองให้จดจำสัมผัสของอ้อมแขนอบอุ่น มือบางคล้องรอบร่างกำยำนั้นตอบ…ราวกับจะย้ำถึงสิ่งที่ตนกล่าวไป
นัยน์ตาสีน้ำเงินสบประสานกับดวงตาสีเหล็ก ก่อนที่ชายหนุ่มผมดำจะกล่าวต่อ
“นายมีหัวใจที่อ่อนโยน อีริค…ฉันรู้ดี” ชาร์ลส์ยิ้ม “และถึงนายจะไม่เชื่อทฤษฎีของฉัน แต่ตอนที่นายคิดจะใช้พลัง…ก็ลองคิดถึงความทรงจำที่เรามีตอนนี้ จะแค่ในฐานะสิ่งที่จะทำให้พลังของนายแข็งแกร่งก็ได้…แต่ช่วยคิดถึงมันเสมอ…ได้ไหม?”
อีริคไม่เอ่ยคำใด…หากอ้อมแขนที่กอดเขาแน่นขึ้นก็เป็นคำตอบที่ชาร์ลส์เข้าใจดี ชายหนุ่มซุกหน้าลงบนบ่าแข็งแรงนั้น…นึกอยากให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง เพื่อที่พวกเขาจะได้เหนี่ยวรั้งช่วงเวลานี้ไว้ให้นานขึ้นสักวินาที
เนิ่นนาน…ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยข้างหู
“ขอบใจนะ…ชาร์ลส์”
เจ้าของชื่อยิ้มอ่อนโยน ไม่ขัดขืนยามที่วงหน้าคมสันนั้นโน้มลงมา จูบนุ่มนวลนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนหวาน…สิ่งที่เขารู้ดีแม้อีริคจะไม่เคยพูดบอก
ความรู้สึกที่พวกเขามีให้กันนั้น…ลึกล้ำกว่าความรัก…เป็นความรู้สึกพวกเขาไม่มีวันจะมีให้ใครอื่นอีก
แค่นายเท่านั้น…ที่ฉันต้องการให้อยู่เคียงข้างตลอดไป
ริมฝีปากอบอุ่นผละออก หากอีริคยังคงโอบร่างสมส่วนนั้นไว้…ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ออกมา
“ชาร์ลส์ ฟรานซิส เซเวียร์…ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่านายอ้างทฤษฎีโน่นนี่เพราะอยากช่วยให้พลังของฉันเพิ่มขึ้นจริงๆ…” ริมฝีปากอุ่นจุมพิตเรือนผมสีเข้มเบาๆ แล้วกล่าวเสียงล้อเลียน “…หรือนายแค่อยากหาทางทำให้ฉันต้องคิดถึงนายไปตลอดชีวิตกันแน่?”
ร่างในอ้อมแขนหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “ให้ตายสิ แอร์เลนเชอร์…นายนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!”
นัยน์ตาสีน้ำเงินสวยพริบพราว…เสียงนุ่มแกล้งดัดให้ฟังดูเคร่งขรึม
“แต่มันก็ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นี่…ถ้าจะมีแค่ฉันคนเดียวที่เป็นฝ่ายคิดถึงน่ะ แบบนี้เขาเรียกว่าแฟร์เพลย์รู้ไหม?”
อีริคขยับยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้มลงจูบร่างในอ้อมแขนโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสตั้งตัว…การกระทำที่ทำให้เขาชนะได้ทุกครั้ง นัยน์ตาสีเทามองวงหน้าขาวจัดที่ขึ้นสีเรื่อแล้วก็หัวเราะออกมา…ภาพที่ทำให้คนโดนแกล้งอดยิ้มตามไม่ได้ และสุดท้าย…เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังแผ่วเบาไปตามสายลม
แค่นายเท่านั้น…ที่ทำให้ใจของฉันสงบสุขได้แบบนี้…ชาร์ลส์ Fin.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in