เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกของนักเขียนการเดินทางMystixxTH
บันทึกของนักเขียนการเดินทาง Part.01
  •       ในปีที่มีวันหนาวเพียงสองสามวันในประเทศโลกที่สามโดยมีใครคนหนึ่งได้กล่าวไว้ ฉันค่อนข้างตื่นเต้นนิดหน่อยตัวเองพร้อมมองกระเป๋าเดินทางใบโตซึ่งคงจะหนักประมาณ 2 - 3 กิโลได้เพียงกะจากสายตา นาฬิกาบอกเวลาร่วมตี 4 กว่าๆ ฉันลากกระเป๋าเดินทางใบโตๆออกจากบ้านหลังน้อยที่มีเพียงคุณย่า กับ ลุงป้า และฉันเท่านั้น
         
    เสียงของล้อเลื่อนกระเป๋าดังระงมไปทั่วบริเวณนั้น ฉันเองก็คิดว่ามันเสียงดังน่ารำคาญเกินไปแต่ถ้าให้ยก กล้ามแขนฉันคงโตแข่งกับต้นขาอย่างแน่นอน
           
    ตี 4 กว่า ท้องถนนโล่ง แทบไม่มีรถสักคัน ทั้งๆที่ฉันอยู่ในใจกลางเมืองหลวงของประเทศที่แสนศิวิไลซ์แห่งนี้ ความรู้สึกของฉันเหมือนมีสัญญาณบางอย่างบอกกับตัวเองว่า... อย่าไปเลย...

    ฉันตลกคำพูดในหัวของตัวเองก่อนจะโบกมือเรียกรถแท็กซี่สาธารณะพร้อมกับบอกจุดมุ่งหมายที่ต้องการจะไปเยือนในเวลาที่ใครหลายคนในประเทศกำลังหลับใหล และมีใครอีกคนที่รอเดินทางอย่างฉัน... ใช่ สนามบินนั่นเอง

    ตลอดการเดินทางในเวลาตี 4 คนขับแท็กซี่ชวนฉันคุยเพื่อให้ตัวเองรวมถึงฉันไม่หลับ เราคุยกันสัปเพเหระถึงในเรื่องอาชีพเดิมของเขา หรือ อาชีพปัจจุบันของฉัน...

    ฉันทอดมองความแสงไฟตลอดข้างทางอย่างหลงใหล...ในช่วงเวลาที่ไฟข้างทางได้ทำงาน มันส่องสว่างสร้างประโยชน์ให้ผู้ที่สรรจรไปมาในย่ามคำคืนได้อย่างแข็งขัน ดวงไฟดวงน้อยของมัน เมื่อได้อยู่เรียงรายรวมกันตามท้องถนน กลับทำให้เกิดแสงสว่างมากมายอย่างน่าประหลาด

    คุณทำหน้าที่ได้เก่งมาก... เพราะเมื่อพระอาทิตย์ตื่นขึ้นมา... คุณจะหมดหน้าที่ และได้พักผ่อนไป

    เมื่อใกล้ถึงที่หมายฉันพบว่าไม่ใช่ฉํนคนเดียวที่มีแพลนเดินทางในเวลาแบบนี้... ผู้คนมากมายหลั่งไหลเดินเข้าออกสนามบินอย่างหนาตา คนขับแท็กซี่ยกกระเป๋าเดินทางลงมาให้ฉันแล้วเราก็จากกันพร้อมกับค่าโดยสารที่จ่ายไปอย่างถูกต้องตามเลขมิตเตอร์

    ฉันเดินลากกระเป๋าเดินทางใบโตเข้าไปรอเพื่อนร่วมทางซึ่งยังมาไม่ถึงภายในอาคาร... เก้าอี้นั่งถูกทำให้เป็นเก้าอี้นอน...นักเดินทางหลายคนต่างใช้เก้าอี้ว่างติดกันเป็นเตียงเพื่อนอนพักผ่อน รอเวลาที่ตัวเองได้โบยบินออกไปยังประเทศบ้านเกิด หรือ...ประเทศที่เคยไปเยือน...หรือ ประเทศที่จะได้ไปเยือนเป็นครั้งแรก...

    ฉันเงอะงะเนื่องจากเป็นครั้งแรกในชีิวิตที่ได้เดินทางออกจากประเทศโดยเครื่องบิน เรียกได้ว่าฉันใช้เวลานับยี่สิบปีอยู่ภายในประเทศของตัวเอง ท่องเที่ยวครบทุกภูมิภาค และมีความสุขกับทุกขณะของชีวิตโดยไม่ได้คำนึงถึงโลกใบใหญ่ที่มีอีกนับร้อยนับพันประเทศที่รอให้ฉันไปเปิดหูเปิดตาอยู่

    และด้วยเหตุนี้เอง ฉันจึงต้องออกไปเปิดหูเปิดตาซะบ้าง...

    ... เพื่อจะได้รู้จักสิ่งแปลกใหม่ที่พร้อมจะทำให้ฉันใจเต้นแรงบ้างก็เป็นไปได้...

    เอาล่ะ... ฉันควรจะเดินเข้าไปนั่งสักที่ถูกต้องใช่ไหม... ว่าแต่... มีที่ตรงไหนให้ฉันไปนั่งบ้างนะ...


    To be continued...


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in