กรกฎาคม 2556
ฉันใช้โอกาสในการประกวด Miss Wheelchair เป็นข้ออ้างชวนแม่ไปเที่ยวกรุงเทพฯ และใช้วิธีเพ้นต์เสื้อยืดขายเพื่อหาทุนค่าตั๋วรถไฟจากแพร่ไปกรุงเทพฯ (เคยเล่าไว้ในหนังสือ พลังที่ซ่อนอยู่ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ KOOB)
ที่จริงจุดหมายของฉันไม่ใช่กรุงเทพฯ แต่ฉันดันตกรอบการประกวดเสียก่อนที่จะได้ไปทำกิจกรรมเก็บตัวที่ทะเล ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ฉันตัดสินใจเข้าประกวดรายการนี้ ฉันเลยต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านหลังจากที่ไปถึงแค่กรุงเทพฯ เท่านั้น
สุดท้ายทะเลก็ยังคงเป็นจุดหมายที่ฉันไปไม่ถึงสักที...
อาจเป็นเพราะฉันเกิดที่แพร่ บ้านของฉันมีแต่ป่าและภูเขา การไปเที่ยวทะเลจึงเป็นเหมือนความฝันของเด็กต่างจังหวัดที่บ้านอยู่ไกลทะเลอย่างฉัน แม้ว่าจะเคยไปทะเลมาแล้วตั้งแต่ก่อนประสบอุบัติเหตุ แต่มันก็เนิ่นนานจนกลายเป็นความทรงจำที่รางเลือนไปแล้ว
และด้วยร่างกายตอนนี้ที่ไม่เหมือนเดิม ถ้าได้ไปทะเลอีกครั้งมันก็คงเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับฉันอยู่ดี
ร่างกายของฉันมีความรู้สึกตั้งแต่หัวลงไปถึงแค่ช่วงอกกับแขน แต่น่าแปลกที่เวลานอนหลับฉันกลับฝันว่าตัวเองล่องลอยอยู่ท่ามกลางเรื่องราวต่างๆ เสมือนว่าฉันยืนและเดินเองได้แล้วยังมองโลกในมุมมองของคนที่ลอยได้ ไม่ใช่มุมมองที่อยู่ต่ำกว่าคนอื่นเหมือนตอนนั่งวีลแชร์เวลาตื่น
ความรู้สึกนั้นทำให้ฉันอยากรู้ว่าถ้าตัวเองลอยอยู่ใต้น้ำจะรู้สึกเช่นเดียวกับในฝันหรือไม่
ฉันจึงลองหาข้อมูลและสอบถามจากหลายคนที่น่าจะให้คำปรึกษากับฉันได้ ทั้งหมอ นักกายภาพบำบัด เพื่อนๆ หรือแม้แต่นักเดินทางที่พอรู้จักว่า คนอย่างฉันจะดำน้ำได้ไหม
แม้ทุกคนจะตอบว่าทำได้ แต่ไม่มีใครบอกได้ว่า ฉันควรเริ่มต้นเรื่องการดำน้ำนี้อย่างไร
ฉันเข้าใจว่าสำหรับคนที่บังคับร่างกายเองไม่ได้อย่างฉัน ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจู่ๆ จะไปดำน้ำเองได้ แต่พอไม่มีใครช่วยแนะนำช่องทางและวิธีการให้ได้จริงๆ ฉันก็เริ่มอยากจะยอมแพ้ในสิ่งที่ยากเกินตัว
หรือที่จริงฉันควรคิดถึงแค่การไปเที่ยวทะเลก็พอ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in