ชั้นที่หนึ่งจะเป็นชั้นของ Infomation คาเฟ่แล้วก็ร้านขายงานศิลปะ ใครชอบสะสมภาพวาดหรือสินค้าที่พิมพ์ลายภาพวาดที่ถูกลิขสิทธิ์ก็มาหาซื้อที่นี่ได้ เราไปช่วงต้นปีเลยได้ปฏิทิน Van Gogh และ Monet ไปฝากเพื่อนๆที่ไทยในราคาลดพิเศษ (ถูกกว่าสั่งจาก Kinokuniya)
ส่วนชั้นสองและสามของหอศิลป์จะเป็นส่วนนิทรรศการ ช่วงที่เราไปมีนิทรรศการเดียวเลยเปิดแค่ชั้นสอง นิทรรศการก็ทั่วๆไปเลย ถ้าเทียบกับหอศิลป์บันไดวน 5 ชั้นแห่งประเทศกรุงเทพก็ธรรมดาไปเลย ที่นี่เข้าฟรีนะคะ แต่ก็มีบางนิทรรศการที่ต้องเสียค่าเข้าชม
ด้านนอกก็จะเป็นสวนที่มีงานประติมากรรมตั้ง มีลานกิจกรรม เราไปช่วงฤดูหนาว พื้นเลยเป็นสีเหลือง น้ำตาลแบบนี้ สวยแปลกตาเป็นอีกแบบ
หอศิลป์พูซานตั้งอยู่กลางเมืองเลย จากที่นี่เราสามารถเดินไปห้าง Shinsegae หรือ Lotte ได้เลย ซึ่งเราจะเดินจากที่นี่ผ่าน BEXCO ผ่านห้างเพื่อไป Busan Cinema Center
BEXCO เป็นศูนย์จัดนิทรรศการ อารมณ์แบบไบเทคบางนา มีงาน EXPO งาน Concert อะไรที่พูซานก็จะมาจัดที่นี่ ใครมีแพลนมาดูคอนเสิร์ตที่นี่ก็ลง Centum City Exit1 หรือ Busan Museum of Art Ext 7 หรือ 9 ได้เลย ) จากตรงนี้เราจะเห็นห้างชินเซเกที่ได้ลงกินเนสบุ้คว่าใหญ่ที่สุดในโลกข้างๆกับห้างลอตเต้ ให้เดินเลาะไปด้านหลังห้างชินเซเกที่ติดกับแม่น้ำซูยอง แล้วเดินตรงไปเรื่อยก็จะเจอกับ
Busan Cinema Center
เราจะสังเกตเห็นตึกที่มี curve แปลกๆ ถ้ามาตอนกลางคืนก็จะเห็นการเล่นแสงสี ที่นั่นแหละที่เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหนังนานาชาติพูซาน (Busan International Film Festival : BIFF) เดินเข้ามาจะเห็น พวกแสตนดี้หนังฮอลลีวู้ดให้ถ่ายรูป ที่ใต้หลังคาสีๆจะเป็นที่นั่งสำหรับดูภาพยนตร์ นอกจากใช้จัดเทศกาลแล้วที่นี่ก็เป็นโรงหนังจริงๆ ก็จะมีคนมาดูหนังตามปกติด้วย
เป็นสองสถานที่ที่อยู่ในเมืองมากๆ อยู่ใน Centum City ถ้าเทียบกับกรุงเทพก็คือสยามสแควร์ ออกจากสถานีรถไฟฟ้ามาก็จะเจอห้าง เดินนิดหน่อยถึงหอศิลป์ เจอสกาล่า ใครที่พักอยู่แถวนี้หรือเดินช็อปปิ้งแล้วเวลาเหลือๆก็มาเดินเล่นได้ มาง่าย ถ้าเราไม่หลงก็ไม่มีใครในโลกหลงแล้วละ โชคดีค่า
Extra : Museum Of Contemporary Art Busan
พูซานกำลังจะมีหอศิลร่วมสมัยเปิดใหม่ ถ้าจำไม่ผิดจะเปิดประมาณเดือนมิถุนา อันนี้คือไม่รู้มาก่อนเลย เจอเพราะหลงอีกแล้ว แต่จะหลงไปไหนติดตามได้ตอนหน้าค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in