หนังสือเที่ยวพูซานประมาณ 70% ต้องมีรูปหมู่บ้านคัมชอนขึ้นปก เราก็เห็นเสียจนชินตาเลยไม่รู้สึกไม่ท้าทาย ทิ้งเอาไว้เป็นลิสต์ท้ายๆ พอเวลาผ่านไปก็กลัวว่าถ้าทิ้งเอาไว้ไม่ไปเลยจะมีคนมาถามถึงแล้วจะตอบไม่ได้เอา เลยลองไปให้รู้กัน
Gamcheon Culture Village
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งเรียงขั้นกันอยู่เนินเขา ภูเขาที่เคยปกคลุมด้วยต้นไม้ก็กลายเป็นปกคลุมด้วยบ้านเรือนแทน แม้ตึกรามบ้านช่องจะตกแต่งด้วยสีสันที่แตกต่างกันแต่กลับคลุมโทนไว้ได้ หมู่บ้านคัมชอนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าเป็น Tourist Attraction ใครที่มาเที่ยวแบบ Tourist ก็ต้องมา หมู่บ้านคัมชอนวันที่เราไปเลยมีคนจีนมากกว่าคนเกาหลีเสียอีก
วิธีไปตาม Guide Book: Metro Line 1 Toseong Stn. Exit 6 > Transfer to Seo-gu Town Bus 1-1, 2 or -2 > Get off at Gamcheon Culture Village
วิธีไปจริงตามสัญชาตญาน : พอออกมาจากใต้ดินมา เราจะเห็นป้ายชี้ทางไปเลย ไปไม่ยากเพราะมันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังมาก พอเราออกมาจากใต้ดินปุ๊ป เราก็เห็นเนินเขาของหมู่บ้านคัมชอนเลย ตามสัญชาตญาณคนดื้อด้านก็ถามตัวเองว่าใกล้ระยะสายตาขนาดนี้จะขึ้นบัสทำไม เดินไปก็ได้มั้ง
แน่นอนว่าสัญชาตญาณของเราผิดเสมอ มันไม่ใกล้ก็จริง แต่มันเป็นเนินเว้ย แล้ววันนั้นอากาศหนาวมาก พอเดินเหนื่อยแล้วหายใจแรงก็ brain freeze จนปวดหัว ต้องใส่หน้ากากอนามัยกันไว้อีกขั้นไม่ให้อากาศที่หายใจหอบเข้าไปเย็นเกิน พอถอดมาส์กออกมาไอน้ำเกาะด้านในเต็มเลย เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอ
แต่การคิดผิดครั้งนี้ก็ไม่ได้แย่ไปทั้งหมด ถือเป็นโอกาสเยี่ยมชมเมืองใกล้ชิดระยะเท้า ได้แอบมองหนุ่มเกาหลีฝั่งตรงข้ามถนนหยอกเอินกันบ้าง ดูบ้านเรือนเขาบ้าง
เราชอบการตกแต่งพื้นที่สาธารณะของเกาหลีนะ เขาทำให้รู้สึกเหมือนพื้นที่ส่วนรวมเป็นบ้านเหมือนกัน มาเอาใจใส่รักษาความสะอาด บำรุงบ้านส่วนรวมของเรากันเถอะ
Welcome to Gamcheon Culture Village ! ในที่สุดก็ลากสังขารมาถึงหน้าหมู่บ้านคัมชอนจนได้ ถ้าใครนั่งรถเมล์มาก็จะลงมาที่หน้าหมู่บ้านเลย
แผนผังหมู่บ้านก็จะเป็นแบบนี้เลย สามารถมาดูตัดสินใจเส้นทางการเดินที่ชอบที่ชอบได้ จุดประชาสัมพันธ์ของเขาจะมีแผนที่พร้อม Stamp Passport ให้ซื้อ แต่เราเห็นว่ามันมีป้ายบอกทาง แผนที่เป็นระยะๆอยู่แล้ว เดินตามคนหมู่มากไปก็คงรู้เรื่อง
ตามทางเดินก็จะเป็นร้านขายของฝาก คาเฟ่ มีจุดที่ออกแบบมีให้ถ่ายรูปมากมายแม้พื้นที่เล็กๆน้อยๆก็ได้รับการตกแต่งให้สวยงาม
หมู่บ้านคัมชอนเลยเหมือนเป็นการจัดงานศิลปะเอ้าท์ดอร์ที่ใช้มุมมอง ความต่างระดับของพื้นที่มาเล่น จะมี Museum และ Gallery เล็กๆระหว่างทางให้เราแวะเข้าไปดู
จุดที่ได้รับความสนที่สุดก็คงเป็นรูปปั้นเจ้าชาย Little Prince and Desert Fox ที่ขนาดไปวันธรรมดาคนก็ยังต้องรอต่อแถวถ่ายรูป เราที่ไปคนเดียวก็เลยไร้ความสนใจไม่รู้จะต่อแถวไปให้ใครถ่าย เลยเดินผ่านมาแล้วแอบถ่ายคนแทน
ตอนนั้นเราดูแผนผังแล้วก็ตั้งใจจะเดินเป็นวงกลมให้สิ้นสุดที่ทางเริ่มตามที่เขาออกแบบ แต่ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเราเดินยังไงเหมือนกัน ยิ่งเดินไป คนยิ่งจาง ยิ่งเดินไป หมู่บ้านนี้ก็ยิ่งดูกว้าง เราอาจจะหลง หรือว่าพวกทัวร์เขากลับกันหมดแล้วก็ไม่รู้ แต่ก็ยังเห็นป้ายบอกทาง จุดถ่ายรูปอยู่ก็เลยคิดว่าคงไม่หลงหรอก
สุดท้ายก็ไปพักที่ Power Station ที่นี่จะมีคาเฟ่เล็กๆที่มีอาจุมม่า 2 คนดูแลอยู่ และทั้งร้านไม่มีคนเลย เราสั่งคาปูซิโน่ร้อนมาแก้หนาว จ่ายตังค์ หยิบกาแฟมานั่งพักด้วยความไม่คาดหวัง แค่อยากพัก อยากหาอะไรมาถือให้มืออุ่น แต่สักพักคุณป้าอาจุมม่าก็เอาขนมบิสกิตชิ้นเล็กๆใส่จานมาให้บอกว่าฟรีจ้ะ ประทับใจมาก ตากลมหนาวมาเจอน้ำใจอุ่น
สำหรับเราหมู่บ้านคัมชอนอาจจะเป็นไม่ใช่สถานที่ที่ประทับใจมาก เพราะรู้สึกว่ามันถูกออกแบบมาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมากไป ไม่ใช่ว่าไม่ดีแต่ทุกอย่างดูตายตัวแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเลยเป็นสถานที่ที่ไปครั้งเดียวก็คงพอ
และก็เหมือนตอนจบในทุกๆตอน คือเราหลงอีกแล้ว การเดินกลับไปทางเริ่มดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเรา หลงมาเจอคนทาสีบ้านถามทางไปเขาก็ไม่ตอบ สุดท้ายจะต้องไปโผล่ทางใหม่ หาทางกลับใหม่เสมอ ซึ่งก็คือวิธีเดิม คือการพยายามเดินหาป้ายรถเมล์เพื่อนั่งไปสถานีรถไฟใต้ดินสถานีไหนก็ได้เพื่อต่อรถกลับบ้านเสมอ แต่ใครจะรู้ สถานที่ที่เราประทับใจที่สุดของวันอาจจะเจอตอนนั่งรถบัสผิดสายก็ได้
ใครจะไปเที่ยวที่นี่ก็ขอให้สนุก ถ้าขยันเดินจะพบจุดเล็กจุดน้อยให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด ถ้าอยากถ่ายรูปมุมกว้างก็ขึ้นไปที่ Rooftop Cafe แล้วเล็งเลย ขอให้สนุก เราช่วยไปส่งได้แค่นี้จริงๆ หาทางกลับเองนะคะ XD
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in