เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Diary to meRin36xxx
พ่อของฉัน คือผู้ป่วยที่ดื้อที่สุดในชีวิตของฉัน
  •  


     “ไม่ต้องไปหาหมอหรอก พ่อไม่เป็นไรแล้ว” พ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ยี่ระต่อชีวิตเหมือนทุกครั้ง


    ฉันได้แต่เงียบ เกิดคำถามในหัวมากมาย 


    “ถ้าพ่อเป็นอะไรไป ก็ไม่ต้องยื้อนะ… ไม่ต้องปั๊มหรือใส่ท่อช่วยหายใจ”


    “พ่อเขียนพินัยกรรมไว้แล้วนะ ถ้าพ่อเป็นอะไรไปก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินใช้…”


    พ่อพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้สำคัญอะไรนัก เหมือนไปซื้อกับข้าว หรือเหมือนเป็นเรื่องของคนอื่นซะด้วยซ้ำ 


    แต่ความจริงแล้ว นี่คือเรื่องของพ่อของฉันในวัยหกสิบกว่าปี ที่เคยทำอาชีพเป็นหมอเอ็กซเรย์ ภายหลังป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว น้ำท่วมปอดและหัวใจเต้นผิดจังหวะมาแล้วครั้งนึง 


    ทุกคนล้วนเป็นห่วงพ่อ ทั้งแม่น้องชายและญาติคนอื่นๆ แต่พ่อเองกลับไม่รู้สึกทุกข์ร้อนใจอะไรนัก 


    ความตายไม่ได้น่ากลัวเท่ากับความทรมานช่วงก่อนตาย 

    เพราะอาการหัวใจขาดเลือดเป็นอะไรที่เจ็บปวดทรมานมาก… พูดง่ายๆก็คงเหมือนมีรถสิบล้อวิ่งทับหน้าอก


     ฉันคิดว่าพ่อมีภาวะของ “passive death wish” คือไม่ได้อยากยื้อชีวิตตน ให้อยู่ต่อไปนานๆ 


     …จะตายก็ได้แต่ไม่อยากทรมานนาน 


        ฉันเข้าใจพ่อนะ..

        แต่พ่อก็ดื้อมากจริงๆ และฉันก็พูดไม่ออก 

         เพราะนิสัยตัวเองก็คล้ายๆพ่อเลยไม่อยากขัดอะไร 


      เมื่อไม่กี่วันก่อน วันที่ดูเหมือนๆกับทุกวัน พ่อเกือบมีอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ฉันเลยไปตรวจดูอาการและรักษาพ่อที่บ้านด้วยตัวเองเนื่องจากพ่อไม่ยอมไปโรงพยาบาล โชคดีที่รอดตายมาได้ … 


        ไม่ว่าจะเสียงหัวใจที่เต้นไม่สม่ำเสมอ เสียงน้ำในปอดทั้งสองข้างของพ่อ หรือเสียงลิ้นหัวใจรั่วก็ตาม  


         ยังดีที่มียากับที่ฟังปอดอยู่บ้าน หลังจากกินยาพ่อเริ่มมีอาการดีขึ้น คิดว่าโชคดีจริงๆที่ไม่ถึงกับช็อกหมดสติไปก่อนทั้งพ่อทั้งฉัน 


         ยังไงก็ตาม พ่อยังยืนกรานจะไม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลเหมือนเดิม….



         สำหรับฉัน ไม่มีคนไข้คนไหนที่จะดื้อไปกว่าพ่อของตัวเองอีกแล้ว….

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in