ตอนที่ 2
“ครูรู้ว่าเธอยังติดใจเรื่องการตายของเพื่อนอยู่แต่การไปก่อกวนเพื่อนแบบนั้นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา กรณ์เพิ่งย้ายเข้ามา ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ถ้าครูยังเห็นเธอทำแบบนี้ ครูคงต้องลงโทษตามกฎหอพักนะทำแบบนี้ต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก มีแต่จะสร้างปัญหาให้มากขึ้นเปล่าๆ”
เรื่องที่นักเรียนใหม่ของหอพักไหว้วานให้ช่วยเหลือครูสุพลจัดการให้ตามคำขอ แม้ภาพในกล้องวงจรปิดจะไม่สามารถระบุตัวตนนักเรียนได้ชัดเจนแต่เพราะทำงานมานานและรู้จักนักเรียนของตนดี ครูสุพลจึงระบุตัวต้นเหตุได้ไม่ยาก ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่ครูที่ลงโทษนักเรียนอย่างไร้เหตุผล จึงตั้งใจไปตักเตือนเพื่อหยุดการกระทำที่สร้างความรำคาญนั้นมากกว่าอย่างไรก็ดี หากตัวต้นเหตุยังดื้อรั้น พูดไม่ฟัง สุดท้ายเขาก็ต้องลงโทษตามกฎของโรงเรียน
“เข้าใจที่ครูพูดใช่มั้ย”
นักเรียนคนดังกล่าวพยักหน้า
“ถ้าเข้าใจก็ตอบรับด้วย”
“ครับ”
“ไปกินข้าวไปเดี๋ยวจะสาย”
นักเรียนที่ถูกเรียกมาตักเตือนค้อมหัวให้ก่อนจะเดินจากไปครูสุพลมองตามอย่างเหนื่อยใจ เพราะตั้งแต่เพื่อนที่อยู่ห้อง 313
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใน
ที่โรงอาหารเช้านี้กรณ์นั่งกินข้าวอยู่คนเดียวตักไข่เจียวชะอมโปะบนข้าวแล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวเอื่อยเฉื่อยอย่างลืมเวลา
ครูสุพลยกยิ้มยามเดินเข้ามาใกล้กรณ์วางช้อนแล้วหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม เห็นสีหน้าครู
“นอนไม่หลับเหรอเมื่อคืน”
“นิดหน่อยครับ”
“อีกสิบนาทีโรงอาหารจะปิดแล้วนะ”
“ครูมาเร่งผมอย่างเดียวหรือเปล่าครับ”
“ก็เปล่าหรอก”
ระหว่างที่พูดครูสุพลก็หยิบมือถือขึ้นมากดกรณ์เผลอชะเง้อมองอย่างสนใจ จิ้มๆ เลื่อนๆ อยู่ไม่นานครูสุพลก็หันหน้าจอมาให้ดู
มันคือคลิปที่ถ่ายได้จากกล้องวงจรปิดบนชั้นสามในหอพักชาย
ในคลิปปรากฏนักเรียนคนหนึ่งสวมฮู้ดสีดำปิดหน้าเดินด้วยท่าทางสบายๆ มาที่หน้าห้อง 313 คนคนนั้นเปิดประตูห้องช้าๆ ก่อนจะเข้าไปทำอะไรบางอย่างเมื่อลงมือเสร็จแล้วก็เดินจากไป
“ครูรู้มั้ยครับว่าเป็นใคร”
“ครูพยายามหาอยู่”
“มีใครที่เคยใส่ฮู้ดแบบนี้บ้างมั้ยครับ”
“ครูเคยเห็นอยู่นะแต่ก็จำไม่ค่อยได้ว่าใครใส่บ้าง เอาเป็นว่าครูจะจัดการให้ ไม่ต้องห่วง”
กรณ์ดูคลิปวนซ้ำอยู่หลายรอบพยายามมองหาจุดสังเกตเด่นๆ เช่น รูปร่าง เสื้อผ้า ท่าทางการเดิน แต่มันก็ยากที่จะระบุตัวตนจากคนที่เขาไม่รู้จักอยู่ดี
“เมื่อกี้มันเดินลงมาจากชั้นบนใช่มั้ยครับ”
ทั้งคู่เปิดคลิปดูกันอีกรอบแม้ภาพจะไม่ชัดนักแต่ก็เห็นว่านักเรียนคนนั้นเดินลงมาจากชั้นบนจริงๆ
“ลงมาจากชั้นบน”
“ครูพอจะเดาได้มั้ยครับว่าเป็นใครเช่นพวกหัวโจกที่อยู่ห้องข้างบน” กรณ์ถาม คนอยู่ชั้นบนที่เขารู้จักมีแค่นนท์ ส่วนหมูกับรูมเมตอยู่ชั้นสอง
“ครูว่าน่าจะเป็นเด็กมอปลายนะครูจะไล่เช็กจากกล้องของแต่ละชั้นอีกที”
“งั้นผมขอคลิปได้มั้ยครับ”
“คงไม่ได้หรอกแต่ครูจะจัดการให้ ไม่ต้องเป็นห่วง รีบกินได้แล้วเหลือเวลาอีกห้านาที”
ครูสุพลปฏิเสธและเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงเขาแย้มยิ้มหวังให้ลูกศิษย์สบายใจ แต่นั่นไม่ช่วยให้กรณ์หายจากความหวาดระแวงได้เลย
หากยังไม่รู้ตัวคนทำมันก็ยากที่จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
ภาพในกล้องวงจรปิดที่ได้ดูเล่นวนซ้ำไปมาในความทรงจำกรณ์เฝ้าสังเกตทุกคนที่เดินผ่านคาดคะเนจากรูปร่างและส่วนสูงซึ่งประเมินได้ยาก เพราะในคลิปไม่มีนักเรียนคนอื่นเลยนอกจาก
ระหว่างทาง
“เออมึง ถามไรหน่อยดิ”กรณ์พูด ไอ้ฮู้ดดำคนนั้นไม่มีทางใช่คนที่เขารู้จักแต่อาจจะเป็นคนที่เพื่อนของเพื่อนรู้เบาะแสก็ได้
“อะไร”
“มึงอยู่ห้องสามใช่ป้ะ”
“เออ”
“ห้องมึงมีคนอยู่หอกี่คน”
“มีกู ตรี เอิร์ล ปุยฝ้ายแล้วก็พลอย ห้าคน แต่ก่อนหน้านี้มีหก” คนพูดยกนิ้วขึ้นมานับ แววตาดูมีความอยากแกล้งเล็กๆตอนพูดประโยคสุดท้าย และกรณ์รู้ความหมายที่อีกฝ่ายอยากสื่อดี
“คนนั้นชื่ออะไรนะคนที่ตายอะ”
ไม่จำเป็นต้องคิดมากกับจำนวนคนที่หายไปหนึ่งเพราะคนคนนั้นคือนักเรียนที่เสียชีวิตในห้อง 313
“พร้อม”
“แล้วมีใครอีก”
“ถามทำไมวะ”
“แค่อยากรู้เมื่อวานไม่เห็นพูดถึง ไม่สนิทกันเหรอวะ”
“ก็เหมือนมึงกับไอ้หมูแหละไม่ได้สนิทอะไรมาก”
“แล้วที่ห้องมึงมีคนชอบใส่ฮู้ดสีดำมั้ย”กรณ์คิดว่าไอ้คนนั้นมันแค่ต้องการปกปิดตัวตน ไม่ได้ใส่ฮู้ดเป็นประจำ
“ก็ไม่นะแต่ที่เห็นบ่อยๆ ก็…อย่าบอกนะว่ามึง...” น้ำเสียงในประโยคหลังมีความสั่นกลัวอยู่เล็กๆนิ้วชี้ยกขึ้นชี้หน้า ดวงตาเบิกกว้างกว่าปกติเป็นท่าทางที่กรณ์เดาไม่ออกว่ามันแค่แกล้งตกใจหรือตกใจจริงๆกันแน่
“อะไร”
“ก็กูเคยเห็นไอ้พร้อมมันใส่ฮู้ดดำที่หอบ่อยๆอย่าบอกนะว่ามึงเจอผีมันอะ”
“ตลกละ”
“กูพูดจริงนะ”
“ผีบ้าอะไรถ่ายติดในกล้องวงจรปิดชัดขนาดนั้นวะ”กรณ์พึมพำกับตัวเอง แต่คนฟังที่ได้ยินไม่ชัดกลับตีความเป็นอย่างอื่น
“อะไรนะมึงถ่ายติดผีไอ้พร้อมเหรอ!”
“
นักเรียนที่เดินอยู่ใกล้ๆต่างหันมามอง กรณ์ถลึงตาใส่พร้อมยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากเพื่อบอกให้อีกฝ่ายเงียบแค่ย้ายไปอยู่ห้องที่มีคนตายก็ตกเป็นจุดสนใจมากพออยู่แล้ว ถ้ามีคนได้ยิน
หรือเขาควรปล่อยข่าว
“ถ่ายติดจริงดิ”รูมเมตของหมูกระซิบถาม
“ไม่ใช่เว้ยไม่มีผีอะไรทั้งนั้นแหละ”
“ถ้าเจอก็บอกกูได้นะเดี๋ยวช่วยหาพระ”
“ไม่เอาเว้ยกูเข้าห้องละ” กรณ์รีบบอกลาเมื่อขึ้นมาถึงห้องเรียนซึ่งอยู่ติดกับบันไดพอดี ส่วนเพื่อนใหม่ที่เดินมาด้วยกันต้องเดินต่อไปอีกสองห้อง
“เออๆ เจอกันที่หอ”
ดอยที่เห็นเพื่อนสนิทคุยกับเด็กห้องอื่นอยู่หน้าห้องก็มองตามจนกรณ์นั่งลงข้างๆแล้วก็ยังไม่ละสายตา ไม่บ่อยนักที่จะเห็นกรณ์ไปสุงสิงกับเด็กห้องอื่น เขาจึงถามขึ้นเพื่อคลายความสงสัยทันที
“ใครวะ”
“รูมเมตไอ้หมูเจอตรงทางเข้าตึก”
ได้คำตอบก็พยักหน้ารับดอยมองกรณ์ที่ก้มๆ เงยๆ หยิบหนังสือขึ้นมาวางแล้วก็สังเกตเห็นความผิดปกติเล็กๆน้อยๆ แววตาและสีหน้าที่ดูหม่นหมองนั้นชวนให้เกิดความสงสัยขึ้นมาอีกรอบ
“มึงดูเพลียๆ นะนอนไม่หลับเหรอ”
“นิดหน่อย”
“ไหนเมื่อวานยังบอกว่าไม่มีอะไรอยู่เลย”
“ไม่ใช่แบบนั้น”
กรณ์รู้ว่าเพื่อนหมายความว่ายังไงดอยเป็นห่วงว่าเขาจะเจอสิ่งลี้ลับในห้องและเขาก็ยืนยันหนักแน่นไปแล้วว่าไม่มีอะไรแบบนั้นถึงอย่างนั้นกรณ์ก็ยังไม่ได้เล่าเรื่องที่ถูกใครบางคนก่อกวนให้เพื่อนฟังที่จริงก็ตั้งใจจะมาปรึกษากันวันนี้
“สรุปเป็นไรวะ”
“เดี๋ยวตอนเที่ยงเล่าให้ฟัง”
ครูประจำชั้นเดินเข้ามาในห้องทำให้กรณ์ต้องพับปัญหาชีวิตเอาไว้ก่อนเรื่องนี้ต้องเล่าอย่างละเอียด ต้องมีเวลาปรึกษาและระดมความคิดอย่างจริงจัง เก็บไว้คุยตอนพักเที่ยงจึงเหมาะที่สุด
ความรู้สึกที่เหมือนมีคนจ้องมองยังไม่จางหายไปตั้งแต่ก้าวออกจากห้องเรียน ความรู้สึกนั้นก็รุนแรงขึ้นท่ามกลางนักเรียนร่วมร้อยคนที่ออกจากห้องเรียนในเวลาไล่เลี่ยกัน กรณ์มั่นใจแล้วว่าไอ้ฮู้ดดำคนนั้นต้องเรียนอยู่ชั้นเดียวกับเขาอย่างแน่นอน
ตามที่สัญญากับเพื่อนไว้กรณ์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในหอพักทั้งหมดให้ดอยฟัง ประตูห้องที่มีคนมาเปิดคนที่แอบเข้ามาในห้องและหนีออกไปทางระเบียง ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ครูสุพลเอามาให้ดูกับข้อสรุปที่คิดเอาเองว่าไอ้ฮู้ดดำต้องการรับน้องและแกล้งให้เขากลัว
“แค่อยากแกล้งจริงเหรอวะ”ดอยตั้งข้อสงสัยเมื่อฟังจบ เขาดันจานข้าวที่กินจนเกลี้ยงออกไปด้านข้างขณะที่กรณ์ซึ่งเป็นผู้เล่าเพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำ
“ไม่งั้นจะทำไปทำไม”
“มึงว่ามันทำคนเดียวหรือมีคนอื่นด้วย”
“ไม่รู้ดิแต่กูรู้สึกว่ามันน่าจะทำคนเดียว”กรณ์เดาจากภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดกับตอนที่เจอมันแอบเข้ามาในห้อง
“กูว่ามันแปลกนะถ้าอยากรับน้องน่าจะมีคนร่วมด้วย ไอ้พวกตัวแสบมันต้องอยู่เป็นกลุ่มถึงจะกล้าถ้าทำคนเดียวอาจจะแค่อยากแกล้งเอาสนุก”
“กูจะเป็นบ้าแล้วเนี่ย”
“มันไม่ได้ทำอย่างอื่นใช่มั้ยนอกจากเปิดประตู”
“หนักสุดก็แอบเข้ามาในห้องตอนกูไปอาบน้ำไง”
“ตอนนั้นมันไม่ได้ขโมยของอะไรไปใช่ป้ะ”
“ไม่มีหรือเพราะกูกลับมาเจอก่อนก็ไม่รู้”
ดอยครุ่นคิดเขาไม่ค่อยอยากปักใจเชื่อว่ากรณ์ถูกแกล้งเอาสนุกหรือมีใครบางคนอยากรับน้อง ไอ้ฮู้ดดำคนนั้นอาจจะมีจุดประสงค์อื่นมากกว่า
“กูว่ามันจะแอบเข้าไปขโมยของมึงหรือเปล่าถ้าตอนนั้นมึงไม่เข้าไปเจอก่อนอาจจะมีอะไรหายก็ได้”
“เหรอวะ แต่กูไม่มีของมีค่าอะไรเลยนะของกูก็ยังไม่ได้จัดให้เข้าที่เข้าทาง ค่าหอก็ไม่ใช่ถูกๆ เรียนที่นี่ได้ก็ถือว่ามีฐานะป้ะ”กรณ์ค้านความเห็นของเพื่อน
“พวกที่ขโมยเอาสนุกก็มีนะมึง”
“แล้วมันอยากขโมยอะไรจากกูอะกางเกงในเหรอ”
“พูดเป็นเล่นไป มันอาจจะเป็นโรคจิตก็ได้ไม่งั้นไม่แอบไปเปิดประตูห้องมึงหรอก”
“กูยิ่งกลัวนะเนี่ย” กรณ์ไม่เคยคิดถึงกรณีนี้มาก่อนแต่คำพูดต่อมาของดอยกลับทำให้เขายิ่งรู้สึกเสียวสันหลังกว่าเดิม
“หรือว่ามันอาจจะแอบชอบมึงก็ได้”
“อันนี้เพ้อเจ้อแล้ว”
“ก็แค่ลองคิดหลายๆแบบเฉยๆ”
กรณ์คิดตามทุกความเห็นของเพื่อนรักขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ทุกอย่างก็เป็นไปได้เสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะสมเหตุสมผลหรือไม่บางครั้งการกระทำของคนเราก็ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ทั้งสิ้น
“ช่วงนี้มึงก็ล็อกห้องไปก่อนไม่ต้องสนใจกฎบ้าบออะไรก็ไม่รู้ เพราะแม่งโคตรไม่ปลอดภัย”
“กูล็อกอยู่แล้ว”
แม้แต่ตอนนี้กรณ์ก็ยังรู้สึกว่ามีใครสักคนจ้องมองเขาอยู่ความรู้สึกมันไม่เหมือนกับวันแรกที่ถูกผู้คนจับจ้องเพราะเขาย้ายไปอยู่ในห้องที่เคยมีคนตายแต่พอพยายามจะหาต้นตอ เขากลับไม่เจอใครที่ดูมีพิรุธเลย
“มึงรู้มั้ยว่ามอห้ามีใครอยู่หอบ้าง”กรณ์ถาม
“รู้แค่ห้องเราแล้วก็ไอ้เนียร์ห้องสี่ เหมยกับหมวยห้องห้า เฟรมห้องสอง”
“แค่นี้”
“เออแค่นี้แหละ รู้เยอะกว่ามึงแล้วกัน มึงสงสัยพวกนี้เหรอ”
“กูสงสัยว่ามันน่าจะเรียนอยู่มอห้าเหมือนกัน”
“ทำไมวะ”
“เพราะน่าจะรู้จักกูที่สุดละมั้ง”
“มึงอาจจะดังกับรุ่นพี่รุ่นน้องก็ได้นะ”
กรณ์ส่ายหน้าเขาเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาที่ไม่โดดเด่นสักด้านถ้าจะกลายเป็นที่รู้จักก็คงเพราะได้ย้ายมาอยู่ห้อง 313 นี่แหละ
“แต่ถ้าให้กูเดาคนที่ดูเลวสุดก็ไอ้เฟรม แต่มันเลวแบบชอบกร่างอะ เสียงดัง พูดมาก ขี้โม้ ขี้อวดดูไม่ใช่พวกชอบแกล้งคนอื่นไปทั่ว”
“ไม่ใช่มันหรอกตัวมันใหญ่กว่าคนในคลิปเยอะ”
ผู้ต้องสงสัยของดอยถูกปัดตกไอ้ฮู้ดดำตัวค่อนข้างเล็ก น่าจะสูงไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบเซนฯ แต่คนที่ดอยพูดถึงมีแต่คนตัวใหญ่อีกสองคนก็เป็นผู้หญิง ขึ้นหอชายไม่ได้อยู่แล้ว
“งั้นกูก็ไม่รู้แล้วมึงอะรีบแดกข้าวเลย จะหมดมั้ยวันนี้”
“มึงกูว่ากูคิดวิธีจับไอ้ฮู้ดดำได้แล้วว่ะ”
ความสนใจของกรณ์ไม่ได้อยู่ที่ข้าวตรงหน้าแม้มือจะถือช้อนอยู่แต่ไม่ได้ตักข้าวเข้าปากเลยสักคำ กรณ์เล่าแผนการที่คิดได้สดๆร้อนๆ ให้ดอยฟัง ก็แค่ปล่อยให้ไอ้ฮู้ดดำมันคุกคามเขาในแบบที่ชอบทำต่อไป เปิดช่องว่างเชิญชวนให้มันเข้ามาหาจากนั้นก็จับกุม
“เสี่ยงอยู่นะ”ดอยออกความเห็น
“ถ้ามันเป็นขโมยก็แค่ของหายแต่ถ้าไม่ใช่กูว่ามันก็น่าลองนะ”
“ระวังตัวด้วยแล้วกันมึงลองขอให้ไอ้พวกที่อยู่หอช่วยอีกแรงมั้ย” เพื่อนรักมักห่วงใย เพราะไม่สามารถไปอยู่ตรงนั้นได้ดอยจึงเสนอทางที่น่าจะปลอดภัยกว่า
“กูทำคนเดียวดีกว่าเกิดพวกมันเอาไปพูดเดี๋ยวไอ้ฮู้ดดำจะรู้ตัว”
“จะได้ผลเหรอวะ”
“ก็ต้องลองดู”
กรณ์ไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์และกำหนดวันเวลาที่แผนเขาจะสำเร็จได้หากเริ่มแผนการแล้วก็ทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นที่ห้อง 313 ไม่เว้นวัน ประตูห้องถูกแง้มเปิดไว้ในทุกเช้าหรือตอนเย็นตอนที่กรณ์กลับถึงห้องรวมถึงเงาคนที่ระเบียงหลังห้อง มันแวบไปแวบมา สมจริงเสียจนกรณ์ยังอดคิดไม่ได้ว่านั่นอาจไม่ใช่คนถ้าจะมีความสามารถโลดโผนปีนป่ายได้ขนาดนี้ ไอ้ฮู้ดดำคนนั้นก็
ความคิดที่จะล็อกประตูถูกโยน
วันหนึ่งกรณ์เคยไปเคาะประตูห้องข้างๆเพื่อสอบถามว่าเห็นใครกระโดดไปมาตรงระเบียงหรือได้ยินเสียงแปลกๆ บ้างมั้ย แต่น้องมอต้นที่อยู่ห้องข้างเขากลับเอาแต่ส่ายหน้าลูกเดียวตีความได้อย่างเดียวว่าไอ้ฮู้ดดำต้องซื้อตัวน้องคนนี้ไปเป็นลูกน้องแล้วแน่ๆ เพราะมันไม่ใช่สไปเดอร์แมนไม่มีทางกระโดดหนีขึ้นไปข้างบนได้หรอก ทางหนีเดียวที่มีคือระเบียงห้องข้างๆที่อยู่ติดกัน
ด้านครูสุพลที่บอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ก็ดูไม่ได้ความเท่าไรกรณ์รับรู้ถึงความตั้งใจของครูจากคำแนะนำและความห่วงใยที่คอยมาถามไถ่แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงยังจับไอ้ฮู้ดดำไม่ได้สักทีอย่างกับว่าครูตั้งใจปล่อยผ่านไป ทั้งที่รู้ว่าตัวการเป็นใครแต่ก็ไม่ทำอะไรอยู่ดีภาพจากกล้องวงจรปิดก็มีแค่คลิปนั้นที่เอามาให้ดู พอทวงถามก็ได้คำตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง
“ครูจะจัดการให้เอง”
กรณ์รู้สึกเหนื่อยใจและหมดหวังกับคำตอบที่ได้สุดท้ายเลยเผลอใส่อารมณ์ออกไปอย่างลืมตัว
“ครูจัดการไม่ได้ก็บอกผมมาเถอะครับ”
“ครูพยายามอยู่”
“หรือเพราะครูเห็นว่าชีวิตผมไม่สำคัญ”
“กรณ์ใจเย็นๆ ก่อน” ครูสุพลคือคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความสุขุมและใจเย็น เขาเข้าใจถึงความโกรธเกรี้ยวของนักเรียนและรู้ดีว่าครั้งนี้ตนแก้ไขปัญหาได้แย่แค่ไหน
“หรือผมควรบอกเรื่องนี้กับผอ.ดีครับ ถ้าครูช่วยผมไม่ได้”
“กรณ์ครูกำลังจัดการอยู่”
“ครูพูดแบบนี้ทุกครั้งที่เจอผมเลยนะครับ”
“มันจะจบภายในสัปดาห์นี้ครูรับปาก”
ครูสุพลวางมือบนไหล่กรณ์ทั้งสายตาและน้ำเสียงมุ่งมั่น แต่นักเรียนของเขากลับไม่เชื่อแบบนั้น เพราะถ้าครูตั้งใจจัดการปัญหาจริงๆเรื่องมันคงจบไปนานแล้ว
“รีบไปกินข้าวไปเดี๋ยวโรงอาหารปิดก่อน”
เย็นวันนี้กรณ์อยู่ที่โรงอาหารจนถึงเวลาปิดทำการวันนี้เป็นวันศุกร์เพื่อนหลายคนเดินทางกลับบ้านโดยมีผู้ปกครองมารอรับตั้งแต่โรงเรียนเลิกเหลือนักเรียนเพียงน้อยนิดที่ยังอยู่หอพักในช่วงวันหยุด กรณ์เองก็เป็นหนึ่งในนั้นรวมถึงไอ้ฮู้ดดำคนนั้นด้วย
บรรยากาศในหอพักวังเวงเหมาะแก่การปรากฏตัวของสิ่งลี้ลับบรรยากาศรอบตัวเงียบสนิทแม้ไฟยังเปิดสว่างในเวลาเกือบสองทุ่มกรณ์เดินเอื่อยเฉื่อยจากโรงอาหารขึ้นหอพักอย่างโดดเดี่ยวนักเรียนที่ไม่ได้กลับบ้านต่างก็ขึ้นห้องนอนกันไปหมดแล้วจะเห็นก็แต่ลุงยามที่เฝ้าประตูทางเข้าอยู่ไกลๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่กรณ์ไม่ชอบ
มาถึงห้อง313 ก็พบว่าประตูห้องถูกแง้มไว้เหมือนเคย กรณ์เดินเข้าห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นวางของไว้แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมไปอาบน้ำก่อนครูสุพลจะเดินตรวจรอบดึกเขาวางแผนไว้แล้วว่าสุดสัปดาห์นี้จะจัดการกับไอ้ฮู้ดดำยังไง
จากการเก็บข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกรณ์พบว่าช่วงสุดสัปดาห์ที่ไม่ค่อยมีคนอยู่หอ ไอ้ฮู้ดดำดูจะได้ใจกว่าปกติมันแอบเข้าห้องเขากลางดึก ทิ้งรอยเท้าเอาไว้ในห้องให้หงุดหงิดเล่นบางคืนก็มาเป็นเสียงอยู่นอกระเบียง แต่พอออกไปดูก็ไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้น
วันหยุดนี้เขาจะจับมันตอนแอบเข้ามาในห้องให้ได้
กลับมาจากห้องน้ำ
ความเงียบในเวลากลางคืนช่วยให้ได้ยินเสียงรอบตัวได้ดีขึ้นเสียงลูกบิดประตูดังแกรกเบาๆ ในเวลาที่กรณ์เกือบจะเผลอหลับ มันช่วยดึงสติเขาให้กลับคืนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูตามมา ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงฝีเท้าของผู้บุกรุก
กรณ์หรี่ตาขึ้นมองเห็นเงาคนสวมฮู้ดเดินอยู่ในห้องมันดูตัวเล็กกว่าที่จินตนาการไว้ไม่มาก แต่สีดำของฮู้ดก็ทำให้มัน
กรณ์หลับตาลงรออย่างใจเย็นแม้เขากำลังใจเต้นแรงจนกลัวว่าไอ้ฮู้ดดำจะได้ยินความเงียบยังคงทำหน้าที่ขับให้เสียงโดยรอบชัดเจนขึ้นได้ดี เขาได้ยินเสียงเสียดสีของผ้าเมื่อมันเข้ามาใกล้จนชิดกับเตียงรับรู้ได้แม้กระทั่งความรู้สึกคุกคามที่มันพยายามสร้างให้เกิดความกลัว
กรณ์หรี่ตาขึ้นมองเพื่อระบุตำแหน่งเป้าหมายให้ชัดเจนไอ้ฮู้ดดำยืนชิดปลายเตียงเขามันก้มหน้าทำตัวเหมือนผีสาวที่ชอบยืนปลายเตียงในเรื่องเล่า จ้องมองอย่างนิ่งสงบอยู่ร่วมนาทีก่อนจะก้าวถอยหลังจังหวะนี้เองที่กรณ์คิดว่าควรลงมือ ไม่อย่างนั้นคนที่เร็วเหมือนลิงอย่างมันอาจจะหนีไปได้อีก
เมื่อไอ้ฮู้ดดำขยับกรณ์ก็ขยับตามเขายันตัวลุกส่งเท้าขวาถีบเข้าที่ท้องผู้บุกรุกเต็มแรง
“มึงเป็นใครวะ”
ได้ยินเพียงเสียงฮึดฮัดกับแรงที่พยายามสะบัดตัวให้หลุดกรณ์ล็อกตัวไอ้ฮู้ดดำไว้จากด้านหลังกอดไว้แน่นเสียจนรู้สึกเหมือนกระดูกคนที่ถูกล็อกแทบจะแหลกคาอ้อมแขน
จังหวะที่แรงขัดขืนเบาลงกรณ์ก็คลายอ้อมแขนเล็กน้อยแล้วจับไอ้ฮู้ดดำให้หันหน้ามาหาเพราะไม่อยากใช้กำลังทำร้ายร่างกายจึงดันตัวมันจนไปกระแทกกับตู้เสื้อผ้าดึงฮู้ดที่สวมไว้ออกเพื่อดูหน้าตา แต่ก่อนจะได้พูดอะไร สติของเขาก็เหมือนจะดับวูบไปเสียดื้อๆ
กล่องเหล็กใส่ของที่อยู่บนตู้เสื้อผ้าตกลงกระแทกหัวกรณ์เข้าอย่างจังก่อนตกลงพื้นเสียงดังสนั่น เจ้าของห้องเกิดอาการมึนงง จากนั้นก็ล้มใส่ผู้บุกรุกที่กำลังตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกก่อนจะพยุงกรณ์ให้ไปนอนบนเตียงแล้วรีบหนีออกมาพร้อมกับภาวนาให้เจ้าของห้องคนนั้นไม่เป็นอะไรมากจากอุบัติเหตุ
กรณ์ลืมตาขึ้นด้วยความรู้สึกทั้งเจ็บทั้งมึนที่หัวเขายันตัวลุกขึ้นนั่ง ต้องใช้เวลาสักพักในการปรับสายตา
ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างไอ้ฮู้ดดำคนนั้นแต่ก็ใช่ว่ากรณ์จะคว้าน้ำเหลวเสียทีเดียวอย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าคนที่คุกคามชีวิตเขามาตลอดคือใคร
เป็นคนที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกันอย่างที่คิดไว้จริงๆ
กรณ์ละความสนใจจากกล่องเหล็กปริศนามองประตูระเบียงที่ยังปิดสนิท ก่อนหันไปมองประตูห้องเพื่อเช็กความเรียบร้อย
ไม่สิเรียกว่าคนคงไม่ถูก
“หวัดดี”
เพราะคนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากรณ์...คือนักเรียนที่เสียชีวิตในห้อง 313 เมื่อเดือนก่อน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in