เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ห้องนี้ไม่มีคนอยู่ by Kinsangminimore
ตอนที่ 1
  • ตอนที่ 1 

    เสียงซุบซิบน่ารำคาญดังขึ้นตลอดทางที่ก้าวผ่านกรณ์พยายามไม่สนใจและจดจ่อกับคำพูดของคุณครูที่เดินนำเขาอยู่ไม่กี่ก้าวคอยส่งเสียงและพยักหน้าตอบเมื่อได้ฟังคำถาม แต่ไม่ว่าจะพยายามไม่สนใจคำพูดของผู้คนโดยรอบยังไงเขาก็ยังได้ยินมันอย่างชัดเจนอยู่ดี

    จะมาอยู่ห้องนั้นเหรอ

    เขารู้หรือเปล่าวะว่าห้องนั้นมีอะไร

    ไม่รู้แหงไม่งั้นจะมาอยู่เหรอ

    โดนโรงเรียนหลอกชัวร์

    “โดนโรงเรียนหลอกไม่เท่าไร เพราะน่าจะโดนผีหลอกมากกว่า”

    เสียงหัวเราะดังตามมาให้ได้ยินยิ่งน่าหงุดหงิดแต่ว่าห้องนั้น ความลับและคำหลอกลวง เรื่องพวกนั้นน่ะ...

    เข้าห้องกันได้แล้ว

    ครูสุพลหันไปว่าเด็กนักเรียนในหอพักชายที่ยืนออกันตามทางเดินเขาคือชายร่างสูงใหญ่ผู้เป็นครูพละและครูผู้ดูแลหอพักชายของโรงเรียนมาอย่างยาวนานแต่ด้วยความสนิทสนมที่เขามีกับนักเรียนทำให้เด็กเหล่านี้ไม่ได้มีท่าทางเกรงกลัวเขาสักเท่าไร

    โธ่ครูแค่อยากทักทายเพื่อนใหม่

    “แวะมาให้กำลังใจเพื่อนร่วมชั้นเองครู”

    “สู้ๆนะนาย”

    “ไปได้แล้วไป”ครูสุพลโบกมือไล่ด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ

    “ให้ไปไหนล่ะครูก็ผมอยู่ชั้นนี้”

    วุ่นวายมากครูจะตัดคะแนนความประพฤติ”

    “โห่อะไรเนี่ย”

    คำขู่ได้ผลนักเรียนจอมก่อกวนยอมเดินจากไป แต่ก็ไม่วายเอาแต่พูดถึงเรื่องเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับห้องนั้น อยู่ดี

           “อย่าไปฟังพวกนั้นมากเลย”

    ครูสุพลถอนหายใจเบาๆเขาหันมายิ้มให้กรณ์ นักเรียนผู้เป็นสมาชิกใหม่ของหอพักนี้ก่อนจะเดินนำหน้าตรงไปยังห้องที่อยู่ริมสุดของทางเดิน

    กรณ์หันกลับไปมองด้านหลังเห็นนักเรียนชายกลุ่มเมื่อครู่โบกมือทักทายด้วยท่าทีดูขี้เล่นและเป็นมิตร ทว่าคนมองกลับรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไรกรณ์พยายามไม่ใส่ใจ เพราะเรื่องของสถานที่ที่เกิดเหตุร้ายขึ้นมักถูกเสริมเติมแต่งจนกลายเป็นเรื่องเล่าที่น่ากลัวเกินจริง

    เดินตรงไปจนสุดทางเดินคือห้อง313 ประจำหอพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นหอพักชายของโรงเรียนเลิศวิทยาโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่มีการเรียนการสอนทั้งในระบบปกติและระบบหอพักเปิดสอนระดับมัธยมตั้งแต่ชั้นปีที่หนึ่งถึงหก โรงเรียนมีพื้นที่กว้างขวางตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองหลวง เป็นโรงเรียนสองภาษาที่ค่าเทอมแพงหูฉี่ และตามประสาโรงเรียนชื่อดัง ที่นี่มีเรื่องฉาวโฉ่ที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้

    กรณ์เรียนที่โรงเรียนเลิศวิทยามาตั้งแต่ชั้นมอหนึ่งจนตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมอห้าแล้ว เขาคุ้นเคยและรู้จักโรงเรียนนี้ดีใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างเรียบง่ายแบบนักเรียนธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นหรือโด่งดังไม่ใช่รุ่นพี่ที่เป็นที่รู้จัก และไม่มีเพื่อนสนิทเป็นนักเรียนในระบบหอพักเขาเคยเป็นนักเรียนในระบบปกติ แต่ด้วยเหตุผลทางครอบครัวทำให้เขาต้องย้ายมาเป็นนักเรียนระบบหอพักตอนใกล้จบเทอมสอง

    แม่ที่อาศัยอยู่ด้วยกันแค่สองคนของกรณ์เพิ่งเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อนสิทธิ์ในการเลี้ยงดูจึงตกอยู่กับพ่อที่เลิกลากับแม่ตั้งแต่เขายังเรียนอยู่ประถมกรณ์ไม่อยากย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกับครอบครัวใหม่ของพ่อกลางคัน เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองเป็นนักเรียนประจำแทน เพราะง่ายกับการปรับตัวใหม่มากกว่าในช่วงที่เขาต้องเตรียมตัวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย

    ห้องนี้แม่บ้านเพิ่งมาทำความสะอาดให้เมื่อวานอยู่คนเดียวก็ไม่ต้องกลัวล่ะครูสุพลบอกเมื่อพาลูกศิษย์มาส่งที่หน้าห้องพัก

    ครับ

    ทำตามกฎของหอพักด้วยนะตอนเช้าโรงอาหารปิดเจ็ดโมงครึ่ง ตอนเย็นปิดหกโมง ถ้าไปกินไม่ทันก็อดแต่ถ้าไม่มีอะไรกินก็แวะไปหาครูที่ห้องพักครูได้มีเสบียงเตรียมไว้ให้ แล้วก็ห้ามล็อกประตูห้อง ครูจะมาเดินตรวจก่อนสี่ทุ่ม กรณ์ต้องอยู่ในห้องเข้าใจนะ

    ครับ

    กรณ์อมยิ้มพยักหน้ารับหลังจากครูสุพลย้ำกฎระเบียบของหอพักให้ฟังเขาไม่ได้รำคาญที่ครูพูดมันมาหลายรอบแล้ว เพราะรู้ว่าครูแค่เป็นห่วง

    ถ้ามีปัญหาอะไรก็เรียกครู”

    ครับ

    ที่พวกนั้นพูดเมื่อกี้ก็อย่าไปคิดมากล่ะ”

    “ครับ”

    “โทรหาครูได้ตลอดถ้ากลัวก็ลงไปหาครูได้”

    “ครับครูผมอยู่ได้ครับ”

    “งั้นครูไปนะ”

    “ครับ”

    กรณ์ยิ้มตอบรับครูสุพลโดยไม่มีข้อสงสัยหรือซักถามอะไรเพิ่มเติมเขาลากกระเป๋าเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู กวาดสายตามองภายในห้องพักขนาดเล็ก เห็นเตียงขนาดสามฟุตครึ่งวางเอาหัวเตียงชิดผนังฝั่งหนึ่งตรงปลายเตียงมีโต๊ะอ่านหนังสือ ติดกับระเบียงห้องวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ปกติต้องใช้ร่วมกับรูมเมต แต่เขาได้รับสิทธิ์ให้อาศัยอยู่ในห้องนี้เพียงคนเดียวพร้อมเงื่อนไขพิเศษจากทางโรงเรียน

    กระเป๋าเดินทางถูกลากไปวางไว้หน้าตู้เสื้อผ้ากระเป๋าเป้ของโรงเรียนวางบนโต๊ะอ่านหนังสือด้านในกรณ์เปิดประตูระเบียงออกไปชมวิวยามเย็นที่ไม่มีอะไรให้ดูนัก ยืนรับลมอยู่สักพักก็กลับเข้ามาในห้องแล้วล้มตัวลงบนเตียงด้านในซึ่งอยู่ใกล้ระเบียง

    ในหัวของกรณ์ตอนนี้ช่างว่างเปล่าทั้งที่มีเรื่องให้ทำ มีอะไรให้คิดตั้งมากมาย เขานอนมองเพดานอยู่เงียบๆ หลายนาที เหม่อลอยไปยังที่ไกลแสนไกลก่อนแรงสั่นจากสมาร์ตโฟนในกระเป๋ากางเกงจะเรียกสติให้กลับคืน

    เป็นไงบ้างเด็กหอ

    ดอยเพื่อนสนิทของกรณ์ทักมาหา

    ก็ดี รอลงไปกินข้าวตอนใกล้หกโมง

    ในห้องเป็นไงบ้างวะเจออะไรมั้ย

    เตียงสอง โต๊ะสองตู้หนึ่ง

    กรณ์พิมพ์ตอบกลับไปพร้อมรูปถ่ายภายในห้อง

    ไม่ใช่แบบนั้นกูหมายถึงสิ่งที่มองไม่เห็น

    ไม่เห็นมีอะไร

    อาจจะออกมาดึกๆ

    ถ้าจะพูดแต่เรื่องนี้กูไม่คุยต่อแล้วนะ

    ใจเย็นดิวะ

    กรณ์รู้สึกรำคาญอยู่ไม่น้อยที่ทุกคนเอาแต่พูดถึงเรื่องนี้ไม่เลิกทุกคนในโรงเรียนต่างรู้ดีว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่หอพระอาทิตย์แห่งนี้ไม่อย่างนั้นพวกนักเรียนคงไม่ซุบซิบนินทาตั้งแต่เห็นเขาเดินลากกระเป๋าตามครูสุพลเข้ามา

    เรื่องน่าเศร้าที่เกิดกับนักเรียนชั้นมอห้าเมื่อเดือนก่อนอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง และสถานที่เกิดเหตุก็คือห้อง 313

    รายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุนั้นไม่เป็นที่เปิดเผยทางโรงเรียนแจ้งเพียงว่ามีนักเรียนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตภายในห้องพักแต่ก็มีนักเรียนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกับผู้เสียชีวิตเล่ากันว่ามีใครบางคนอยู่เบื้องหลังการตายของนักเรียนคนนั้นจนเกิดเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ในหมู่นักเรียนก่อนเรื่องจะซาไปตามกาลเวลา

    กับนักเรียนที่เสียชีวิตกรณ์ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวเพราะเรียนอยู่คนละห้อง แต่ก็ยังเคยเห็นหน้าค่าตาอยู่บ้างถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่คนที่เด่นชัดในความทรงจำ และกรณ์ก็ไม่สนด้วยว่าวิญญาณเขาคนนั้นที่ตายในห้องนี้จะยังวนเวียนอยู่หรือไปสู่สุคติแล้ว

    หลังเหตุการณ์เสียชีวิตของนักเรียนชั้นมอห้าคนนั้นที่โรงเรียนก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ลึกลับสยองขวัญใดๆ เกิดขึ้นอีก มีเพียงเรื่องที่นักเรียนบางคนกุขึ้นเพื่อให้หอพักแห่งนี้ดูมีเรื่องเล่าน่ากลัวห้องนี้ยังคงถูกปล่อยว่างไว้เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเพียงนักเรียนที่เสียชีวิตอาศัยอยู่คนเดียวกรณ์ที่ต้องย้ายเข้ามาอยู่หอพักกะทันหันจึงถูกส่งตัวมาอยู่ห้อง 313 ภายใต้เงื่อนไขพิเศษว่าหากเขาอยู่แล้วไม่มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น กรณ์ก็สามารถอยู่อาศัยได้ฟรีจนจบเทอม และในเทอมต่อไปจะมีการจัดให้เขาไปอยู่หอพักใหม่และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตามปกติ ซึ่งกรณ์ไม่ได้คัดค้านอะไรกับเงื่อนไขนี้

    ระหว่างที่แชตกับดอยกรณ์ก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างเขารีบหันไปมองที่ประตูและพบว่ามันแง้มอยู่พร้อมกับเงาที่เคลื่อนออกไปจากจุดนั้นคิดได้อย่างเดียวว่าคงเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นมาแอบดู หรือไม่ก็พวกที่พูดจาแย่ๆ ตอนเขาเดินมากับครูสุพลนั่นแหละเพราะการเข้ามาพักในห้องนี้ของเขาก็ดูจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากทีเดียว

    รู้สึกว่าต่อจากนี้ชีวิตคงไม่สงบสุขเท่าไร

    กรณ์พิมพ์ลงไปในแชตของเขากับดอย

    ทำไมวะ ใครทำอะไรหรือผีออกมาแล้ว

    คนน่ารำคาญกว่าผีอีก

    คิดว่าเขาคงต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของที่นี่ได้

     

    การอยู่หอคืนแรกผ่านไปได้ด้วยดีอย่างน้อยกรณ์ก็คิดแบบนั้น หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ เขาไปอาบน้ำที่ห้องน้ำรวมก่อนสามทุ่มตามเวลาที่โรงเรียนกำหนด ถึงจะมีนักเรียนน้อยไปหน่อยแต่บรรยากาศที่หอก็ไม่ได้วังเวงจนน่ากลัว ไฟบริเวณทางเดินก็เปิดสว่างจนถึงเวลาสี่ทุ่มที่นักเรียนทุกคนต้องเข้านอน

    ตอนเช้าเด็กหอทุกคนต้องลงมาทานข้าวที่โรงอาหารก่อนเจ็ดโมงครึ่ง ไม่มีกิจกรรมน่ารำคาญใจให้เสียเวลาชีวิตอย่างการเข้าแถวหรือตรวจระเบียบแค่ตื่นนอน กินข้าว และไปเข้าเรียนให้ทันเวลาก็เท่านั้นสิ่งที่น่ารำคาญเห็นทีจะมีแค่การก่อกวนของเพื่อนร่วมหออย่างเดียว

    เพราะเมื่อเช้ากรณ์ตื่นขึ้นมาและเห็นว่าประตูห้องนอนถูกแง้มเปิดไว้

    นอนหอคืนแรกเป็นไงบ้างวะ ทันทีที่เจอหน้ากันในห้องเรียนดอยก็เข้ามาทัก ทั้งคู่นั่งข้างกันพอได้ยินดอยทักแบบนั้นเพื่อนคนอื่นๆก็ดูจะสนใจเรื่องของกรณ์อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

    ก็ดี”

    ไม่เจอผีจริงดิ”

    ผีห่าอะไรล่ะ มึงนี่ไม่ยอมจบนะ

    ก็กูอยากรู้ไม่มีใครนอนห้องนั้นเลยนี่หว่า

    เขาอยู่คนเดียวตอนตายก็ธรรมดามั้ยวะที่จะไม่มีคนอยู่

    ความจริงแล้วนักเรียนในระบบหอพักของโรงเรียนเลิศวิทยาไม่ได้มีเยอะในหนึ่งห้องเรียนจะมีนักเรียนที่อยู่หอมากสุดเพียงสามถึงสี่คน และในหอพักก็มีบางห้องที่นักเรียนได้อยู่คนเดียว ห้อง 313 ก็เช่นกัน

    กูไปเที่ยวที่ห้องมึงได้ป้ะวะ” ดอยถาม ยังคงไม่ลดละกับประเด็นหอพักของเพื่อนสนิท

    มึงไปขอครูเอาเองนะ”

    ครูคนไหนดูแลหอมึง”

    กรณ์มองเพื่อนรักแล้วได้แต่ถอนหายใจ

    ไปไม่ได้เขาไม่ให้คนนอกเข้า”

    กูก็เด็กในโรงเรียนนะคนนอกที่ไหน”

    ถ้าอยากมานักมึงก็ย้ายมาอยู่หอดิจะได้มาอยู่ห้องเดียวกับกู”

    ไม่เอาอะ”

    งั้นก็เลิกถาม”

    ดอยเบ้ปากใส่อย่างไม่ชอบใจเพราะกรณ์ทำให้เรื่องสยองในหอพักหมดสนุก

    กลับไปนั่งดีๆ ไป”

    กรณ์ดันเพื่อนให้ออกห่างหันมองเพื่อนในห้องก็ดูจะไม่มีใครสนใจเขาแล้ว การย้ายมาอยู่หอพักมันก็เป็นแค่เรื่องธรรมดาทั่วไปจะดูพิเศษขึ้นมาหน่อยก็ตรงที่ห้องของเขาเคยมีคนตายมาก่อนก็เท่านั้น

     

    เพียงวันเดียวที่ย้ายมาอยู่หอพักกรณ์ก็รู้สึกว่าเขาถูกสายตาผู้คนจับจ้องตลอดเวลาแม้ไม่มีเสียงนินทาดังให้ได้ยินก็ตาม เขาทำใจไว้แล้วว่าคงตกเป็นเป้าสายตาในช่วงแรกและคนคงเบื่อกันไปเองเมื่อเห็นว่าเขาอยู่ในห้องที่เคยมีคนตายได้อย่างสุขสบายดี ไม่โดนผีหลอกแถมยังได้อยู่ฟรีอีกต่างหาก

    เด็กหอต้องกลับไปทานข้าวที่โรงอาหารก่อนหกโมงเย็นตอนนั้นเอง กรณ์ไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนเด็กหอผู้ชายอีกสองคนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันคนหนึ่งชื่อนนท์ ตัวสูง ใส่แว่น อีกคนชื่อหมู ดูนิ่งๆ ขี้เก๊กหน่อยๆในห้องเรียนพวกเขาอยู่คนละกลุ่ม ไม่ถึงขั้นสนิท แต่น่าจะได้สนิทกันก็คราวนี้

    เรื่องที่ถูกหยิบยกมาคุยบนโต๊ะอาหารเป็นเรื่องทั่วไปแต่น่าสนใจเมื่อเป็นเรื่องของคนอื่นนนท์เล่าถึงรูมเมตที่ถูกเลือกให้มาอยู่ด้วยกันในเทอมนี้ ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องที่พูดมาก แถมยังมีพลังเสียงทำลายล้างอีกต่างหาก

    “มันบอกว่ามันจะเป็นครูเลยติดนิสัยพูดเสียงดังกลัวคนอื่นไม่ได้ยิน แล้วแม่งโคตรเนิร์ด พูดอะไรแต่ละทีทฤษฎีมาเต็ม กูเนี่ยต้องหาหูฟังมาใส่ ไม่งั้นหูดับ ได้ยินเสียงวิ้งๆ ในหูเลย”

    นิสัยจริงของนนท์นั้นต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็นเด็กเรียนอย่างสิ้นเชิง แต่กรณ์รู้ว่านนท์เป็นพวกช่างพูด

    “มึงไม่เนิร์ดกว่าเหรอวะ”หมูถาม

    “กูแค่สายตาสั้นเลยใส่แว่นไม่ได้เนิร์ด พูดเรื่องนี้กับมึงจนกูเบื่อละ เลิกมองคนใส่แว่นว่าเนิร์ด ไอ้สัด” แถมนนท์ยังชอบใส่อารมณ์กับเปิดโหมดเครื่องด่าบ่อยๆถ้าใครพูดไม่ถูกใจ

    “อยู่ด้วยกันพวกมึงไม่ตีกันตายเหรอวะ”กรณ์ถาม คนพูดมากมาเจอกันคงปวดหัวน่าดู

    “ถึงมันจะพูดมากแต่ไม่สู้คนพอกูด่ามันก็หยุด แต่เดี๋ยวสักพักมันก็พูดอีกจนกูเหนื่อยจะด่า”

    ยิ่งพูดถึงรูมเมตนนท์ยิ่งดูอารมณ์เสียพูดจบก็ตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ เคี้ยวตุ้ยๆ หน้าตาถมึงทึง กรณ์เลยหันไปถามหมูบ้าง

    “แล้วรูมเมตมึงอะ”

    “รูมเมตกูดีเป็นคนปกติอะมึง เรียนอยู่ห้องสาม นั่นไงมานู่นละ”

    หมูโบกมือเรียกรูมเมตที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนได้คนมาร่วมวงกินข้าวอีกคนยิ่งคุยสนุก ต่างคนต่างแชร์ประสบการณ์ในหอพักที่ประสบพบเจอแนะนำทางหนีทีไล่ในกรณีฉุกเฉิน เป็นบรรยากาศที่กรณ์รู้สึกสบายใจเพราะไม่มีใครถามถึงเรื่องลึกลับของห้อง313 ที่เขาอยู่

    ระหว่างพูดคุยกับเพื่อนอย่างออกรสออกชาติกรณ์ก็รับรู้ได้ถึงสายตาของใครบางคนที่มองมาแทบจะตลอดเวลา เขาหันกลับไปมองอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มั่นใจว่าสายตาคู่นั้นมองมาจากตรงไหนมันหนักอึ้งเสียจนเขารู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคาม เพราะแม้กระทั่งตอนเดินขึ้นหอพัก กรณ์ก็รู้สึกเหมือนมีคนเดินตามมาเช่นเดียวกัน

    กรณ์ไม่ได้ทำตัวมีพิรุธหรือมีท่าทางหวาดกลัวต่อใครบางคนที่กำลังคุกคามเขาอย่างหนักเปิดประตูเข้าห้องทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ แต่ก็อดรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาไม่ได้ เพราะกฎห้ามล็อกห้องที่ทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยคงต้องวางแผนทำกับดักวางไว้หน้าประตูเผื่อไอ้คนนั้นมันเกิดอยากจะบุกรุกห้องเขากลางดึกขึ้นมาแต่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่ามันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกัน

    ขณะที่นั่งทำการบ้านพลางคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากไอ้คนที่คุกคามชีวิตกรณ์หันไปมองที่ประตูห้องอีกทีก็พบว่ามันเปิดอยู่ เขาไม่รู้ว่าประตูถูกเปิดตั้งแต่เมื่อไรครั้งนี้ไม่ทันสังเกตหรือรู้สึกตัวเลยสักนิดอย่างกับว่าใครคนนั้นต้องการทำให้เขาคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นฝีมือของบางสิ่งที่อยู่ในห้อง

    เป็นฝีมือของวิญญาณนักเรียนที่ตายในห้องนี้

    เฮ้อ”

    ถอนหายใจออกมาอย่างแรงก่อนจะเดินไปปิดประตูแล้วกดล็อกอย่างอดไม่ได้ฝ่าฝืนกฎของหอพักด้วยความรำคาญใจ ไม่อย่างนั้นคืนนี้กรณ์คงนอนไม่หลับแน่

    กลับมานั่งทำการบ้านต่อได้อีกไม่นานลูกบิดประตูก็ถูกใครบางคนพยายามเปิดจากด้านนอก กรณ์รีบลุกขึ้นไปดู คิดว่าอาจจะเป็นไอ้คนนั้นที่ตั้งใจมาก่อกวนเขาแต่เพราะคนข้างนอกยังขยับลูกบิดไม่เลิกทำให้เขาเริ่มไม่แน่ใจจนเสียงขยับลูกบิดหยุดลงตามด้วยเสียงเคาะประตู เขาถึงได้รู้ว่าคนที่อยู่ข้างนอกคือใคร

    อยู่ที่นี่ห้ามล็อกประตูครูบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

    กรณ์เปิดประตูออกเมื่อได้ยินเสียงครูสุพลก่อนหันมองนาฬิกาบนผนังที่บอกเวลาสามทุ่มครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาเดินตรวจของครูประจำหอ

    ยังไม่อาบน้ำอีกเหรอ”

    ครูสุพลมองชุดนักเรียนที่ยังไม่ถูกเปลี่ยนหลังจากกินข้าวเสร็จกรณ์ก็กลับขึ้นมาทำการบ้านจนลืมเวลาที่ต้องอาบน้ำไปเสียสนิท

    จะไปอาบเดี๋ยวนี้ครับ”

    รีบๆ เลยครูขึ้นไปตรวจชั้นบนแล้วจะลงมาดูอีกรอบ”

    ครับ”

    ได้รับคำตอบครูสุพลก็ก้าวถอยหลังหมุนตัวเตรียมจะเดินไปยังห้องถัดไป ทว่าถูกกรณ์เรียกไว้เสียก่อน

    เอ่อ ครูครับ”

    ครูสุพลหันกลับมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

    ที่นี่มีกล้องวงจรปิดมั้ยครับ”

    มี นั่นไง”บอกพร้อมกับชี้ให้ดูกล้องตรงทางเดิน

    ระบบรักษาความปลอดภัยของหอจากคนภายนอกเรียกได้ว่าค่อนข้างรัดกุมและปลอดภัย แต่พวกผู้ใหญ่คงไม่ทันคิดว่านักเรียนในหอก็อาจเป็นอันตรายต่อกันได้เหมือนกัน

    คือผมรู้สึกเหมือนถูกใครบางคนก่อกวนตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับครูช่วยเช็กให้ผมหน่อยได้มั้ย”

    ก่อกวนยังไง ใครทำอะไร”

    ประตูห้องผมมันเปิดเองสองครั้งแล้วครับเมื่อวานผมเห็นเงาใครบางคน น่าจะมีคนแกล้ง”

    โอเค ครูจะเช็กให้อยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องกลัวนะ มันไม่มีอะไรหรอก อาจจะมีพวกตัวแสบอยู่บ้างเดี๋ยวครูจัดการให้เอง”

    ครูสุพลรับปากพร้อมให้กำลังใจนักเรียนใหม่ของหอพักเขาทำงานอยู่ที่นี่มาเป็นสิบปี พวกตัวแสบที่ชอบแกล้งคนอื่นก็มีบ้างเรื่องน่าปวดหัวของเด็กๆ มีมาเรื่อยๆ รวมถึงเรื่องเหนือธรรมชาติด้วยเช่นกัน

    ขอบคุณครับ”

    รีบไปอาบน้ำเลยนะเดี๋ยวครูลงมา”

    ครับ”

    “แต่ถ้ากลัวก็รอครูตรวจเสร็จก่อนแล้วเดี๋ยวครูพาไป”

    “ไม่เป็นไรครับผมไปเองได้”

    “โอเค”

    กรณ์เกือบจะหลุดหัวเราะกับอาการเป็นห่วงเป็นใยลูกศิษย์เกินเหตุเขายืนมองครูสุพลเดินไปเปิดห้องข้างๆ พูดคุยกับนักเรียนที่อยู่ในห้องนั้นก่อนจะหันกลับมาโบกมือไล่เขาที่ไม่ยอมไปอาบน้ำเสียที กรณ์เลยต้องเดินกลับเข้าข้างใน หยิบผ้าเช็ดตัวกับอุปกรณ์อาบน้ำออกจากห้อง เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องน้ำซึ่งอยู่ติดกับห้องพักของเขาพอดีรีบจัดการทำความสะอาดตัวเองในห้องน้ำรวมที่ตอนนี้มีเขาใช้บริการอยู่เพียงคนเดียว

    ห้องน้ำของหอพักในยามวิกาลขึ้นชื่อเรื่องความวังเวงแสนน่ากลัวกรณ์เองก็รู้สึกอย่างนั้น คนทั่วไปมักกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ในเมื่อเขาสามารถมองเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็นก็ไม่มีความจำเป็นต้องกลัว แม้จะเป็นความสามารถพิเศษที่เขาไม่ได้อยากมี และไม่เคยชินกับมันเลยสักครั้ง

    ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่หอกรณ์ยังไม่เคยเห็นสิ่งลี้ลับหรือผีที่ใครๆพูดถึง รวมถึงวิญญาณของนักเรียนที่เสียชีวิตในห้อง 313 ในห้องนั้นมีเพียงความว่างเปล่าที่สัมผัสได้

    เพราะผีไม่ได้น่ากลัวสิ่งที่น่ากลัวกว่าคือมนุษย์ต่างหาก

    ห้องน้ำของหอพักแบ่งเป็นสองฝั่งคือห้องอาบน้ำกับห้องส้วมสำหรับทำธุระส่วนตัว กรณ์ใช้เวลาอาบน้ำแค่ไม่กี่นาทีเช็ดตัวแบบลวกๆ สวมชุดนอนที่เตรียมมา ก่อนออกมาแปรงฟันที่อ่างล้างหน้า มองเงาสะท้อนตัวเองในกระจกด้วยความรู้สึกหวาดระแวงที่ยังไม่จางหาย

    ไฟในห้องน้ำสว่างแต่บรรยากาศโดยรอบเงียบสนิทเมื่อวานตอนที่กรณ์มาอาบน้ำยังเจอนักเรียนคนอื่นอยู่บ้าง แต่เพราะวันนี้เลยเวลามานานจึงไม่มีใครอยู่ที่นี่

    ปัง!

    กรณ์สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูจากห้องน้ำอีกฝั่งเขาหันไปมอง ใจเต้นแรงขึ้นมาชั่วขณะ ทั้งที่ออกจะเงียบขนาดนี้แต่ทำไมเขาถึงไม่ได้ยินเสียงตอนมีคนเดินเข้ามา

    ไม่ได้อยากคิดให้เป็นเรื่องลี้ลับแต่กรณ์ก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่คนเดียวนานๆ เหมือนกัน

    เปิดก๊อกน้ำบ้วนปากรีบเก็บของเผ่นหนี ตอนเดินออกกรณ์หันมองไปยังฝั่งห้องน้ำที่มีประตูบานหนึ่งปิดอยู่คงเป็นนักเรียนสักคนที่เกิดปวดหนักขึ้นมากลางดึก

    กรณ์เดินกลับไปยังห้องพักไฟตามทางเดินยังเปิดสว่าง ได้ยินเสียงครูสุพลคุยกับนักเรียนดังมาจากชั้นบน จึงรีบเดินเข้าห้องก่อนครูจะกลับมาตรวจความเรียบร้อยที่ห้องเขาอีกรอบ

    จับลูกบิดประตูเปิดเข้าไปในห้องผ้าม่านตรงประตูระเบียงพลิ้วไหวอย่างน่าประหลาดกรณ์วางอุปกรณ์อาบน้ำลงบนโต๊ะขณะที่สายตาจับจ้องอยู่ตรงระเบียงไม่วางตาเขาปิดแค่ประตูมุ้งลวดไว้จึงเป็นไปได้ที่ม่านจะสะบัดเพราะถูกลมพัดแต่ไม่น่าจะสะบัดแรงเหมือนมีใครสักคนผลักมันออกไปแบบนั้น

    กรณ์ก้าวตรงไปที่ประตูอย่างช้าๆเม็ดเหงื่อผุดพราย จังหวะหัวใจเต้นเร็วขึ้น เร่งฝีเท้าเมื่อเข้าไปใกล้ประตูระเบียงดึงม่านให้เปิดออกก่อนจะก้าวออกไปด้านนอก ประตูมุ้งลวดที่ปิดสนิทตั้งแต่กลับมาถึงห้องถูกเปิดทิ้งไว้เป็นที่แน่นอนแล้วว่ามีคนแอบเข้ามาในห้องเขาและหนีออกไปทางระเบียง

    ใครวะ!” ตะโกนถามออกไปอย่างนึกโมโห

    กรณ์มองประตูระเบียงห้องข้างๆที่ปิดสนิท ยืนหายใจแรงจนเกือบหอบ ผ่านไปร่วมนาทีก็ไม่มีเสียงจากที่ใดตอบกลับมาจนนึกอยากจะปีนไปห้องข้างๆ บุกรุกไปถามให้มันรู้แล้วรู้รอด

    อารมณ์โมโหเริ่มสงบลงหลังจากที่เขาได้ยืนรับลมและสงบสติอารมณ์สักพัก ไอ้คนที่ทำเรื่องแบบนี้คงไม่ยอมเปิดเผยตัวโดยง่ายแต่กรณ์ไม่เข้าใจเลยว่ามันทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันแน่ ถ้าอยากให้เขากลัวขนาดนั้นสู้ปลอมเป็นผีแล้วมาหลอกให้เขากลัวจนร้องไห้โวยวายให้จบๆ ไปเลยดีกว่า ถ้าจับตัวได้ล่ะก็เขาจะจัดการให้หนักเลยคอยดู

    กฎบอกไว้ว่าห้ามล็อกประตูห้องแต่ไม่ได้บอกว่าห้ามล็อกประตูหลังห้องกรณ์ปิดประตู ปิดม่าน พลางคิดหาทางรับมือไอ้พวกตัวป่วน เขาคิดว่าการแกล้งน่าจะมีขอบเขต คงไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือทำลายข้าวของเพราะโทษที่ระบุไว้ในกฎของหอพักค่อนข้างหนักแต่พวกวัยรุ่นที่กำลังคึกคะนองและไร้หัวคิดมันไว้ใจได้ที่ไหน

    ก๊อกก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูทำเอากรณ์ที่กำลังใช้ความคิดสะดุ้งตัวเขาหันไปมองที่ประตูหน้า ครูสุพลเปิดประตูชะโงกหน้าเข้ามาดูความเรียบร้อยภายในห้อง

    อาบน้ำแล้วใช่มั้ย”

    ครับ”

    รีบนอนล่ะ”

    ครับครู”

    ได้คำตอบที่ต้องการครูสุพลก็ปิดประตูแต่ถูกกรณ์เรียกไว้อีกครั้ง

    “ครูครับ”

    ประตูห้องเปิดออกพร้อมครูสุพลที่ชะโงกหน้ามาอีกรอบกรณ์เดินเข้าไปหาด้วยหน้าตาเคร่งเครียด

    “อย่าลืมเช็กกล้องด้วยนะครับ”

    “เดี๋ยวพรุ่งนี้ครูดูให้อย่านอนดึกนักล่ะ” รับปากแล้วครูสุพลก็เดินจากไป

    กรณ์ยังไม่คิดจะบอกเรื่องที่มีคนแอบเข้ามาในห้องเขาอยากให้ครูสุพลเห็นหลักฐานว่ามีคนคุกคามเขาอยู่จริงๆ เป็นคนที่มีชีวิตไม่ใช่เรื่องลี้ลับที่เขากลัวไปเอง

    ประตูถูกกดล็อกแม้จะผิดกฎยังไงเสียเขาก็จะไม่ยอมใช้ชีวิตในหอพักอย่างหวาดระแวงไปคนเดียวแน่


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Karn Nikrosahakiat (@karnnikro1)
ขอบคุณมากครับอ่านสนุกมากเลย เขียนต่อไปนะครับ <a href="https://www.normthing.com/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/">ที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจ</a>