รัชศกนี่ก็เป็นเรื่องที่เกิดในรัชศกเฉิงฮว่าที่สิบสี่ สิบห้า สิบอะไรไปเรื่อยมาก พี่จะตั้งชื่อที่สิบสี่ทำไม 555555555+ เป็นเรื่องแนวมีคดีให้สืบ การเมืองในราชสำนักให้สู้ หนุ่มให้มองตาปิ๊งๆ
ซึ่งมองภาพรวมพวกคดีส่วนมากไม่ถึงกับพีก แต่ไม่ได้แย่ ตรงระบบการตบกันในราชสำนักสนุกกว่า ทำดีแบบต้องชมเปาะ หลายจุดอ่านแล้วตบเข่าฉาดเลยว่าเออ ดี แล้วก็อมยิ้มๆ ให้คู่รักเวลาจีบกัน หรือเวลาใต้เท้าถังทำตัวตะกละละห้อยโหยก็น่ารักดี
เอาจริงๆ ช่วงเล่มแรกเราเกือบวางละ มีโมเม้นต์ (สัก 90 หน้าแรก) ที่แบบ "ใครวะ" "อะไรวะ" เคว้งคว้างในชื่อที่ยกมา เหตุการณ์ที่ยัดมา เปิดเรื่องมาได้ทำเอาเกือบเลิกอ่าน
เพราะดันมาแบบ คุณ A ทำนั่นแล้วคุณ B ทำนี่เพื่อขัดขาแล้วคุณ C D E ก็โผล่มาให้ว่อนจนแบบ ใจเย้นนนน ใครทำอะไรนะ แล้วคุณๆ ที่ว่าเขาอยู่ตำแหน่งอะไรวะ คิดตามไม่ทัน จนรู้สึกจังหวะงาน rush กว่าที่คิดไว้
คือมองว่าเขียนด้วยตำแหน่ง เจ้ากรม A ใต้เท้าจากกรม B หรือฝั่งท่านเสนา C คนคุมค่าย D อะไรงี้เราคงจะกรุ๊ปได้มากกว่า พอ throw ชื่อมาแล้วแบบ ใครรรรรรรรร
แต่ตอนหลังก็ค่อยๆ เข้าที่อะนะ
อะ เอนี่เวย์ เดี๋ยวพูดไปทีละด้าน
.
.
คดีก่อน
รวมๆ แล้วเราชอบคดีช่วงเล่ม 1-3 แบบภาพรวมอะนะ มองว่าเรื่องนี้คดีมีที่ทำดีบ้าง กลางๆ บ้าง สลับๆ กันไป แต่ไม่ค่อยว้าว
ไอ้ตอนเฉลยสัตว์ประหลาดในสักคดีเราแอบเหวอไปหน่อย มองว่าไม่เวิร์ก
เทียบแล้วบันทึกปิ่นขึ้นคดีได้ว้าวกว่า แต่จบแป้ก (กราฟลง) เรื่องนี้กราฟเส้นตรง คงที่กว่า
ต่อด้วยการเมือง
บทถังฟั่นและการเมืองตรงที่รับมือฮ่องเต้และขุนนางผู้ใหญ่คือดีแบบดี ปราชญ์กู้เงินควรดูเป็นแบบอย่าง จะเขียนบัณฑิต เขียนแนวจ้วงหยวนที่มีกึ๋นคือแบบนี้
เรียกว่าถังฟั่นเป็นบัณฑิตที่ดูแล้วค่อยรู้สึกว่า เออ นี่คือหนึ่งในที่สุดของบัณฑิตหน่อย
ตรงตัวร้ายแอบวืดๆ นิดหนึ่ง เข้าใจว่าไปตามประวัติศาสตร์ แต่ก็ออกจะนำเสนอได้ไม่สมูธไปหน่อย เลยทำให้พล็อตการเมืองที่ดีหักเป๊าะแบบน่าเสียดาย
ความรัก
ถ้าอยากอ่านหวานๆ ทุกสำนักพูดเหมือนกันว่าไม่ตอบโจทย์
สำหรับเราก็โอเค กว่าพี่จะได้จูบกัน กว่าจะได้ลงเอยกัน และกว่าจะได้กันคือแทบหัวหงอก แต่ไม่โบรแมนซ์นะ เขารักกัน เขารู้ด้วยว่ารักกัน (และได้กันแบบโคมไฟ ฮา)
เป็นคู่น่ารักกุ๊กกิ๊ก พระเอกคือของดี ชอบฮี
ตัวละคร
ดีนะ ตัวหลักๆ ทำออกมาดีมีสีสันทุกตัว น่ารัก
ชอบคำพูดคำจากนายเอก เลยเสียดายที่บางจุดเขาทำโทนตลกไม่ถึง คือท่าทีฮีค่อยรู้สึกว่าเหมาะกับตำแหน่งทั่นฮวาหน่อย (จริงๆ ถ้าไม่อายุน้อยเกินจะได้จ้วงหยวนด้วย) ตอนบอกบ้านมันตายหมดแล้วนี่ขำกิ๊กเลย
.
.
สรุป เป็นงานดีแต่ยังไม่อิ่ม อ่านได้ บันเทิงอยู่ ไม่หวือหวาเท่าไหร่ ขึ้นกลางท้ายถือสมูธ แต่ไม่ให้ความรู้สึกอิ่มใจ ยังตอบไม่ได้ว่าอะไรหายไป แต่ใครถามว่าโอเคไหมก็จะตอบว่าโอเคนะ อ่านได้ สนุกดี อ่านเถอะ
พอดีตามทีละนิดเลยไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าอ่านรวดเดียวฟีลจะเป็นยังไง
แต่คิดว่าไม่ใช่งานที่จะอ่านรอบสองถ้าไม่ใช่ว่าเกิดครึ้มอกครึ้มใจ จำนวนเล่มเยอะไปหน่อย แต่ถ้าน้อยเกินก็คงเก็บปมไม่ครบแหละนะ
คนเขียนคนนี้เราชอบเขามาตั้งกะฟ้าส่งข้ามาลุยละ เป็นคนเขียนแนวจิกเบาๆ ได้น่ารัก ละโทนการเขียนเขาจะให้อารมณ์สะอาดตาดี ชอบ มีงานเขาอีกก็คงอ่านอีก
.
.
.
.
.
(แถม)
การแปลแบ่งเป็นสองคน ซึ่งก็พอๆ กันนะในภาพรวม คือเสียงตลกยังขึ้นไม่ค่อยถึง เจอจุดที่คิดว่าต้องขำแต่ก็ไม่ขำหลายจุด บางจุดตัดสินใจขำเอาเอง แบบรู้ว่าคือมุก แต่เสียงคนแปลทำไม่ถึง
และที่สำคัญกว่านั้น คนแปลที่สอง
ราดบันดิดทั่นกล่าวไว้
รวนเร (ว.) เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่แน่นอน เช่น จิตใจรวนเร ใจคอรวนเรเรรวน ก็ว่า.
ถังฟั่นรวนเรคือยังไง ถังฟั่นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่แน่นอนงี้เหรอ
คือถังฟั่นใจรวนเร ในใจถังฟั่นเกิดความรวเรก็ไปเถอะ แต่ถังฟั่นรวนเรเฉยๆ (และคนอื่นอีกนับล้านในเรื่องที่รวนตาม) อ่านละสะดุดจึ้กๆ เข้าใจได้ว่าจะสื่ออะไร แต่ก็ว่าประหลาด
คือคุณคนแปลช่วงเล่ม 4 เป็นต้นไปรวนเรเยอะมาก จนเราเรียกชื่อเล่นเรื่องนี้ว่า 'รัชศกรวนเร' ต้องรวนเรเยอะขนาดนี้ไหม เยอะจน irritate
จริงๆ มารู้ทีหลังว่าคือคนแปลคนเดียวกับที่เราค่อนข้างชอบจากค่ายสยามวาย (มีดี) และพอกลับไปอ่านงานเก่าเขา (คุณอาฯ) ก็เจอรวนเรจริงๆ ว่ะ แต่ตอนนั้นมันน้อย เลยอ่านแล้วไม่สะดุดเท่ารัชศกที่เอะอะทุกคนแม่งต้องผ่านรวนเรกันมาหมด
เรื่องนี้อาจจะเพราะอ่านต่องานคุณคนแรก (1-3) ที่ไม่มีรวนเรสักตัวหลุดมาแหละ เลยทำให้หงึกๆ
เฮ้อ พิมพ์แล้วตูรวนเร
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in