ฉันไม่เคยบอกคิมดงวานเรื่องช่อดอกไม้ที่ฉันได้รับจากเจ้าสาวของอีมินอู อันที่จริงตลอดระยะเวลาที่ฉันรู้จักกับเขา ยกเว้นวันแรกในผับคืนนั้น แม้ว่าจะพูดคุยกันได้อย่างไม่เคอะเขินแค่ไหน ฉันกับเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงการพูดถึงอีมินอู
หรืออย่างน้อยฉันก็พยายามอย่างยิ่งให้มันเป็นอย่างนั้น
แม้แต่ในตอนที่คิมดงวานมาที่ห้องของฉัน เขากล่าวเพียงแค่ “ว้าว คุณนี่เป็นแฟนตัวจริงเลยสินะ” ก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่นนอกจากรูปอีมินอูจำนวนมากบนสแครปบอร์ดของฉัน และถึงแม้ทุกอณูของห้องฉันจะเต็มไปด้วยอีมินอูแค่ไหน คิมดงวานก็ไม่เคยเอ่ยปากออกมาสักคำ
เขาทำตัวตามสบาย ดื่มเบียร์จากในตู้เย็นของฉัน สำรวจไปทั่วๆ ถามเรื่องครอบครัวในกรอบรูป ฉันเปิดโทรทัศน์ดูละครที่ไม่รู้จัก เราพูดคุย แล้วก็มีเซ็กส์กัน
เป็นเรื่องราวในชีวิตที่ฉันไม่เคยปริปากเล่าให้ใครฟัง แม้แต่เพื่อนสนิทที่สุดของฉัน ฉันกลัวที่จะต้องตอบคำถามว่าเหตุใดฉันถึงเล่าถึงเรื่องราวประหลาดเหล่านั้นด้วยท่าทีเฉยเมยนัก
ฉันไม่เคยมีเหตุผลให้กับความธรรมดาที่ฉันรู้สึกถึง
อีมินอูแต่งงานได้แปดเดือนกับอีกสิบเจ็ดวัน ตอนที่มีข่าวรายงานว่าภรรยาของเขาตั้งครรภ์
ฉันรู้สึกคล้ายกำลังจมดิ่งลงไปในสระที่ไม่มีก้น หรือถ้ามี ก็ลึกเกินที่ฉันจะรู้สึกได้
ฉันเคยจมน้ำครั้งหนึ่งเมื่อครั้งอยู่ประถมสาม ครูช่วยฉันขึ้นมาจากสระได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลใจ ทว่าความเวิ้งว้างเงียบงันที่รายล้อมความตื่นตระหนกของฉันในช่วงไม่กี่วินาทีที่ฉันจมดิ่งลงไปนั้น ฉันจำได้ขึ้นใจ
เหม่อมองปลายปากกาที่ถือไว้ในมือขวา ฉันชั่งน้ำหนักระหว่างการได้เห็นอีมินอูตัวน้อยๆ กับการจะมีคนอีกคนแย่งอีมินอูจากฉันไป
ไม่ว่าความรักของฉันมันจะเพี้ยนแค่ไหน ความรักก็ไม่เคยทำตัวง่ายดายกับใครเลยจริงๆ
ฤดูใบไม้ผลิเวียนเข้ามาถึงอีกครั้ง ลูกค้าต้องการโฆษณาตัวใหม่ สดใสไร้ที่ติรับกับสภาพอากาศ พวกเขาต้องการเห็นครอบครัวที่อบอุ่นรายล้อมไปด้วยธรรมชาติแสนสวย ในวันที่อากาศดีจนเหมือนอยู่ในฝัน
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่พวกเขาเล่าไอเดียโฆษณา ปรึกษาและขอความคิดเห็นจากฉัน จนฉันเริ่มจะสงสัยว่าตัวเองยังเป็นประชาสัมพันธ์ของบริษัทอยู่จริงๆรึเปล่า พวกเขาเล่าเรื่องครอบครัวในโฆษณาที่แสนน่ารัก ให้กับฉันผู้ยังไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับครอบครัวที่แสนน่ารักของอีมินอู ฉันทั้งอยากจะหัวเราะและร้องไห้ในคราวเดียวกัน
โชคชะตาเล่นตลกกับฉันเสมอ
ก้าวเท้าเข้าไปในคอนโด ฉันเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า เรี่ยวแรงทั้งหมดหายวับไปกับการหัวหมุนรับรองลูกค้าทั้งวัน ฉันเหวี่ยงกระเป๋าถือไปบนโซฟาแล้วทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน ฉันไม่รู้ว่ากี่นาทีได้ผ่านไปตอนที่ฉันเหลือบไปเห็นกล่องกระดาษด้านบนสุดของตู้หนังสือ
ฉันลุกขึ้น ลากเก้าอี้มาจากมุมห้อง และปีนขึ้นไปหยิบกล่องนั้นลงมา
กล่องกระดาษสีน้ำตาลอ่อน ฝุ่นจับหนาจนฉันคันจมูกยิบๆ
ฉันนั่งลงที่โซฟาตัวเดิมก่อนจะค่อยๆแง้มฝากล่องช้าๆราวกับกำลังเปิดกล่องสมบัติ
เพราะของที่อยู่ในนั้นมีค่ามากมายเหลือเกิน
ช่อดอกไม้จากเจ้าสาวของอีมินอู…
กุหลาบขาวหลายสิบดอกบัดนี้แห้งเหี่ยวจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ฉันไล้นิ้วไปตามกลีบที่บิดม้วนตัวแห้งกรอบ เพียงแค่ขยับเล็กน้อยกลีบเหล่านั้นก็ดูพร้อมที่จะหลุดร่วงออกมาจากดอกได้ตลอด ภาพงานแต่งงานของอีมินอูฉายกลับเข้ามาในหัวของฉันอีกครั้ง แม่นยำราวกับบันทึกไว้ด้วยกล้อง
แล้วทันใดนั้นเอง ใบหน้าของคิมดงวานก็แล่นเข้ามาในหัวของฉัน
ฉันไม่ได้นึกถึงคิมดงวานบ่อยนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของฉันที่มักจะโดนเรื่องราวต่างๆครอบครองพื้นที่ในสมองไปซะหมด และอีกส่วนหนึ่ง เป็นเพราะ ฉันไม่รู้สึกว่าฉันจำเป็นจะต้องนึกถึงเขา
ฟังดูประหลาดสิ้นดี นั่นแหละ รูปแบบความสัมพันธ์ของฉันกับเขาเลยล่ะ
คิมดงวานในตอนนี้คงอยู่ในโรงแรมซักแห่งในไต้หวัน เหมือนเขาจะจัดงานแฟนมีตติ้งอะไรบางอย่าง ฉันไม่ค่อยได้ใส่ใจนัก ฉันรู้ว่ามันฟังดูใจร้าย แต่ฉันไม่ได้สนใจคิมดงวานที่เป็นนักร้องนัก ตอนเขาร้องเพลง ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าเขาคือใคร ฉันชอบตอนเขาพูดมากกว่า เพราะนั่นคือตอนที่เขากำลังแสดงเป็นหนึ่งในหลายบทบาทของคิมดงวาน
เขาคงจะไม่กลับมาอีกสักพักใหญ่ ฉันคิด เป็นครั้งแรกโดยแท้จริงที่ฉันรู้สึกตัวว่าฉันคิดถึงเขา
ฉันรู้จักกับคิมดงวานได้แปดเดือนกับอีกสิบเจ็ดวัน ตอนที่ฉันพูดถึงอีมินอูกับเขาเป็นครั้งแรก ผ่านทางข้อความในโทรศัพท์มือถือ
‘เมื่อเช้านี้มีข่าวเรื่องภรรยาของอีมินอูตั้งครรภ์ ฉันไม่รู้ว่านี่จะฟังดูแปลกมั้ย แต่ตอนนี้ฉันคิดถึงคุณ’
ฉันเจอกับคิมดงวานอีกครั้งในเกือบสองสัปดาห์ให้หลัง เขาชวนฉันไปกินข้าวเย็นที่ห้องของเขา
ฉันไม่เคยกินอาหารที่คิมดงวานทำมาก่อน ถ้าหากไก่ของชินฮวาไม่นับล่ะก็นะ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้กินอาหารฝีมือของคิมดงวานจริงๆ ฉันนั่งเท้าคางมองเขาอยู่บนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ เขาในชุดผ้ากันเปื้อนแลดูแปลกตานิดหน่อย
“ฉันเป็นผู้หญิง แต่ฝีมือในการทำกับข้าวยังไม่ได้ครึ่งของคุณเลยจริงๆ” ฉันอดทึ่งไม่ได้เมื่อเห็นเขาหั่นแครอทด้วยความเร็วระดับมืออาชีพ
“ที่ผมทำได้ขนาดนี้ก็เพราะคนอย่างพวกคุณนั่นแหละ ทำเป็นแต่ไม่ยอมทำ” เขาบุ้ยปากมาทางฉันเล็กน้อย ฉันเลยตอบกลับด้วยการแสยะยิ้ม “รู้มั้ยชินฮวาท้องเสียมากี่ครั้งแล้วกว่าผมจะมาถึงจุดนี้”
ฉันหัวเราะ แล้วเขาก็หัวเราะ บรรยากาศเป็นเช่นนี้เสมอ เย็นสบายและไม่ต้องมีเรื่องกังวลใจเมื่ออยู่กับคิมดงวาน เหมือนสายลมพัดอ่อนในเช้าวันอาทิตย์กลางฤดูใบไม้ผลิ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องคิดมาก
แค่ผ่อนคลาย
ฉันสงสัยว่าเขาจะรู้สึกถึงบรรยากาศเหล่านี้เหมือนกันไหม
ฉันหวังให้เป็นเช่นนั้น เพราะฉันนั้นอยากให้เขาได้รับความรู้สึกดีๆแบบนี้เหมือนกัน
กิ๊งก่อง…
เสียงกริ่งหน้าห้องของคิมดงวานดังขึ้น ฉันขมวดคิ้วด้วยความกังวลเล็กน้อย ฉันไม่เคยอยู่ในห้องของคิมดงวานตอนที่เขามีแขก เขาไม่เคยมีแขก
“โอ๊ะ เสียงกริ่งรึเปล่า”
ฉันพยักหน้าตอบรับ
“เยอึน ช่วยไปเปิดให้หน่อยสิ เหมือนว่าเพื่อนผมบอกเหมือนกันว่าจะแวะมาหา” เขากล่าวพร้อมยิ้มให้กับฉันที่คงกำลังทำหน้าลังเลใจอยู่ เขาเลยสำทับ “ไม่เป็นไรหรอกน่า ช่วยที ผมต้องดูซุปนี่อีกพักใหญ่เลย”
ฉันลากขาตัวเองไปยังประตูหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เปล่าเลย ฉันไม่ได้หงุดหงิดที่มีแขกมารบกวนช่วงเวลาของคิมดงวานกับฉัน และฉันก็ไม่ได้กลัวที่จะพบหน้าแขกของเขา
สิ่งที่ฉันกลัว อยู่หลังจากนั้น
หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในห้อง หลังจากที่พวกเขาทักทายกันเรียบร้อย แขกคนนั้นจะหันมามองฉัน
…และถามว่าฉันคือใคร เป็นอะไรกับคิมดงวาน…
คำถามที่ฉันไม่เคยสนใจที่จะถามเขา หรือแม้แต่ถามตัวเอง คำถามที่ฉันบอกว่าไม่เคยสงสัย แต่ตอนนี้ฉันกลัวจับใจ
กลัวในคำตอบของคำถามที่ฉันไม่เคยสงสัย
หรือหลีกเลี่ยงที่จะสงสัย…มาตลอด
แต่ทว่า โชคชะตาเป็นเรื่องตลกนะ รู้มั้ย
เพราะเมื่อฉันมองลอดออกไปทางตาแมว
อีมินอูยืนอยู่ตรงนั้น กับภรรยาของเขา…
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in