เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#inchiks au pair lifearabikla
จบออแพร์แล้วไปไหน : กว่าจะได้ Ausbildung 1
  • กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก


    ก่อนมาเยอรมนีอะนะ เราทำการรีเสิร์ชมาประมาณหนึ่ง อย่างที่บอกไปในโพสก่อนหน้าว่าจบออแพร์แล้วเราไปไหนอีกเย้อะะะะ เราตั้งใจไว้ละว่าอยากทำ Ausbildung ต่อตั้งแต่ก่อนมาแต่พอมาถึงสิ่งที่คิดกับสิ่งที่ฝันมันดันไม่เหมือนกันน่ะสิ

    มาถึงนี่แรกๆภาษาเยอรมันคือฟังไม่เข้าใจเลยยยยยยยย อยากร้องไห้ พยายามเรียนทุกวัน อ่านหนังสือทุกวันแต่ก็ด้วยความกดดันตัวเองมันเลยไม่ค่อยกระเตื้องไปไหน พาลคิดแล้วก็ท้อ คุยกับออแพร์คนเก่า คุยกะโฮส คุยกะเพื่อนออแพร์ที่ไปเจอที่รร.ภาษา ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภาษาเยอรมันมันยากจริงๆ ขนาดออแพร์คนเก่าที่เราดูว่าเค้าเก่งกาจยังไปทำอาสาสมัครก่อนเลยแล้วเราไอคนตัวกระจ้อยคิดอยากทำ Ausbildung 
    .
    .
    .
    เห้อ
    .
    .
    .
    พอคิดวนไปวนมาได้สักสองอาทิตย์ตั้งแต่มาเหยียบเยอรมนี ด้วยความบ้าและความใจร้อน เราเลยลองกดส่งเอกสารสมัครงานอาสาสมัครไปกับเอเจนซี่ที่ชื่อว่า ijgd NRW แล้วก็ได้รับเมลตอบกลับมาหลังจากนั้นไม่กี่วันว่าต้องการสัมภาษณ์เราเบื้องต้นเพื่อดูระดับภาษาของเรา 

    (ใครสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดไดที่นี่นะคะ https://freiwilligesjahr-nrw.ijgd.de/)


    เหยยยย... เอาล่ะหว่า A2 ยังไม่ได้เริ่มเรียนเลย
    .
    จะรอดไหมนี่ กรี๊ดดดดดด


    กันยายน 2020 Köln, Deutschland 

    เรานั่งอยู่ใน Starbucks ตรง Neumarkt ในเมือง Köln ในใจเราเต้นตึกตักๆๆๆ รัวๆ มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วเพราะอีกครึ่งชั่วโมงทางเอเจนซี่จะโทรมาหาเราเพื่อทำการสัมภาษณ์เบื้องต้น! 

    เรานั่งทวนคำตอบที่เขียนไว้จากคำถามที่เราคิดเองว่าเค้าน่าจะถาม แต่ตอนนี้มือเริ่มสั่นและก็อ่านอะไรไม่เข้าหัวอีกต่อไปแล้ว เอาวะ จิบมอคค่าร้อนเพื่อคลายความกังวลสักหน่อย

    ครึ่งชั่วโมงผ่านไป... เค้าโทรมาแล้วววว

    และประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไปเราก็ say Tschüsssss

    หลังจากวางสายปุ๊บบบ สิ่งแรกในหัวเลยนะคือเค้าพูดอะไรวะ ฟังไม่รู้เรื่องเลย ฮืออออ ซาวด์เพลงโหยหาความรักความเมตตาต้องมา เราเดินออกมาจากร้านกาแฟด้วยหัวใจที่หม่นหมอง เค้าบอกว่าอีกไม่กี่วันจะส่งอีเมลกลับมาบอกว่าเราสามารถเข้าร่วมโครงการได้มั้ย เรานี่ใจแป้วไปแล้ว ไม่คาดหวังอะไรทั้งนั้นพลางปลอบใจตัวเองว่าเพิ่งมาถึงเยอรมันได้ไม่ถึงเดือนเลยค่อยสมัครใหม่ทีหลังตอนภาษาเยอรมันแข็งแรงมากกว่านี้ก็ได้

    แต่เผื่อใครที่กำลังจะสมัคร FSJ แล้วต้องสัมภาษณ์ เราจะใส่คำถามที่เราพอจะระลึกได้ไว้ตรงนี้น้า
    1. แนะนำตัว 
    2. รู้อะไรเกี่ยวกับโครงการอาสาสมัครนี้บ้าง
    3. อยากจะทำอะไรหลังจบโครงการ
    4. ทำไมถึงอยากทำงานที่ Kindergarten 
    5. มีประสบการณ์การทำงานอะไรมาบ้าง
    6. ทำไมถึงอยากทำงานที่คิต้านี้ (อันนี้เราเจาะจงไปเลยว่าอยากทำงานที่ไหน) แล้วแน่ใจมั้ยว่าจะมีที่อยู่

    คำถามก็จะมีประมาณนี้ที่เราจำได้และฟังออกนะ 555555 หลังจากนั้นเค้าก็จะอธิบายอย่างละเอียดอีกทีนึงว่าโครงการอาสาสมัครนี้คืออะไร เราจะได้รับอะไรบ้าง

    ก็จะเป็นประมาณนี้ สุดท้ายหลังจากนั้นไม่กี่วันทางเอเจนซี่ก็ส่งอีเมลมาหาเราว่าเราผ่านนนนนน เค้าจะทำเรื่องส่งไปให้ที่คิต้าที่เราอยากทำงานให้แล้วหลังจากนั้นถ้าคิต้าโอเคก็จะเชิญเราไปสัมภาษณ์ที่นั่น

    ตอนนั้นคืออยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้านเพราะเรารู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดนึงว่าเออเอาเว้ย ผ่านด่านเอเจนซี่ละคิดว่าทางคิต้าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไม่กี่วันหลังจากนั้นเราก็ได้รับการติดต่อกลับมาจากคิต้าที่เราสนใจว่าเค้าได้รับใบสมัครของเราจากเอเจนซี่แล้วนะเดี๋ยวเค้าจะไปคุยกับเพื่อนร่วมงานแล้วตัดสินใจอีกที

    รอ

    แล้ว

    รอ

    เล่า

    ก็ยังไม่มีเมลกลับมา เราเลยติดต่อเอเจนซี่ไปอีกทีว่าไม่มีการตอบกลับใดๆเลยจากคิต้า อารมณ์แบบไหนบอกจะติดต่อกลับไงงงง เรารอประมาณเกือบเดือนก็ไม่เห็นมีวี่แวว ทางเอเจนซี่คงแบบอินี่มึงจะรีบไปไหน รีบสมัครแล้วยังเร่งคำตอบกุอีก นางเอเจนซี่เลยบอกให้ดิชั้นใจเย็น จนสุดท้ายนางโทรกลับไปถามคิต้าให้แล้วก็ได้คำตอบกลับมาว่าหัวหน้าที่คิต้าไปพักร้อนเลยยังไม่ได้คุยกัน

    โอเค...

    พอเอเจนซี่โทรกลับไปถามให้ไม่กี่วัน หัวหน้าที่คิต้าติดต่อกลับมาทางอีเมลว่า "ขอโทษนะ แต่ทางเราคุยกันแล้วและพบว่าเราไม่สามารถรับเธอมาทำงานได้เพราะไม่มีที่ว่างแล้ว" 

    ฉันนี่ล้มตึงงงงงง ฮืออออ สัมภาษณ์สักนิดก็ยังไม่ได้ลองเลย เสียใจมากกก เพราะเมืองที่แฟนอยู่มีที่ทำ FSJ แค่ที่เดียวก็คือที่นี่ตอนนั้นก็เลยเมลไปบอกเอเจนซี่ว่าคิต้าว่ามางี้นะ สงสัยเราจะรีบไปเดี๋ยวยังไงจะติดต่อกลับไปอีกทีแล้วกันเค้าก็โอเค ก็เลยเป็นว่าเราไม่ได้ทำงานอาสาสมัครที่คิต้าอย่างที่ตั้งใจ เราก็เลยคิดหนักเพราะไม่อยากย้ายไปอยู่ไกลแฟนแล้ว ถ้าไปทำงานที่เมืองอื่นก็คือเสียค่าเดินทางไปอีกก็เลยพยายามคิดว่าจะเอาไงดีจนในที่สุด...

    ธันวาคม 2020 Jülich, Deutschland 

    เราได้วันหยุดยาวเนื่องจากเป็นเทศกาลคริสต์มาส เราก็มานั่งเล่นนอนเล่นชิวๆอยู่ที่บ้านแฟน ตั้งแต่โดนปฏิเสธจากคิต้าเราก็หว่านส่งใบสมัคร Ausbildung ไปเรื่อยเลยเพราะเราอยากรู้ว่า Process ของการสมัคร Ausbildung จะเป็นประมาณไหน เช่น ถ้าที่ไหนมีให้ทำข้อสอบ ข้อสอบจะเป็นประมาณไหนหรือเผื่อได้รับเชิญไปสัมภาษณ์เค้าจะสัมภาษณ์ประมาณไหน หรือถ้าเราโดนปฏิเสธเราจะได้รู้ว่าเค้าปฏิเสธเราเพราะอะไรแล้วเราจะได้ปรับปรุงโปรไฟล์ของเราแล้วพอถึงเวลาที่เราพร้อมเราจะไม่โดนปฏิเสธอีก เราลองส่งไปที่ DB ในตำแหน่ง Personal Management และอีกหลายๆตำแหน่งเพราะเรารู้สึกสนใจอยากทำที่บริษัทนี้เนื่องจากสวัสดิการตั๋วเดินทางฟรีปีละ 6 เที่ยวเพื่อเราและครอบครัวทั่วเยอรมันและค่าเดินทางไปทำงาน เราเลยสนใจเป็นพิเศษ เราได้ผ่านรอบแรกและได้เข้าถึงด่านทำ Einstellungstest ถึง 2 รอบแต่ด้วยที่ความว่ามันมีคณิตศาสตร์เราเลยตกด่านนี้ตลอดดด เลยไม่เคยผ่านไปถึงด่าน Interview เลย แต่เราก็ไม่ยอมแพ้จ้าาา ส่งไปเรื่อยๆๆๆ เหมือนเป็นบ้าอะตอนนั้น เราส่งใบสมัครไปที่โรงแรมที่นึง ก็ได้รับอีเมลปฎิเสธมา ส่งไปสาย Büromanagement ก็โดนปฏิเสธมา 


    Leider...Leider... Leider... Leider... 


    อ่านอีเมลปฏิเสธมาเป็น 10 ฉบับแต่ไม่เสียใจเลย บางอันตลกด้วยซ้ำเพราะเราไปสมัครทำสายที่แบบเบนไปจากที่เราเคยเรียนมาโดนสิ้นเชิง เช่น Bankkauffrau หรือตำแหน่งคนควบคุมรางรถไฟอะไรแบบเนี้ย555555 แต่เอาจริงๆ คือเราเข้าใจว่าทำไมส่วนใหญ่เค้าถึงปฏิเสธเราเพราะตอนนั้นเราเพิ่งเรียนจบแค่ A2 แล้วใบเทียบวุฒิแปลวุฒิอะไรเราก็ไม่มีทั้งนั้น พูดง่ายๆ ก็คือเอกสารไม่พร้อม เลยยยยย! แต่ก็ยังกล้าส่งไปสมัครอีก

    มกราคม 2021 Zülpich, Deutschland 

    ก่อนที่วันหยุดยาวจะหมดเราคุยกะแฟนละว่าจะเอายังไงต่อ ตอนนั้นเรามีสิทธิ์ต้องกลับไทยสูงมากเพราะวีซ่าเรากำลังจะหมดตามพาสปอร์ตวันที่ 1 เดือนกุมภาฯ นี้แล้วเรากำลังรอพาสปอร์ตเล่มใหม่เพื่อไปทำวีซ่าใหม่จากกงสุลฯ ไทยที่แฟรงก์เฟิร์ตอยู่เดี๋ยวเอาไว้วันหลังเราจะมาเขียนรีวิวการไปทำพาสปอร์ตใหม่ให้เพื่อนๆ อ่านกันเผื่อใครกำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่นะะ แต่ก็นั่นแหละเราก็คุยกะแฟนแล้วว่าเราจะส่งใบสมัครไปสองที่สุดท้ายนี้เท่านั้นแล้วถ้าเราได้อยู่ต่อเราก็จะเริ่มหางานอาสาสมัครทำใหม่ละซึ่งหมายความว่าเราอาจจะต้องไปทำที่เมืองอื่นที่อาจจะใกล้แฟนหรือไกลแฟนก็ได้

    และหลังจากนั้นสักประมาณ 1 อาทิตย์ ในขณะที่กำลังเล่นพังบ้านและพายุเข้ากับน้องอย่างเมามันส์เราก็แอบหยิบมือถือขึ้นมาเช็คเมลสักแปป (อย่าไปบอกโฮสนะ ฮือออ) เพราะช่วงนี้เราได้เมล regret มารัวๆๆๆๆๆ รัวแบบเหมือน HR ทุกบริษัทนัดกันมาอะ 555555 ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่นะจ้ะ 

    แต่อีเมลนี้เว้ยยยยยย

    อีเมลนี้มัน...

    เค้าเชิญให้ดิชั้นได้ไปสัมภาาาาาาาาาษณ์ !!!!
    จุดพลุสิคะ รออะไรรรรรรรร 




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
zane. (@zane.)
เขียนได้สนุกมากกกมอยากมีโอกาสไปดูบอลทีม BVB สักครั้ง