เจ็ดโมงยี่สิบโดยประมาณ เราตื่นขึ้นมา พร้อมด้วยเสียงอึกทึกจากบ้านข้าง ๆ แรงงานหลายชีวิตกำลังลงแรงก่อสร้างตึกกันอย่างครึกโครม แต่เปล่าหรอก ไม่ใช่เสียงพวกนั้นหรอกที่ทำให้เราตื่น ฟังจากจังหวะและบรรยากาศแล้ว เค้าน่าจะเริ่มงานกันมาได้ซักพักแล้ว เสียงรอบข้างไม่ได้มีผลต่อการนอนอะไรอยู่แล้ว
ท้องฟ้าจ้าแดด น้ำโขงแดงเหือม เรามีอาการปวดเมื่อยไปทั้งแผ่นหลัง 200 บาทต่อชั่วโมงของเมื่อวานทำเอาสาหัสไม่น้อย เราลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟัน แล้วออกไปยืนริมระเบียงสูบบุหรี่รับวัน นอกจากเสียงก่อสร้างแล้ว เชียงคานค่อนข้างเงียบสนิท
9 โมงเช้าโดยประมาณ หลังจากพิรี้พิไร อาบน้ำสระผม เป่าหัวให้แห้ง เราออกเดินไปตามถนนด้วยความหิว แทบไม่มีร้านข้าวเปิดขาย เราต้องเดินลัดเลาะไปยังถนนอีกเส้นเพื่อจะได้ลองชิมข้าวเปียกเส้น อาหารขึ้นชื่อของเชียงคาน
เก้าโมงสี่สิบโดยประมาณ หลังจากมื้อเช้าจบไป เราพยายามเดินสำรวจเพิ่มเติมก็ไม่พบว่าจะมีอะไรเปิดเพิ่มเติมให้เราได้สำรวจ จึงตัดสินใจเดินกลับที่พัก จัดกระเป๋า เก็บของ และหาข้อมูลว่าจะไปทิศทางไหนต่อดี เรานัดรับมอเตอร์ไซค์ไว้ตอนเที่ยง ดูจากเวลาแล้ววันนี้คงไปได้ไม่ไกลขอนแก่น จึงพยายามหาว่ารอบ ๆ ขอนแก่นพอจะมีที่เที่ยวน่าสนใจที่ไหนบ้าง
สิบเอ็ดโมงโดยประมาณ หลังจากขี้ไปอีกสองรอบ ก็หอบหิ้วสัมภาระลงมา ไม่เจอลุงป้า - หรือใคร ที่จะให้เราเชคเอาท์ได้ นั่งรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงจึงตัดสินใจเดินหาและตามเข้าไปในครัว คืนกุญแจ กล่าวขอบคุณ สวัสดี
สิบเอ็ดห้าสิบโดยประมาณ ถึงร้านซ่อม ยังไม่เสร็จ ต้องรอ เลยสอบถามราคาเพื่อจะได้ไปกดตังมาเพิ่ม เงินสดที่กดมาเผื่อตั้งแต่ก่อนมา ละลายหายไปกับค่าซ่อมรายทาง รวมครั้งนี้ด้วยก็เกือบสามพันเข้าไปแล้ว หาเรื่องแท้ ๆ
เที่ยงสิบโดยประมาณ ช่างคืนรถให้ ซ่อมวาล์ว เปลี่ยนปั๊มเบรกหลังให้ใหม่ ออกตัวไปได้สิบเมตร เราเหยียบเบรกหลัง ลึกมาก โคตรไร้ประโยชน์ ไม่รู้สึกถึงแรงเบรกใด ๆ เลยหันหัวกลับไปให้ช่างแก้ให้ใหม่
เที่ยงครึ่งโดยประมาณ เหมือนจะดีขึ้น ช่างเหยียบโชว์ก็ดูกรึ๊บดี ขับยาวตรงไป เราเลือกพินไว้ที่จุดชมวิวช้างหินสี ดูเป็นที่เดียวที่น่าแวะ ระยะทางกำลังได้ ถึงที่นั่นแล้วค่อยจัดการเรื่องที่พักเอาอีกที
บ่ายโมงครึ่งโดยประมาณ แวะเติมลมยาง แล้วเกิดเอะใจ เราบอกช่างให้เช็คน้ำมันเครื่องด้วย คงจะลืม ตอนนับรถเราก็ลืม - อีกแล้ว น้ำมันเครื่องเหลือปริ่ม ๆ โคตรไม่แน่ใจ นี่วิ่งยังไม่กี่ร้อยกิโล หมดอีกแล้วเหรอวะ เพิ่งเติมมาจากนครสวรรค์นี่เอง แต่ก็นะ อย่าให้มันต้องเสี่ยงพังไปมากกว่านี้เลย ซื้อมาเติมเองแม่ง
บ่ายสองห้าสิบโดยประมาณ ได้ระยะพักรถ แวะกินข้าว เติมน้ำตาล ชาร์จมือถือ ก่อนออกเดินทางต่อ
เราค่อนข้างมีปัญหากับเบรกหลัง ซ่อมมากี่ครั้งก็ยังไม่ถูกใจ ทั้งศูนย์ทั้งร้าน ทั้งเปลี่ยนผ้าเบรกเปลี่ยนปั๊มเบรกก็แล้ว เราไม่รู้สึกว่าเบรกหลังจะสามารถช่วยชะลอรถเราได้เลย แอบหงุดหงิดอีกแล้ว
สี่โมงโดยประมาณ เราเจอปัญหาของสิ่งที่ไม่น่าวิ่งตามอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือกระบะควันดำ ที่ทำความเร็วไล่เลี่ยกับเรา แต่เราเสือกอยู่ข้างหลัง ละควันแม่งเหม็น ทนได้แปปเดียวก็ยอม ตัดสินใจชะลอรถปล่อยให้มันหายลับตาไปไกล ๆ เสียก่อน กับสอง คือท้องฟ้าดำมืดที่รอต้อนรับอยู่ด้านหน้า มันเริ่มด้วยพื้นถนนที่เจิ่งนอง ตามมาด้วยเม็ดฝนเปาะแปะ ตัดสินใจหยุดพัก ไม่นานก็เงียบสนิท แต่พอขับต่อไปได้อีกพักใหญ่ ๆ ก็วนเข้าลูปเดิม พื้นเปียก - ฝนปรอย - จอดพัก - หาย เหมือนกับเมฆฝนเคลื่อนตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น โดยมีเราที่วิ่งไล่อยู่ แล้วเสือกทันด้วย จะแซงก็ไม่ใช่เรื่อง เลยจอดพักรอยาว ๆ
ใกล้จะห้าโมงแล้ว เราทำเวลาไม่ค่อยดี ปรากฎว่าหินช้างสีปิดห้าโมงตรง เราจึงต้องเปลี่บนแผนมาหาที่พักเลยทันที ไม่อยากเข้าเมืองซักเท่าไกร่ หินช้างสีอยู่ริมเขื่อนอุบลรัตน์ เลยฟิลเตอร์เฉพาะที่พักรอบ ๆ เขื่อน มีปรากฎแค่สองที่ที่ราคารับได้ เราโทรถามเพื่อความชัวร์ เพราะเรายังไม่มั่นใจว่าจะไปถึงกี่โมง เพราะยังไม่แน่ใจเรื่องฝน รีสอร์ทแนะนำให้จองตรง เพราราคาอโกด้าจะไม่รวมมื้อเช้า กับเป็นวิวสระว่ายน้ำ แต่ถ้าเพิ่มเงินอีกร้อยนึงจองตรง จะได้วิวทุ่งนา + อาหารเช้าด้วย น่าเสียดาย เราไม่สนใจอาหารเช้า แต่เราอยากได้วิว แต่เราก็พยายามคุมคอสเรื่องที่พักด้วยเหมือนกัน ทริปนี้บานปลายมาเกินกว่าที่เรารับได้ไปเยอะแล้ว จัดสินใจจองอโกด้า จึ้ก
หกโมงครึ่งโดยประมาณ เข้ามาไกลมากแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเย็น และดูไม่น่าจะมีตัวเลือกอะไรมากนักแถวที่พัก ไม่แน่ว่าจะมีด้วยซ้ำ ไม่อยากต้องขับรถออกมาอีกสิบกว่ากิโลเพื่อออกมาแดกข้าว ที่ก็ไม่รู้ว่าจะเปิดถึงกี่โมง เจอร้านตามสั่งก็แวะทันที
หนึ่งทุ่มโดยประมาณ ถึงที่พักแล้ว เจ้าของก็ยังพยายามขายราคา +100 เพื่ออาหารเช้า เราปฏิเสธ เราไม่สนใจมื้อเช้า เราสนใจวิว เรสบอก โชคดีที่เจ้าของใจดี เพราะยังมีบ้านว่าง เราเลยได้พักกลางทุ่งนาสมใจอยาก เป็นไปตามแผนเป๊ะ หลังจากนั้นก็ซื้อเบียร์มาอีกขวด แดกมาจะสี่ชั่วโมงแล้วยังไม่หมดเลย ไม่ชอบแดกเบียร์เพราะงี้ โคตรอืด
,,
วันนี้รถก็ไม่ได้งอแงอะไร มีเบรกหลังน่ารำคาญนิดหน่อย เรารู้สึกว่ามันไร้ประโยชน์จริง ๆ นะ ทั้งที่เบรกหลังมันสำคัญมาก การใช้เบรกหน้ามันไม่ค่อยสมูทกับการขับขี่ซักเท่าไหร่ แต่เวลาเบรกก็ต้องใช้ทั้งสองตัวช่วยนั่นแหล่ะ
วันนี้มีปัญหาเรื่องฝนบ้างประปราย มันไม่หนักหรอก แต่มันเหมือนจะหนักอยู่ตลอด ทำให้เราอยู่ในช่วงลังเลอยู่หลายรอบมาก ๆ เพราะไม่อยากเปียกจริง ๆ เจ็บด้วย วันนี้ก็เลยทำเวลาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
นอกจากนั้นก็จะเป็นเรื่องพื้นถนนกับรถบรรทุก ช่วงเลยถนนไม่แย่อะไร ค่อยข้างเรียบเี แต่พอเข้าเขตขอนแก่น ถนนผิวดวงจันทร์ใช้ได้ แต่ยังไม่สมุทรปราการ แอบแปลกใจอยู่เหมือนกัน ขอนแก่นน่าจะทำได้ดีกว่านี้นะ ส่วนรถบรรทุกก็จะเป็นปัญหาเดิม ๆ เรื่องเศษหินเศษดินกระเซ็นเข้ามา บ่อยอยู่เหมือนกัน ดีแค่ไหนที่ซื้อกระจกมาติดหมวกไว้ แถมยังเป็นรถบรรทุกหินที่เจอพื้นเหี้ย ๆ ทีก็ปลิวที แซงได้แซง แซงไม่ได้ก็ต้องทิ้งช่วงไว้หน่อย
ขับทางไกลมาสี่วันติดละ อาการเริ่มออก แต่ไม่แน่ใจจริง ๆ ออกเพราะขี่นานหรือเพราะนวดเมื่อวาน วันนี้ค่อนข้างเมื่อยสะโพกเอาการอยู่ พรุ่งนี้เช้า ๆ แล้วแต่ตื่น จะไปเก็บหินช้างสีก่อน แล้วน่าจะวิ่งเส้นหลักยาว ๆ เข้ากรุงเทพเลย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็น่าจะปิดทริปและยอดค่าใช้จ่ายได้ซะที บานปลายเพราะค่าซ่อมรายทางนี่แหละโว้ยย เหมือนเอารถมาตระเวนซ่อมรายจังหวัดยังไงยังงั้น เพลียร์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in