ทบทวนเรื่องราว
(ยาวนิดนึง แต่มีสรุปสั้นๆข้างล่าง)
ตอนที่เอเลนอร์ยังมีชีวิตอยู่ เธอนั้นไม่ค่อยจะทำความดีสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเธอตาย เธอดันถูกเลือกให้อยู่ในดินแดนดี (The Good Place) ซึ่งในตอนแรกคิดว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะว่ามีคนชื่อเอเลนอร์ซ้ำกัน นั่นหมายความว่าเอเลนอร์ที่เป็นคนดีอยู่ที่ดินแดนเลว (The Bad Place) หลังจากเธอได้มาอยู่ที่ดินแดนดีก็มีเรื่องเลวร้ายต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งเอเลนอร์เองก็คิดว่าเป็นเพราะตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดทาง แถมยังต้องมาเป็นคู่แท้กับชิดิที่เป็นศาสตราจารย์ด้านปรัญชาและจริยธรรมที่เอาแต่เคร่งเครียดเรื่องความดี พวกเขาต้องอยู่บ้านหลังเล็กๆที่มีรูปตัวตลกติดอยู่มากมาย ซึ่งบ้านหลังข้างๆคือคฤหาสน์หลังใหญ่โตที่มีทาฮานิสาวไฮโซใจดีนักการกุศลซึ่งอาศัยอยู่กับคู่แท้นั่นคือเจียนอู๋พระผู้รักความสงบ
ที่นั่นมีสถาปนิกดูแลนั่นคือไมเคิล ซึ่งเขาต้องปวดหัวกับเรื่องเลวร้ายต่างๆอยู่เป็นประจำ โดยมีเจเน็ตหุ่นรับใช้คอยช่วยเหลือ
เอเลนอร์บอกให้ชิดิรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนดี และอยากให้ชิดิช่วยสอนเรื่องหลักจริยธรรมให้ เพราะว่าไม่อยากถูกส่งไปดินแดนเลว ชิดิยอมช่วย และเอเลนอร์ก็ได้ซึมซึบความดีมาทีละเล็กทีละน้อย
ต่อมาเอเลนอร์ก็ได้รู้ว่าพระเจียนอู๋ก็คือเจสันที่ตอนมีชีวิตเขาคอยแต่ก่อเรื่องไม่ดีสักเท่าไหร่ ซึ่งเขาก็ถูกเข้าใจผิดให้มาอยู่ที่ดินแดนดีเหมือนกัน เธอจึงช่วยเจสันมาเข้าคลาสเรียนหลักจริยธรรมกับเธอ ซึ่งเจสันก็ยอม แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเขามาก ส่วนเอเลนอร์นั่นแทบจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่เป็นคนดีขึ้นเลย
เจสันเบื่อที่ต้องปลอมตัวเป็นพระผู้รักความสงบ จึงเรียกใช้งานเจเน็ตอยู่บ่อยๆ ไม่นานทั้งคู่สนิทสนมกัน และมีความสันพันธ์กันลับๆ แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกลากันไป
นอกจากมีดินแดนดีและดินแดนเลวแล้ว ยังมีดินแดนตรงกลาง ซึ่งไม่ดีไม่เลว เป็นที่ร้างว่างเปล่า และมีเพียงมินดี้อยู่เท่านั้น
ในที่สุดเรื่องราวก็ถูกเปิดเผยขึ้นว่า ที่ที่พวกเขาคิดว่าเป็นดินแดนดี นั่นก็คือดินแดนเลวในแบบใหม่ ที่ต้องการทรมานพวกเขาในแบบใหม่ ตอนมีชีวิตบนโลกเอเลนอร์ไม่แทบจะไม่เคยเป็นคนดี เจสันก็เอาแต่ก่อเรื่อง ชิดิตัดสินใจไม่ได้เพราะมัวคิดถึงแต่เรื่องจริยธรรม ทาฮานิอิจฉาน้องสาวตัวเองที่เด่นและดังกว่า
ชอว์นหัวหน้าของไมเคิลได้มาเยี่ยมดินแดนเลวของไมเคิลเพื่อประเมินผลงาน ก็พบว่าไมเคิลทำล้มเหลว แต่ก็ให้โอกาสเขาอีกครั้ง ไมเคิลตัดสินใจรีเซ็ตการทรมานทั้งหมด แล้วก็เริ่มการทรมานแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งเอเลนอร์ก็รู้ทันทุกครั้งไป
เอเลนอร์คิดได้ว่า ในเมื่อตัวเธอเองที่แสนจะสุดเลวกลายเป็นคนดีได้ แล้วไมเคิลทำไมจะกลับตัวกลับใจกลายเป็นคนดีไม่ได้ เอเลนอร์เริ่มแผนการลับที่จะทำให้ไมเคิลรู้สำนึกแล้วกลายเป็นคนดี ในที่สุดเธอก็ทำได้ ไมเคิลกลับตัวกลับใจเป็นคนดี และคอยช่วยเหลือเอเลนอร์ ชิดิ ทาฮานิ และเจสัน อีกทั้งยังเห็นว่าพวกเขาทั้งสี่สามารถเป็นคนที่ดีขึ้นหลังจากตายไปแล้วได้อีกด้วย ดังนั้นพวกเขาควรที่จะไปอยู่ในดินแดนดีมากกว่าดินแดนเลว แต่มันก็เป็นไปได้ยาก เพราะว่าการที่จะได้ไปอยู่ในดินแดนดีนั้นต้องเป็นคนดีตอนมีชีวิต ไม่ใช่เป็นคนดีเมื่อตายไปแล้ว
ในที่สุดหลังจากที่ทุกคนกำลังรอชะตากรรมอันเลวร้าย ทาฮานิก็นึกออกขึ้นว่าไมเคิลเคยพูดถึงผู้พิพากษาที่ตัดสินความขัดแย้งเกี่ยวกับความดีความเลว จึงเกิดไอเดียที่ว่าต้องลองเข้าไปคุยแล้วบอกถึงเหตุผลต่างๆที่ทำให้พวกเขาเป็นคนดีได้หลังจากตายมาแล้ว เมื่อไปถึงห้องของผู้พิพากษา พวกเขาถูกทดสอบแยกกัน ซึ่งมีแค่เอเลนอร์ผ่านแค่คนเดียว ทั้งสี่จึงต้องกลับไปที่ดินแดนเลว แต่ก่อนที่จะไป ไมเคิลและเจเน็ตโผล่มาซะก่อน
ไมเคิลเข้ามาช่วยพูดให้ และคิดออกว่าตอนมีชีวิตพวกเขาแค่ไม่มีแรงกระตุ้นที่จะทำความดี จึงส่งพวกเขาไปยังโลก ย้อนเวลาไปช่วงก่อนตาย และเพิ่มแรงกระตุ้นเล็กน้อยเพื่อให้พวกเขาทำความดี
เอเลนอร์เข้าร่วมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จากนั้นก็สนใจเรื่องหลักจริยธรรม ...
สรุปสั้นๆก็คือ
- ตอนมีชีวิตเอเลนอร์ ชิดิ ทาฮานิ และเจสันไม่ได้เป็นคนดี หลังจากตายพวกเขาดันได้มาอยู่ในดินแดนดี
- ดินแดนดีคือดินแดนเลวที่ถูกสร้างมาเหมือนดินแดนดีเพื่อทรมานคนเลว
- พวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองไปอยู่ในดินแดนเลวจริงๆ รวมถึงการทำตัวให้เป็นคนดีขึ้น
- สุดท้ายพวกเขาทั้งสี่เป็นคนดีขึ้น และอยากไปอยู่ดินแดนดีจริงๆเสียที
- ไมเคิลสถาปนิกที่ดูแลเคยเป็นปีศาจที่เลว แต่เมื่อเจอทั้งสี่ เขาก็กลายเป็นคนดีขึ้น
- ไมเคิลและเจเน็ตอยากช่วยทั้งสี่ให้ไปอยู่ที่ดินแดนดีจริงๆ จึงเกิดไอเดียให้ผู้พิพากษาตัดสิน
- ผู้พิพากษาตัดสินให้ไม่ผ่าน ไมเคิลขอโอกาสให้พวกเขามีแรงกระตุ้นในการทำความดี
ขอให้ซีซั่นสามยังสนุก และสอนจริยธรรมความดีแบบนี้ต่อๆไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in