เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
PHAN WARA ' S STORYPhan Wara
จากเด็ก ห่วยอังกฤษ จนติดปีกครั้งแรก( 2 )
  • ต่อเลย มา....... กลับไทยมา ตอนแรกแม่ก็จะให้อยู่บ้านเฉยๆ จนกว่าจะเป็นนาางคว้าาา แต่ดูแววว่า กรูววจะอีกหลายปีแน่ๆ  บวกกับเพื่อนรัก ลากไปทำฟันใหม่ค่ะ สรุป เปลี่ยนหมอฟัน ใส่เหล็กดัดใหม่ครั้งที่ 3 บ้าไปแล้ววว อุปสรรคเรื่องฟันตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่หลวงสำหรับเรามว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก เพื่อนๆ น้องๆ ที่รู้จัก ติดปีกกันโคร้มม โคร้มมมมมมม เรา ยังนั่งแคะขี้มูกอยู่บ้าน มันก็ไม่ได้เรื่องและ 

    เลยคิดว่า อย่างน้อยถ้านอนอยู่บ้านก็คงไม่ได้อะไร ภาษาก็คงไม่ได้ฝึก เราออกไปหาประสบการณ์ดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ฝึกตัวเอง เขียนงานลงไปในเรซูเม่ และโชว์ประสบการณ์ให้เค้าเห็นไปเลยว่าชั้นก็มีนะจ๊ะ 

    ตัดสินใจไปสมัครงานบริษัททัวร์บริษัทหนึ่ง เป็นบริษัท ญี่ปุ่น และแน่นอน ภาษาอังกฤษใช้น้อยมาก แต่เรื่องการบริการ บ.ญี่ปุ่นนี้ไม่เป็นรองใครแน่ๆ (เราเชื่อว่าอย่างงั้น555) เอชอาร์ถามจะอยู่กับเรากี่ปีคะ นี้บอกเลยค่ะ ปีเดียว โอเค ปีเดียวก็ปีเดียวว เหล็กดัดดฟันก็คาปากเต็มมเลยค่ะ 5555 ระหว่างนั้น เรื่องการบริการเราก็ค่อยๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จากคนที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย กลายเป็น เรียนรู้ และสามารถรับมือลูกค้าได้ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ แถมสนุกกับมันไปอีก งานอะไรก็ตามถ้าเรามีความสุขกับมัน ใช่ค่ะ เราก็จะมีความสุขกายสบายใจ ระหว่างทำงานไปด้วย เราก็ห้ามลืมภาษาอังกฤษค่ะ กะเหรี่ยงไทยอุตส่าพายเรือข้ามไปเรียนถึงต่างประเทศ ไม่อยากให้เสียเงินพ่อแม่ฟรีๆ ก้็ทบทวนสิ่งที่เรียนไปเนี่ยล่ะคะ แต่ ทบทวนแกรมม่าธรรมดา เราก็คงมีแต่แกรมม่า(ซึ่งปกติ กรูวก็มิดั้ยเก่งอัลลัยเลอะ) ตัดสินใจไปเรียนอีกค่ะ เรียนภาษาอังกฤษ ที่สถาบันสอนแอร์ที่นึง ขอบอกว่าาาาา ดีมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เพราะอะไรหนะหรอคะ อาจารย์ฝรั่งสอน เราเรียนเป็นครอส ที่เหนือ กว่า แอ๊ดว๊านซ์ น่อววววว นี้ก็ดีใจจมาก เห็นไหมการไปร่ำเรียน ของเรามาอย่างน้อยมันได้ผล เพราะว่าเราโดดขึ้นจาก Beginner ขึ้นมาขนาดนี้ ดีใจจมากกกสุดๆจริงๆค่ะ แถมตอนพรีสกรีน ครูที่พรีบอกว่า นี้ทำไมโทอิคมันไม่สัมพันธ์กับการสนทนาของหนูเลยลูก ยิ้มมค่ะยิ้ม แต่สั่งไปเรียนโทอิคเพิ่มค่ะ 555555 แต่ไงซะมันเหมือนเป็นกำลังใจ และแรงผลักดันให้เราสู้จริงๆค่ะ เราเรียนที่นี่ เราได้ทั้ง การพูดที่สาธารณะ การทำกรุ๊ป การบรรยายภาพ วิธีเขียนเรซูเม่ วิธีเขียน Cover letter สนทนา ความกล้า ทุกอย่างที่เรียน คือเข้มจริงๆค่ะ เพราะในห้องมีเรียนแค่ 4 คนเอง 555 แถมอาจารย์ยังดุและสุขุมนุ่มลึกเหมือนกาแฟลาเต้ที่ใส่นมจืด ไม่ดิไม่เกี่ยว และอาจารย์ก็ตั้งใจและเต็มใจสอนมาก มีการเขียนทุกวัน Eassy เอย แต่งเรื่องเอย สนุกดีค่ะ ได้ทั้งฝึกไปในตัววด้วยย  แถมตอนคลาสสุดท้าย อาจารย์สอนภาษาอังกฤษชมเราว่า "ภาษาอังกฤษของคุณดีมากนะ 80เปอร์เซน คุณพูดถูกแกรมม่าหมดเลย พัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆนะ "  เห็นไหม ความพยายาม ไม่เคยเป็นศูนย์นะ  ถ้าเราพยายาม นี้ก็กลับบ้านยิ้มหน้าบานเลยค่ะอวดแม่อวดพ่อ แต่ไม่กล้าอวดเพื่อน 555 เขินอายย  


    วิธีการเรียนของเราหลังจากจบในแต่ละคลาส 
    1. ไม่รู้ศัพท์หรือไม่เข้าใจประโยคไหน ถามครูสอนเลยค่ะ เค้าอธิบายให้เราฟังและละเอียดแน่ๆ  
    2. การฟังนี้พัฒนาขึ้นมาก ฉะนั้นเราต้องเพิ่มพูนมันค่ะ กลับมาบ้านเรา จะเปิด American Got talent , X factor หรือ Ellen เพื่อให้หูคุ้นชิน มากๆจะได้ฟังอาจารย์สั่งงานหรือการบ้านได้ถูก
    3. คุยกับตัวเองค่ะ หน้ากระจก คุยไรก้ได้คุยว่าวันนี้ชั้นไปไหนทำไรมา อารมพูดไปเรื่อยๆค่ะ คุยกับตุ๊กตาก็ได้ค่ะ บ้านเราตุ๊กตาเยอะ ตั้งชื่อมันชวนไม่คุย แต่ถ้ามันคุยโต้กลับเรามาอีกทีนี้ รบกวนพามันไปไว้วัดเลยนะคะ 5555555

    และแล้วเราก็เอาเหล็กออกจากปาก ก่อนกำหนด  พี่มันคนใจร้อนนน
    และแน่นอนค่ะ หมอด่าไม่เหลือชิ้นดี เพราะชั้นจะไม่รับเธอมาเป็นคนไข้แล้ว 
    เธอไปหาหมอที่ไม่มีคุณภาพมาแล้วให้ชั้นแก้ ถ้าเธอจะเอาออก ชั้นก้จะถอดออกให้ 
    กรูวหน้าเหลือสองนิ้วค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เป็นแอร์แล้วค่อยไปทำใหม่ 

    ปล. ไม่ใช่กับหมอคนนี้แน่ๆ เดี๋ยวโดนด่าาา 5555

    แล้วคราวนี้ถึงเวลาที่เราจะได้เรียนครอสแอร์สักที 
    เนื่องจากที่เคยบอก ไม่มีเวลาค่ะ ลงครอสเดี่ยวแม่มมม แพงก็แพงง แต่ทำไงได้ ลงเรียนไปปุ๊บรู้เรื่องเลยค่ะ ครูที่สอนนะ โหยยย บอกให้ปรับ เป็นสิบอย่าง ท่าเดิน ท่าคุย ท่านั่ง การแสดงออกทางสีหน้า ภาษาไม่อินเตอร์พอ ขมวดคิ้ว เยอะค่ะ เยอะกว่านี้จริงๆ แต่เราก็ทำนะคะ ทำไปเรื่อยๆอ่ะค่ะ 

    ระหว่างฝึกบุคลิกภาพไป กลับบ้านเราก็จะแบ่งเวลาค่ะ ถึงบ้านอาบน้ำกินข้าว ขึ้นข้างบน อ่านไวยากรณ์ก่อนเลย ทำข้อสอบ โทอิค ทำไปเรื่อยๆ ซัก1 ชั่วโมง จากนั้น ท่องบทสัมภาษณ์หน้ากระจก ยิ้มเยอะๆ ทำบ่อยๆ เราจะเข้านอนประมาณเที่ยงคืน - ตี 1 แล้วแต่ค่ะ  ช่วงไหนที่ได้อินไวท์จากสายการบินแล้ว มีเวลาชัดเจนแน่นอน เราจะแบ่งวันว่า วันที่ 1-2 เตรียมบทสัมภาษณ์  วันที่ 3-4 เตรียมบุคลิก ถ้ามีวันมากกว่านั้น ก้อาจจะแบ่งไปเลยอาทิตย์แต่ล่ะอาทิตย์ทำแตกต่างกัน 

    พอทำงาน ว่างงนักก็เอาโทรศัพท์อัดตัวเอง อีเพื่อนร่วมงานก็คงแอบขำอ่ะค่ะ ท่องบทสัมภาษณ์ไป มองหน้าตัวเองในกระจกไป ทำเงี่ยวนไปป ฉันเป็นผู้หญิงคิสบวก คิสสบวก และคิสบวกก หรือไม่ก็บ้าอ่ะคะ  คิดเงี่ยยยยย ทำเงี่ยไปเรื่อยๆ  

    พอเราทำวนไปเรื่อยๆ การสมัครแอร์เราก็จะวนนลูปไปเรื่อยๆตามด้านล่างนี้เลยค่ะ 10 ครั้งถ้วนน
    สนุกดี วนนไป เวียนไป พอไม่ผ่าน ก็ทำมันเวียนด้านบนไป และการไปทุกครั้งเราจะได้รู้ว่า เราควรต้องพัฒนาสิ่งไหนบ้าง และ สิ่งไหนที่เป็นสิ่งที่ทำให้เราติดๆขัดอยุ่เนี่ย ไม่ได้ซักที และแน่นอนค่ะ สิ่งที่เรามักจะติดขัดแรกๆเลย

    ตัวการทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จ 
    1. ความขี้เกียจ แน่นอนค่ะกลับบ้านมาเหนื่อย ผลัดวันไปเรื่อยๆๆๆๆเดี๋ยวทำๆๆๆ 
    วิธีแก้ ถ้าเราขี้เกียจวันนี้ แล้วถ้าพรุ่งนี้สายการบินที่เราอยากเข้าทำงานด้วยมารับกระทันหันล่ะ ไม่ได้ๆนะห้ามขี้เกียจ (นี้คือสมองด้านดีของเราคิด 555)
    2. ความตื่นเต้น สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้ววท่องไว้ว่า ฉันต้องทำได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เดินสวยๆยิ้มมๆ ไปโลดด 
    3. ลืมยิ้ม เมื่อเรากดดัน หรือตื่นเต้น แน่นอนค่ะ หน้าตาเรามันจะแสดงออกมาว่า เราเครียดเรากดดัน เราพร้อมที่จะกัดกรรมการ 55555
    วิธีแก้  ยิ้มกับกระจก ยิ้มบ้าบอ สำหรับเรา เราจะ Enjoy กับสิ่งเล็กๆน้อยๆ มีความสุขทุกอย่างค่ะ ทำงานก็สุข เจอเด็กเล็กๆยิ่งสุข เจอลูกค้าสุข และหัดหัวเราะ ยิ้ม ขอบคุณและขอโทษ เอ็นจอยไปกับมันค่ะ 
    4. ดูถูกตัวเอง เราคนนึงค่ะ เคยเป็นคนดูถูกตัวเอง ว่าชั้นไม่ได้ ชั้นทำได้ไม่ดี สายนี้มันยากเกินไปสำหรับชั้น ชั้นไม่คู่ควร ชั้นไม่ใช่ ไม่ใช่ มันไม่ใช่ชั้น บลาบลาบลา แง่ลบบอย่างงี้ อย่าลืมขจัดมันออกไปเน้อ 
    5. แข่งกับคนอื่น เราอยากได้งานนี้ ทุกคนไม่ใช่คู่แข่งแต่ทุกคนคือทีมค่ะ  เราไม่ต้องแข่งกับคนอื่นค่ะ เราแข่งกับตัวเอง เราโชว์สิ่งที่เรามี และทัศนคติดีๆ ให้กรรมการเห็นโลดดด แล้วววกรรมการจะรักที่เราเป็นตัวเราเองง อิอิ 
     

    มาถึงการสมัครแอร์ของเรา 
    ครั้งแรก   China Airline          เป็นครั้งแรกของเราและงงมากกรรมการชอบหนูตรงไหนคะ แต่สุดท้าย                                                   ตกไฟนอลค่ะ 
    ครั้งสอง   Japan Airline           ผ่านพรีสกรีนค่ะ พอเข้าห้องสัมภาษณ์เท่านั้นล่ะ ตื่นเต้น ไปไหนไม่ถูก 
                                                    คือง่ายๆ ภาษาอังกฤษเนี่ยล่ะค่ะ ที่เรายังอาจจะติดอยุ่ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้                                                    พูดนานตกไปเลยค่ะตามระเบียบ 
    ครั้งที่สาม  AirAsia                   เนื่องจากมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากกเกินนไป ตกไปเลยค่ะ พรีสกรีน
    ครั้งที่สี่    Bangkok Airway      กดส่วนสูง นน เกินมา 9 ขีด ตอนนั้นลด นน จนไส้กิ่วอ่ะคะตกพรีสกรีนอี๊ก
    ครั้งที่ห้า  AAA                          ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่าสายนี้เป็นอย่างไร เพื่อประสบการณ์ เราจะไปสมัคร 
                                                     และแน่นอนว่าตกค่ะ 5555
    ครั้งที่หก Singapore Airline    ผ่านไปถึง กรุ๊ป และตุ๊บบบบ
    ครั้งที่เจ็ด Japan Airline           ผ่านพรีสกรีน อีกแล้ว แต่ตกกกกอีรอบถัดไปอีกแล้ว 55
    ครั้งที่แปด Thailion Air            ไม่ผ่านพรีสกรีน 
    ครั้งที่เก้า กะทะ                         ไม่ผ่านพรี
    ครั้งเท่สิบ Nokscoot                 ได้เป็นแอร์แร้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน 555555

    ทุกครั้งที่เราตกไม่ว่าจะพรีสกรีน สัมภาษณ์ หรือไฟนอล เราจะกลับมาทบทวนตัวเองว่า 
    เราควรแก้ไขตรงไหน แต่ไอข้างบนที่เราบอกไป เราก็วนกลับมาทำมันตลอด ฝึกฝนตัวเองตลอด 
    ราคิดถึงแค่ว่า นี้คือสิ่งที่เราฝัน เราอยากทำมาตั้งแต่เล็กๆ แม่เราเสียเงินไปกับเราเท่าไหร่ 
    เราจะมาอืดอาด รอคอยปาฏิหาริย์ไม่ได้ ไม่งั้นมันจะไม่สำเร็จจจจจ ลงมือทำเถิด แล้วทุกอย่าง 
    ที่คุณหวัง จะเกิดผล ไม่ช้าก็เร็วววว

    ทั้งหมดทั้งมวลนี้ มีแค่ JAL เท่านั้นที่เรียน Intensive ที่เหลือฝึกเอาเองค่ะ เพราะครูที่สอนตัวตัวเรา 
    หึ หึหึ หึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ เสียดายเงินจุงงงงง 555555555555555555555
    แต่ยังไงงก็ยังดีที่เค้ายังแนะนำเรื่องบุคลิกเราว่าเราควรปรับตรงไหน 5555555


    ปล. เราเป็นกำลังใจให้คนที่ท้อ เราไม่เคยท้อเลยสักครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีวันที่ร้องไห้ เพราะคิดว่าเพราะอะไรเค้าถึงไม่รับเราสักที อย่าท้อค่ะ เราเชื่อว่าสักวันนึงต้องมีวันของเราถ้าเราพยายาม และแน่นอน ความพยายามไม่เคยทรยศใครนะคะ 
    ปล2. ทุกๆวันคือวันที่ดี วันที่เราได้ฝึกหัด ปัญหาที่ผ่านเข้ามา คือประสบการณ์ให้เราแก้
    ปล.3 ฝึกฝนทุกวัน ยิ้มเยอะๆ มองโลกในแง่ดี แต่ไม่ใช่ดีแบบบ บื้อนะคะ ดีแบบยังมองบางอย่างตามพื้นฐานความเป็นจริงอ่าค่ะ 
    ปล.4 เราไม่ใช่คนเก่งค่ะ แต่เรามีความพยายาม และที่เราเขียนมันขึ้นมา เพราะว่าเราอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ จากคนที่ไม่มีอะไร เลยยย ไม่ได้อะไรเลย จะเรียกได้ว่าห่วยแตกกกก็ว่าได้ แต่สุดท้าย ถ้าเรามีความพยายามค่ะ แน่นอน ผลลัพธ์ที่คุณต้องการมันอยู่ไม่ไกลแน่ๆ

    ปล.5 เดี๋ยวจะมาเขียนเล่าประสบการณ์การสมัคร Nokscoot นะคะ

    ขอบคุณที่อ่านค่ะ สวัสดี
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in