เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ขอเขียนignorance is bliss
SEVENTEEN

  • I went out looking for love when I was seventeen
    Maybe a little too young, but it was real to me
    And in the heat of the night, saw thing I'd never seen
    Seventeen..."


    2019 -HAPPY NEW YEAR-


          เริ่มต้นปีด้วยปาร์ตี้เล็กๆ กับครอบครัวในบ้านหลังโตของคุณปู่ ออสเตรเลียทำให้สนุกได้เสมอสำหรับผม แต่ไม่ใช่วันนี้... ข้อความจากเพื่อนสนิทของผม ชาร์ลี ถูกส่งมาเมื่อตอนสายๆ เกี่ยวกับงานประกวดร้องเพลงที่กำลังจะจัดขึ้นทันทีหลังจากหมดช่วงวันหยุดยาว ผมอยู่ไม่สุขอยากกลับไปซ้อมจะแย่


    ''ทรอย ลูกช่วยหยุดเดินไปมาได้มั้ยจ้ะ แม่เวียนหัว'' 
    ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในโลกกำลังใช้มือนวดขมับอยู่บนโซฟาหนังหน้าโทรทัศน์

    ''แม่ก็รู้ว่าผมอยากกลับบ้านนี่ครับ'' ผมโอดครวญ ลากขาไปนั่งบนพื้นข้างๆ ท่าน
    ''พรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว วันนี้สนุกให้เต็มที่สิลูก'' 

    ผมพยักหน้ารับคำ ไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป จริงของแม่ ถึงอยากกลับมากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรออยู่ดี 



    .
    .

    ''ทรอย ไปข้างนอกกันมั้ย'' ชอว์น เมนเดส ลูกพี่ลูกน้องของผมถามขึ้น ตอนที่ผมกำลังสูดเส้นสปาเกตตี้เข้าปากอย่างมูมมาม ขายหน้าชะมัด!

    ''เอาสิ เบื่อๆ อยู่พอดี แต่ขอกินให้หมดจานก่อนนะ'' เขายิ้มให้กับคำตอบของผม ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม รอจนผมจัดการตัวเองเรียบร้อยถึงได้เดินนำออกไป





    เรามาหยุดอยู่ที่โต๊ะไม้ตัวโปรดของคุณปู่ผมบริเวณหน้าบ้าน อากาศค่อนข้างเย็นเนื่องจากรอบๆ เป็นป่า ผมใช้มือลูบแขนตัวเองไปมาเพราะไม่ได้หยิบเสื้อคลุมติดมาด้วย

    ''เอาเสื้อไปใส่มั้ย?'' เขาถามอย่างใจดี ทำท่าจะถอดเสื้อคลุมที่ใส่ออกตอนที่นั่งลงข้างผมเรียบร้อย

    ''ไม่ล่ะ นายใช้เถอะ ขอบคุณนะ'' ผมปฏิเสธ ชอว์นไม่ได้ว่าอะไรนอกจากยิ้มเล็กๆ กลับมา



    ยิ้มอีกแล้ว คนเราจะยิ้มเก่งขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย?

    หมอนี่ยิ้มแทบทุกครั้งเวลาที่ผมเห็นหน้าเขา คุยกับใคร หรือทำอะไรก็มีรอยยิ้มออกมาเสมอ เด็กกว่าผมแท้ๆ แต่ตัวสูงลิ่ว หุ่นก็มีกล้ามแน่นไปหมด ส่วนผมมีแต่พุงกะทิยืดๆ เท่านั้น แถมยังเป็นคนที่แม่ผมปลื้มสุดๆ ในบรรดาหลานอีกด้วย


    ''จะกลับบ้านพรุ่งนี้หรอ'' ผมหยุดคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเพราะคำถามของเขา

    ''ใช่ ต้องรีบกลับไปซ้อมดนตรี'' ชอว์นมีท่าทีสนใจขึ้นมานิดหน่อยหลังจากผมพูดจบ

    ''ซ้อมดนตรี'' เขาทวนสิ่งที่พูดซ้ำ

    ''มีประกวดน่ะ เริ่มหลังจากหมดวันหยุด แข่งในโรงเรียน'' ผมอธิบายสั้นๆ ให้เขาพอเข้าใจ แต่พอมาคิดถึงตรงนี้ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้เพลงอะไรลงแข่ง 


    ''น่าสนุกนะ ไว้จะไปดู'' สิ่งที่เขาพูดทำให้ผมหัวเราะ บ้านผมอยู่แอลเอนะ จะไปดูได้ยังไงกันล่ะ

    ''ขอบคุณ แต่นายคงต้องรีบจองตั๋วบินไปก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะพลาดนะ" เขามองผมนิ่งๆ ก่อนจะหลุดขำออกมา กลายเป็นว่าเราสองคนพากันหัวเราะเสียงดังท่ามกลางบรรยากาศเงียบๆ รอบตัว






    ''เข้าไปข้างในเถอะ ปาร์ตี้ใกล้เลิกแล้ว'' ผมเป็นฝ่ายชวนหลังจากที่เรานั่งคุยกันนานร่วมชั่วโมง ไม่คิดเลยว่าคนพูดน้อยแบบชอว์นจะมีมุมคุยเก่งอยู่ด้วย ผมรู้จักเขามากขึ้นนิดหน่อย เพิ่งรู้ว่าเขาร้องเพลงเหมือนกันแต่ไม่เคยลงประกวด ชอว์นขอให้แลกเบอร์โทรศัพท์ไว้ติดต่อหลังจากผมกลับพรุ่งนี้


    ผมหาวออกมาเพราะเริ่มง่วงนิดหน่อยเดาได้เลยว่าดึกมากๆ แน่นอน เสียงเพลงข้างในบ้านถูกปรับให้เบาลงสักพักแล้ว ผมลุกขึ้นยืนปัดกางกางด้านหลังของตัวเองเบาๆ แต่ถูกคนที่นั่งเงียบจับข้อมือไว้


    ''ที่บอกว่าจะไปดู พูดจริงๆ นะ'' เขาบอกแบบนั้นเสร็จก็ลุกเดินนำไปก่อนดื้อๆ ทิ้งผมให้ยืนงงคนเดียวซะงั้น

    อะไรของเค้าเนี่ย...







    12:45


             ผมนั่งหมดแรงบนเก้าอี้พลาสติกแข็งๆ ของร้านพิซซ่าห่างจากสนามบินไม่มากนักด้วยความความจำใจเพราะเก้าอี้นุ่มๆ ในร้านถูกจับจองไปหมดแล้ว ช่างเถอะกับเรื่องของที่นั่ง สิ่งที่ทำให้ผมโมโหสุดขีดในตอนนี้คืออาหารที่สั่งไปยังไม่ถึงคิวผมซักที น้ำย่อยในกระเพาะเรียกร้องจนอยากจะไล่จับพนักมากินให้รู้แล้วรู้รอด




    ผมใส่หูฟังอย่างหงุดหงิด เพิ่มระดับเสียงดังชนิดที่ไม่กลัวว่าในอนาคตหูอาจจะดับได้ กดเปิดเพลงจากเพลย์ลิสต์ที่สร้างเอาไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว นิ้วของผมเลื่อนหน้าจอเร็วๆ เพื่อหาเพลงที่อยากฟัง เยส! ในที่สุดก็เจอเพลงโปรดตลอดกาลของผม


    ''คุณลูกค้าครับ อาหารที่สั่งได้แล้วนะครับ'' เสียงทุ้มต่ำพูดอยู่เหนือศรีษะของผม ทำให้ต้องเงยหน้ามองอีกฝ่ายเพื่อจะคุยด้วย
    ''ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเอา...'' 


    พระเจ้า ผมหยุดปากที่กำลังพูดของตัวเอง 
    ทำไมพนักงานถึงหล่อมากขนาดนี้นะ? ตัวสูงพอๆ กับชอว์นแต่หุ่นบางกว่า ดวงตาสีฮาเซลดูเหมาะกับเขา ผมสีดำสนิทช่วยทำให้สัดส่วนบนหน้าเด่นชัดขึ้น จมูกโด่ง ริมฝีปากกระจับนั่น... 


    ''โอเคนะครับ?'' น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยยิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ผมเรียกสติตัวเองกลับมาเพราะสีหน้ามึนงงของเขา เผลอมองนานเกินไปแล้วสิเนี่ย ให้ตายเถอะ! 


    ''ค..ครับ ผมไปก่อนนะ'' ผมเดินออกห่างจากเขาเล็กน้อย ตรงไปที่เคาเตอร์รับของ จ่ายเงินด้วยความเร็วสุดๆ ไม่อยากอยู่นานกว่านี้แล้ว 

    ''ขอบคุณที่ใช้บริการนะคะ'' พนักงานแคชเชียร์ยิ้มให้ ผมก้มหัวขอบคุณเธอ หอบของที่สั่งไว้ในอ้อมกอด ใช้หลังดันประตูกระจกให้เปิดออก




    ''แวะมาใช้บริการอีกนะครับ'' 

    ร้ายกาจเกินไปแล้ว... ใครก็ได้ช่วยด้วยผมอยากกลับบ้าน!







    21:30




            การนอนกลิ้งไปมาบนเตียงแสนรักของตัวเองที่ไม่ได้สัมผัสมาเกือบสัปดาห์ดีจริงๆ ผมคิดเพลงที่จะใช้ประกวดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก อาจเป็นเพราะผมรู้สึกกลัวด้วยนี่สิ... บ้านทั้งหลังมีแค่ผมตัวคนเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นแบบนี้มาหลายปีตั้งแต่ผมย้ายมาเรียนที่แอลเอ 

    แต่ทั้งหมดเพราะชาร์ลีชวนผมไปดูหนังผีเมื่อตอนหัวค่ำต่างหาก ยัยบ้านั่นกลับหอไปนอนกอดรูมเมต ส่วนผมมีแต่หมอนข้างเน่าๆ เท่านั้น ปีใหม่แท้ๆ ทำไมข้างบ้านถึงเงียบขนาดนี้นะ



    ตื่อดึ้ง!


    บ้าเอ้ย เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ทำผมหัวใจจะวาย ข้อความจากชอว์น 

    หือ เขาส่งมาหาผมเนี่ยนะ

    shawn: ทำอะไรอยู่?
    troye: นอนเล่นน่ะ มีอะไรหรอ
    shawn: *ส่งรูปภาพ
               : ทายหน่อยว่าอยู่ที่ไหน
    troye: นายจะอยู่ไหนได้ ออสเตรเลียแน่นอนสิ
    shawn: ผิด อยู่แอลเอต่างหาก
    troye: แอลเอ... แอลเอหรอ!?
    shawn: เจอกันที่โรงเรียนนะ ;)

    เขาไม่ได้อำผมเล่นหรอกใช่มั้ย อีกสามวันถึงจะเปิดเรียน ถ้าเจอกันจริงๆ ที่โรงเรียนผมต้องทำตัวยังไงดีล่ะ ไม่เคยมีญาติจากออสเตรเลียมาเรียนที่เดียวกันมาก่อนเลย




    กริ๊ง กริ๊ง 



    เสียงเรียกเข้าและแรงสั่นในมือ ชื่อที่ถูกบันทึกไว้ว่า ชาร์ลีสุดสวย ปรากฎบนจอ ผมหยุดคิดเรื่องชอว์น กดรับสายและกรอกเสียงเนือยๆ ลงไป

    "ฮัลโหล ว่าไง" ผมล้มตัวลงนอน วางโทรศัพท์ไว้บนอกแล้วกดเปิดลำโพง ก่อนจะหยิบหนังสือบนโต๊ะหัวเตียงที่ค้างไว้มาอ่านต่อ


    "ทรอย!!! รู้หรือยังเรื่องหลานชายอาจารย์วิชาภาษาอังกฤษน่ะ" เสียงแหลมๆ ของเพื่อนสนิทดังมาก ผมตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่เอามาแนบหู

    ''ไม่สนใจ มันน่าตื่นเต้นมากหรือไง ทำไมเสียงดังขนาดนี้" 

    ''น่าตื่นเต้นสิ เพราะเขาหล่อสุดขั้วไปเลย" ชาร์ลีพูดด้วยน้ำเสียงล่องลอยจนผมอยากเห็นหน้าหลานชายอาจารย์ที่ว่าแล้วเนี่ย

    "หุ่นดีมาก อายุยี่สิบสี่ปี  เป็นนายแบบไม่พอทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านพิซซ่าด้วยล่ะ" เธอพูดต่อแต่เอ๊ะ... ทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นๆ ขึ้นมานะ


    "เธอไปเจอมาจากไหนชาร์ลี" ตอนนี้ความสนใจผมพุ่งพล่านสุดๆ อมปิดหนังสือแล้วตั้งใจฟัง

    "ไหนบอกไม่สนใจไง ถามใหญ่เลยนะยะ" เธอทำเสียงล้อเลียน


    "อยากรู้แล้วนี่ไง เล่าซักทีเถอะ!" 
    "ก็ได้ๆ วันนี้มีคนเจอเขากับอาจารย์ที่ร้านพิซซ่าน่ะ ชื่อเจคอบ คุยกันเรื่องเด็กผู้ชายที่อาจารย์เจอตอนกำลังจะเข้าร้านพอดี พอบอกว่าเป็นลูกศิษย์เขาดูสนใจมากๆ เลย" 


    สมองหยุดทำงานชั่วขณะ สิ่งที่ชาร์ลีพูดเข้าหูผมแค่บางส่วนเท่านั้น ใบหน้าของพนักงานที่ร้านพิซซ่าเมื่อเที่ยงถูกฉายซ้ำๆ ไปมาในหัวไม่หยุด


    "ส่งรูปมาให้หน่อยนะ ฉันวางก่อน" ผมไม่ได้รอให้เธอตอบ หมอนข้างถูกจับมากอดรัดจนแน่น สายตาของผมจับจ้องที่หน้าจอรอข้อความ




    ตื่อดึ้ง!

    เร็วกว่าสมองก็มือผมที่คว้าแชทมาเปิดดูรูปนี่ล่ะ 


    .....
    from ชาร์ลีสุดสวย: ฉันมีไอจีของเขานะ jacobbix หล่อมาก!





    ผมไม่ได้ฝันอยู่ใช่มั้ย เขาคือคนเดียวกับที่ผมเจอวันนี้จริงๆ ด้วย!




    troye: ชาร์ลี ฉันรักเธอ







    TBC.


    _________________________________________



    ฝากติดตามด้วยนะค้าบ
    ติดแท็กพูดคุยในทวิต #ซวทพจนท <3
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
queeneisblume (@queeneisblume)
ชอบภาษาน้องสกายจัง อ่านแล้วลื่นไหลดีค่ะ ตอนแรกนึกว่าชอว์นจะเป็นพระเอกแล้วถ้าไม่ลืมว่าคู่หลักคือทราคอบ5555 แต่ชอว์นมีใจใช่มั้ย ชั้นดูออก!!!! รอนะคะ จุ๊บๆ
ignorance is bliss (@olddirtytshirtj)
@queeneisblume ขอบคุณนะคะพี่ฟ้า แงๆ จะพยายามแต่งต่อให้จบ ส่วนชอว์นกับทรอย หรือเจคกับทรอย ต้องรอดูนะคะ 555555555