ตลาดเพลงในประเทศจีนนั้นถือเป็นหนึ่งในตลาดเพลงใหญ่อันดับต้นๆของทวีปเอเชีย ทว่าก็ยากในการจะนำพาวงดนตรีหรือศิลปินในสังกัดเข้าไปสร้างเม็ดเงินกอบโกยกำไรได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ SM Ent. ที่มีการวางแผนและใช้ระบบของวง NCT(Neo Culture Technology) ที่มีแนวคิดของกลุ่มคือกลุ่มที่มีสมาชิกไม่จำกัดจำนวนและแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มย่อยตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก โดย WayV หรือ 威神V(อ่านว่า เวย-เฉิน-วี) หนึ่งในยูนิตย่อยของ NCT ที่รวบรวมสมาชิกชาวจีน ฮ่องกง และไทย ผสานเป็นวงบอยแบนด์ที่มีภาพลักษณ์รวมถึงความสามารถอันหลากหลาย จนสามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes ใน 12 ประเทศทั่วโลก, อันดับ 2 บนชาร์ตยอดนิยมของ QQ Music ของจีน และครองอันดับ 3 บน World Digital Song Sales Chart, อันดับ 4 บน Social 50 Chart, อันดับ 16 บน Emerging Artists Chart ของ Billboard สหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นสถิติที่ดีที่สุดของศิลปินกลุ่มชายของจีน
หลังจากก้าวแรกที่น่าจับตามองผ่านไป ในก้าวถัดมากับมินิอัลบั้มที่สองอย่าง Take Over The Moon ได้มีการปล่อยเพลงที่มีชื่อว่า Love Talk (秘语) ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษพร้อมเอ็มวีออกมาให้แฟนๆได้รับชมและรับฟังกัน เพื่อตอกย้ำความเป็นกลุ่มศิลปินจีนที่น่าจับตามอง และอาจขยายฐานแฟนคลับออกไปได้ไกลในระดับอินเตอร์
โดยเพลง Love Talk (秘语) เป็นเพลงแนวป๊อปที่ตัวเมโลดี้หวนให้เรานึกถึง Vibe แบบบอยแบนด์ในช่วงยุค 2000s อย่าง Backstreet Boy หรือ Blue เป็นอย่างมาก กับเนื้อหาเพลงที่เอ่ยถึงการพบเจอคนแปลกหน้าต่างภาษา ที่ชายหนุ่มอยากพวกเขารู้สึกตกหลุมรักและหลงใหลกับบทสนทนาที่เธอเอื้อนเอ่ยออกมา จนอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้
Baby we two distant strangers
ที่รัก เราสองคนก็เป็นเพียงคนแปลกหน้า
I know you don’t speak my language
ผมรู้ว่าคุณไม่ได้พูดภาษาเดียวกันกับผม
But I love the way she’s talking to me
แต่ผมกลับหลงรักทุกครั้งยามที่คุณพูดกับผม
Song: Love Talk (秘语) English Version
Artist: WayV (威神V)
Album: Take Over The Moon - The 2nd Mini Album
I can hear it callin’
ผมได้ยินเสียงเรียกของคุณ
Loving the way you wanna talk
หลงรักเวลาคุณอยากเริ่มต้นบทสนทนาของเรา
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Callin’
แค่เรียกผม
Something in the way you wanna talk
แล้วพูดอะไรสักอย่างที่เราจะได้พูดคุยกัน
You got me sayin’ you got me sayin’
คุณทำให้ผมอยากคุยกับคุณ
How you doing
เป็นไงบ้าง?
Tell me what’s your name
บอกผมหน่อยสิ คุณชื่ออะไรเหรอ
What’s your sign
ว่าแต่คุณราศีอะไรนะ?
Feeling like you’re into me
ทำไมผมรู้สึกเหมือนคุณเป็นส่วนหนึ่งของผม
I’m waiting I just want you to come on over where I’m staying
ผมจะรอนะ ผมแค่อยากให้คุณมาหาในที่ที่ผมอยู่ตอนนี้เท่านั้นเอง
Falling for a stranger
ตอนนี้ผมตกหลุมรักคนแปลกหน้าเข้าแล้ว
Good gracious
ใจดีกับผมจัง
I might even fly out to Vegas
ผมอาจจะต้องบินไปที่ลาสเวกัส
(catch a flight)
(ต้องจองเที่ยวบินละล่ะ)
I’m thinking maybe
ผมคิดว่าผมอาจจะทำมัน
you’d be down to do it
ส่วนคุณก็คงจะทำเหมือนกันสินะ
But you don’t know what I’m saying
แต่คุณคงไม่รู้หรอกว่าผมกำลังพูดอะไรอยู่
Got me going through the roof
อยากให้ผมพาคุณขึ้นไปสูงกว่านี้ไหม
Really don’t care what we do
ผมไม่สนใจหรอกว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่
We could fly to the moon
เราสามารถบินไปถึงดวงจันทร์ได้ด้วยซ้ำ
I see your lips moving
ผมเห็นนะว่าริมฝีปากของคุณกำลังขยับ
but we ain’t got a clue
แต่เรากลับจับใจความใดๆไม่ได้เลย
Baby we two distant strangers
ที่รัก เราสองคนก็เป็นเพียงคนแปลกหน้า
I know you don’t speak my language
ผมรู้ว่าคุณไม่ได้พูดภาษาเดียวกันกับผม
But I love the way she’s talking to me
แต่ผมกลับหลงรักทุกครั้งยามที่คุณพูดกับผม
I can hear it callin’
ผมได้ยินเสียงเรียกของคุณ
Loving the way you wanna talk
หลงรักเวลาคุณอยากเริ่มต้นบทสนทนาของเรา
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Callin’
แค่เรียกผม
Something in the way you wanna talk
แล้วพูดอะไรสักอย่างที่เราจะได้พูดคุยกัน
Call me when its after dark
เรียกหาผมได้ไหมในยามที่ความมืดเข้าปกคลุม
Something in the way you wanna talk
แล้วพูดอะไรสักอย่างที่คุณอยากจะพูดออกมา
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Max max max
we can have it all (To the max)
เรามีมันทั้งหมดได้นี่ (ไปให้สุด)
If you back back back back back it up
หรือว่าคุณจะเผื่อไว้ก็ได้
Take you where you wanna
ผมจะพาคุณไปยังที่ที่คุณต้องการ
got the gas in the tank
ตอนนี้เรามีอากาศอยู่เต็มแทงค์แล้ว
If you really wanna make it last (Git git git)
ถ้าหากคุณอยากที่จะทำมันเป็นครั้งสุดท้าย
Talks cheap I’m bout that action
พูดง่ายๆเลย ตอนนี้ผมกำลังแข่งขันอยู่
Girl can you feel the attraction
นี่ คุณไม่รู้สึกถึงแรงดึงดูดเหล่านั้นเลยเหรอ?
Baby come closer
ที่รัก ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก
I got what you want
ผมมีในสิ่งที่คุณต้องการ
I can tell that you want it
ผมสามารถเอ่ยในสิ่งที่คุณปรารถนาได้
there’s no need to front
และมันไม่จำเป็นต้องเผยออกมาให้ใครเห็น
Baby we two distant strangers
ที่รัก เราสองคนก็เป็นเพียงคนแปลกหน้า
I know you don’t speak my language
ผมรู้ว่าคุณไม่ได้พูดภาษาเดียวกันกับผม
But I love the way she’s talking to me
แต่ผมหลงรักทุกครั้งยามที่คุณพูดกับผม
I can hear it callin’
ผมได้ยินเสียงเรียกของคุณ
Loving the way you wanna talk
หลงรักเวลาคุณอยากเริ่มต้นบทสนทนาของเรา
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Callin’
แค่เรียกผม
Something in the way you wanna talk
แล้วพูดอะไรสักอย่างที่เราจะได้พูดคุยกัน
Call me when its after dark
เรียกหาผมได้ไหมในยามที่ความมืดเข้าปกคลุม
Something in the way you wanna talk
แล้วพูดอะไรสักอย่างที่คุณอยากจะพูดออกมา
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Ooh tell me babe
บอกผมมาสิที่รัก
Tell me how you like it babe
บอกผมมาว่าคุณชอบแบบไหน
I don’t even know your name
ผมไม่รู้แม้แต่ชื่อของคุณด้วยซ้ำ
I love the way you’re talking to me
แต่ผมหลงรักทุกครั้งที่คุณพูดคุยกับผม
Girl the way you move
ยามที่คุณเคลื่อนไหว
You can feel my eyes on you
คุณสามารถรู้สึกได้ถึงสายตาของผมที่กำลังจับจ้อง
ooh ooh
Do it like nobody do
ทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำมาก่อน
Tell me what you wanna hear
บอกผมมาสิว่าอะไรที่คุณอยากได้ยิน
Lemme whisper in your ear
ให้ผมได้กระซิบแผ่วเบาใกล้กับคุณ
I just wanna have you here yeah
ผมแค่อยากให้คุณอยู่กับผมที่นี่
Okay baby make it fast
โอเค เรามาทำให้มันเร็วขึ้นกันเถอะ
(make it fast right)
We could put the country on the map
เราสามารถจะวาดประเทศลงบนแผนที่ได้ด้วยซ้ำ
Run it back
ถอดใจเเล้วเหรอ
you gon have me running laps
ตอนนี้คุณมีผมอยู่ในลู่วิ่งของคุณแล้วนะ
I just
ผมก็แค่
I just want you to make it clap
แค่อยากให้คุณทำให้มันดังขึ้นอีก
(***จริงๆท่อนทั้งหมดในช่วงนี้สามารถสื่อความหมายไปในทางเพศได้ด้วยค่ะเพราะมี วลี แสลงและการใช้คำอุปมาอุปมัยที่สามารถแปลไปในทางนั้นได้ แต่เราขอแปลแบบทื่อๆและข้ามการตีความทางเพศไปนะคะ - Urszula)
One at a time baby you’re mine
ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่รัก คุณเป็นของผม
Promise that
สัญญาได้ไหม
you’ll never give it away
ว่าคุณจะไม่ปล่อยผ่านมันไปเฉยๆ
I need a sign
ผมอยากได้สัญลักษณ์อะไรสักอย่าง
Calling me up calling me yours
แล้วให้คุณร้องเรียกผม บอกว่าผมเป็นของคุณ
calling my line
เอ่ยถึงสิ่งที่ผมเคยพูด
Doing what you’re doing to me
ทำอะไรที่คุณจะทำกับผม
baby it’s a crime
ที่รัก นี่มันเป็นความผิดรึเปล่านะ
I can hear it callin’
ผมได้ยินเสียงเรียกของคุณ
Loving the way you wanna talk
หลงรักเวลาคุณอยากเริ่มต้นบทสนทนาของเรา
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Callin’ แค่เรียกผม
Something in the way you wanna talk
แล้วพูดอะไรสักอย่างที่เราจะได้พูดคุยกัน
Call me when its after dark
เรียกหาผมได้ไหมในยามที่ความมืดเข้าปกคลุม
Something in the way you wanna talk
แล้วพูดอะไรสักอย่างที่คุณอยากจะพูดออกมา
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Touch me tease me feel me up
สัมผัสผมสิ หยอกล้อกันสิ รู้สึกผมให้มากกว่านี้
Ooh tell me babe
บอกผมมาสิที่รัก
Tell me how you like it babe
บอกผมมาว่าคุณชอบแบบไหน
I don’t even know your name
ผมไม่รู้แม้แต่ชื่อของคุณด้วยซ้ำ
I love the way you’re talking to me
แต่ผมหลงรักทุกครั้งที่คุณพูดคุยกับผม
Ooh tell me babe
บอกผมมาสิที่รัก
Tell me how you like it babe
บอกผมมาว่าคุณชอบแบบไหน
I don’t even know your name
ผมไม่รู้แม้แต่ชื่อของคุณด้วยซ้ำ
I love the way you’re talking to me
แต่ผมหลงรักทุกครั้งที่คุณพูดคุยกับผม
Lyrics: lyricskpop.net
Eng-Thai Translation: URSZULA
Please take out with full credit!
นำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดด้วยนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in