ถึงคุณ –ตัวผมเมื่อปีที่แล้ว-- ผมได้รับพรมาอย่างหนึ่ง คือ การเป็นอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ ในหนึ่งวัน ผมคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าหากผมเลือกเป็นข้อความ ตัวอักษร คิดว่ามันคงสามารถจดจำและเตือนใจตัวเองได้ ผมหมายถึงตัวคุณ ดีกว่าจะไปทำอย่างอื่นแล้วมันเลือนหายไป จึงตัดสินใจใช้พรที่มีค่า เขียนจดหมายย้อนกลับมาหาคุณ -ตัวผมเมื่อปีที่แล้ว-
ผมไม่ได้มาบอกว่า เลสเตอร์จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีคหรอก เพราะหากมันดีต่อคุณ คุณคงทำอะไรสักอย่าง และผมรวยไปแล้วในตอนนี้ เท่าที่เห็น มาม่ายังคงซุกอยู่ในตู้และออกมาทักทายผมทุกเย็น
ผมรู้ดีว่าตอนนี้คุณกำลังขมักเขม้นหัดขีดเขียนบล๊อกอย่างสนุกสนาน คุณไม่ได้หวังรายได้ หรือชื่อเสียง คุณทำเพื่อความสนุกสนานอย่างแท้จริง มันเป็นโมงยามที่แสนมีค่าอย่างที่สุดที่คุณประสบพบเจอมา ผมจะบอกว่า ผ่านมาหนึ่งปีในตอนนี้ คุณกำลังเขียนนิยายของตัวเอง มีคนสนับสนุนคุณ ชื่นชอบงานคุณ และเอาใจช่วยให้คุณจะประสบความสำเร็จ... หวังว่ามันจะเป็นข่าวดีสำหรับคุณในตอนนั้น แต่เมื่อคุณเดินทางมาเป็นผมในตอนนี้ คุณรู้สึกว่า
แม่งโครตยากเลย โอ๊ะ คุณอาจสงสัย ว่าคุณมาเขียนนิยายได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้คุณกำลังอ่านบทความบันดาลใจอย่างไม่ลืมหูลืมตาและกระหน่ำเขียนแนวกำลังใจมันราวกับคุณเป็นพี่น้องกับ สตีฟ จ๊อบส์ แต่ถึงกระนั้นคุณก็คงยินดีมากมายตามที่กูรูหลายท่านสอนคุณ
"ให้ยินดีแม้เรื่องเล็กน้อย"
ผมจึงอยากเตือนคุณก่อน ว่าอย่าพึ่งดีใจ โลดเต้นเป็นคนถูกหวยหุ้น อย่าคิดบวกโลกสวย ตามสภาวะจิตใจของคุณในตอนนี้ เพราะคุณจะยังไม่สำเร็จอะไรเลย ยังค้างเติ่ง เท้งเต้ง ไร้ขอนเกาะ ลอยคอ บนความเชี่ยวกรากของกระแสอักษร ยังสับสนและถามตัวเองอยู่เสมอว่าทำอะไรอยู่ เมื่อคุณเดินทางมาเป็นผมตอนนี้คุณจะเหนื่อยยากกับปัญหาที่รายล้อม
ผมกำลังขู่คุณอยู่หรือเปล่า?
ขอบอกว่าคุณก็อย่าพึ่งคิดลบ กับสิ่งที่ผมบอกคุณไปตะกี้นี้ จนทำให้คุณเลิกหัดขีดหัดเขียน เลิกเรียงร้อยอักษร เพราะถึงแม้ผมสับสน ไม่แน่ใจ และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลายทางจะเป็นเช่นไร แต่ผมในตอนนี้ก็มีความสุขมากมายที่ได้เดินดุ่มบนเส้นทางสายน้ำหมึกและแป้นพิมพ์ มีพลังขับดันและความอยากไปให้ถึงบางจุดที่ใฝ่ฝัน
มันเป็นความฝันของคุณที่ยังไม่รู้ หรือผมเองก็ไม่รู้
ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ แต่สปอยล์ไว้ก่อนเลย
ว่ามันฟินมาก
เรื่องต่อมาที่ผมอยากบอก คุณจะได้มิตรภาพที่คุณไม่เคยคิดว่าคุณจะได้
ตื่นเต้นละสิ... มันเป็นมิตรภาพที่คุณไม่คิดฝันว่าจะได้ เป็นมิตรภาพออนไลน์ในแบบที่คุณไม่อยากเชื่อ ตอนนี้คุณเริ่มรู้จักกับบางคนแล้ว แต่คุณก็ไม่เชื่อว่าเขาเหล่านั้นเป็นเพื่อนคุณ คุณคิดว่ามันเป็นเพียงกระแสไฟที่เข้ารหัส 0 1 1 0 ที่เรียงร้อยสลับไปมา ทำให้คุณพบปะ พูดคุย ยิ้ม หัวเราะแล้วผ่านเลยไป
คุณเก็บรักษามันไว้ให้ดี
-ความจริงคุณเก็บมันไว้ดีมากนะรู้ไหม- เพราะเขาเหล่านั้นจะนำพาคุณมาเป็นผมในวันนี้ วันที่มีความสุขอย่างสนิทใจกับเขาเหล่านั้น ผมไม่อยากเอ่ยชื่อว่าเขาเหล่านั้นเป็นใคร หากบอกไปแล้ว กลัวคุณไปทำตัวสนิทแบบกระโตกกระตาก อาจทำให้เขาเหล่านั้นตื่นกลัวแล้ววิ่งเข้าพงหญ้าหนีหายไปก็ได้
อยากเตือนคุณอีก เกี่ยวกับสัมพันธ์ระหว่างคนเหล่านั้น
บางคนที่บอกเรื่องความฝันอาจใช้งานคุณอยู่
บางคนที่ประชดคุณอาจชี้ทางบางอย่าง
บางคนที่เฮฮาอย่างเดียว อาจเป็นมิตรภาพที่คุณฝันถึง
ความจริงไม่ใช่เรื่องแปลก คุณเคยรักบางคนมาก แต่ตอนนี้กลับลืมเลือนเขาไป
คุณเคยเกลียดบางคนแต่ตอนนี้ขาดกันไม่ได้มาก่อนหน้านี้แล้ว
เรื่องเหล่านี้จะเกิดดับ เวียนว่ายตีกลับมาไม่จบสิ้น
ให้คุณวางตัวเองและมองความจริง
ทุกสิ่งไม่จริงเสมอไป...
คุณงงสงสัยว่าสุดท้ายแล้วผมอยากบอกอะไรกันแน่
ทำไมไม่ชี้ชัดลงไปว่าคุณควรทำอะไรหรือไม่ทำอะไร
โถ่ พ่อหนุ่มน้อยไร้เดียงสา เมื่อมาถึงตรงนี้คุณจะรู้ว่าไม่มีอะไรง่ายเสมอไป เอาเข้าจริงผมอาจอิจฉาคุณ กลัวคุณได้ดิบดี และมีเส้นเวลาใหม่เป็นของตัวเอง ลืมเลือนผม ปล่อยมือจากผม ทอดทิ้งผม เหมือนที่ผมทำกับผมเองในหลาย ๆ ครั้ง
ผมอยากให้คุณเจ็บปวดกับเหตุการณ์บางอย่าง ร้องไห้กับโมงยามน่าเศร้าในตอนนี้ ซึมเซากับความโหดร้ายของชะตากรรม และเรียนรู้ว่าอะไรดีไม่ดีกับคุณ ผมไม่ได้เกลียดคุณหรอกนะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเข้มแข็งเมื่อต้องมายืนอยู่่ตรงนี้ สิ่งเหล่านั้นจะโอบกอดคุณจีรังกว่าความสุขใด ๆ ที่คุณเคยสัมผัสมา สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเรียนรู้ว่าชีวิตมีค่ามากแค่ไหน คุณจะรักภรรยาคุณมากว่าตอนนี้ล้านเท่า
คุณจะคิดถึงลูกของคุณมากกว่านี้พันทวี คุณจะนอนคนเดียวเปล่าเปลี่ยว เงียบเหงาในห้องสี่เหลี่ยมไร้ชีวิต แล้วเอามือก่ายหน้าผากหาทางออกจากสิ่งที่เป็น
โถ่ ๆ ๆ พ่อหนุ่มน้อยไร้เดียงสา
อุ๊ย!..
หวังว่าผมคงไม่พูดมากเกินความจำเป็น จนคุณไม่กล้าเดินมาข้างหน้า ณ จุดที่ผมยืนตรงนี้นะ...
คุณคงอยากถามว่าทำไมผมต้องมาบอกคุณ คนที่อยู่ย้อนหลังไปเพียงหนึ่งปี
ตอนแรกผมคิดว่าอยากจะย้อนไปบอกสักสามสิบปีที่แล้ว แต่เมื่อไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้ว สารัตตะ อย่างถี่ถ้วนพบว่า พ่อแม่เคยสั่งสอนเรา เตือนเราในบางสิ่ง บอกเราในบางอย่างมาตั้งแต่แบเบาะ แต่ผม -หรือคุณ- ก็ยังเบะปากบ้าใบ้ วิ่งหนีหายไปไกลจากอ้อมกอดและถ้อยทำนองของความห่วงใย กระโดดบึ่งเข้าหยอกล้อกับกองไฟเรื่อยมา ดังนั้นหนึ่งปี น่าจะมีค่าเพียงพอ และดีที่สุดที่จะตักเตือนกันได้
สุดท้าย ท้ายสุดจริง ๆ ตามเวลาที่พอจะมี
ผมที่นั่งพร่ำบอกอนาคตของคุณ-ที่เป็นอดีตของผม-นั้น ก็ยังไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงกับผมในตอนนี้เลย มันอาจจะเป็นจดหมายเตือนคุณที่มีหน้าที่เตือนผมเองก็ได้ ไม่ได้มีค่าให้เปลี่ยนแปลงอะไรผมในตอนนี้เลย หรือหากมันจะมีพลังบางอย่างที่ผลักดันผมออกมาจากสิ่งไม่ดีตลอดปีที่ผ่านมา ผมเองก็ไม่แน่ใจว่า วินาทีต่อไป ผมจะทำอะไรพลาดอีก จะล้มบาดเจ็บร้องไห้ หรือแม้กระทั่งจะล้มตายหายไปจากโลกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
มันเป็นเพียงแต่ถ้อยอักษรที่พร่ำเพ้อกับคุณ กับผมให้รู้ -ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว-
เป็นเพียงควันบุหรี่ที่ปลิวหายละลายไปกับอากาศ
มันอาจไม่มีค่ากับคุณเลย
เพราะคุณก็จะมีชีวิตในรูปแบบ
และวันเวลาของคุณต่อไป
ส่วนผมก็จะย่ำเดินก้าวไปในวิถีของผม
ผมจะไม่บอกว่ารักคุณหรอกแต่จะบอกให้คุณรักคนที่รักคุณให้มาก ๆ เมื่อคุณเสียพวกเขาไป คุณจะเสียใจมากกว่าที่คุณเสียชีวิตเสียอีก
ฝากบอกภรรยาของคุณด้วยว่า วันพรุ่งนี้ของเธอนั้นจะลำบากกว่านี้เยอะ แต่ให้เชื่อใจ มั่นใจว่าผม--ตัวคุณในอนาคต-- จะไม่ยอมปล่อยมือ และจะทำทุกอย่างให้เธอและลูก ๆ มีความสุข
ฝากคุณหอมแก้มเด็กน้อยทั้งสอง พูดกับเขาด้วยความไพเราะว่า "พ่อรักลูกมาก จะทำทุกอย่างให้ลิงน้อยมีความสุข" อ้อ อย่าลืมร้องเพลง
"หลับตา" ให้เขาฟังด้วย
คุณอาจยังไม่เคยฟังในตอนนี้ แต่ถ้าคุณได้ฟังคุณจะชอบ เชื่อผม
"หลับตาสิที่รัก ในวงแขนของฉัน จะไม่มีผู้ใดคิด ทำร้ายเธอได้"
...ขอบคุณมากที่คุณสละเวลาอ่านจดหมายของผม
เข้มแข็งกับทุกเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนะครับ
ผมรอคุณอยู่ในอีกปีหนึ่ง และหวังว่า
ผมจะได้รับจดหมายจากตัวผมเองในปีต่อไปด้วย
ผมจะไปก่อนนะ ก้าวตามมาละกัน...
ยิ้มสิ...อย่าเศร้า มันไม่ได้เลวร้ายหรอกกับสิ่งที่คุณจะเจอการ
ที่คุณคิดจะหนีจากมันต่างหากที่เลวร้ายกว่า
ยิ้มนะ ^^บาย
--บทความส่งประกวดกับ ภาพยนต์ แฟนเดย์--
--ได้รางวัลเป็นตั๋วหนัง ที่ไม่มีวันได้ไปดู--
--แฟนเดย์มั้ยละมึง!!--
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in