เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทิวาสวัสดิ์WITCHARIN NIRANAMKUL
แผนสำรอง
  • ผมเป็นคนที่เกลียดการทำอะไรที่อยู่ในเส้นตาย
    การที่ใครพาผมไปทำอะไรแบบนั้น
    มันทำให้ผมรู้สึกเครียดโดยใช่เหตุ
    หลาย ๆ ครั้ง งานมักออกมาเป็นที่ไม่น่าพอใจอยู่เสมอ
    เพราะการเนรมิตคืนมหัศจรรย์ สร้างกรุงโรมในวันเดียว

    มันเป็นกรุงโรมที่พร้อมจะถล่มอยู่เสมอ
    และความท้าทายคือ ผมจะดึงคนในทีมผม
    สร้างกรุงโรมที่อยู่ในแดนแฟนตาซีขึ้นมา

    ผลงานที่ออกมา ควรจะออกมาจากการที่ได้ใช้เวลาอยู่กับมัน
    ได้ทำความเข้าใจกับมัน ทุกผลงานที่ออกเป็นรุปเป็นร่างมา
    อย่างน้อยควรมีความรู้สึกผูกพันธ์จากการสร้างมันขึ้นมา
    แล้วภาคภูมิใจกับเวลาที่ได้ใช้ไป

    ผมตั้งฉายาให้ตัวเองว่านกฮูกราตรี
    ร่างกายของผมถูกแบ่งเวลานอนออกเป็นสองช่วง
    คือสี่ชั่วโมงกลางวัน และสี่ชั่วโมงกลางคืน

    ช่วงเวลาที่ผมจะทำงานได้ดีที่สุดคือ ช่วงตีหนึ่งถึงตีสาม
    และช่วงเวลาที่นอนหลับแล้วตื่นมามีพลังงานที่สุดคือ 
    ช่วงเวลาที่เข็มสั้นชี้เลขสี่จนถึงเลขเจ็ด ทั้งกลางวันและกลางคืน

    ผมเลยดูเป็นคนมีพลังงานในการทำงานเต็มเปี่ยมอยู่ตลอดเวลา
    ข้อมูลความรู้ใหม่ ๆ ผมสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นมาก
    แล้วช่วงวัยขอองการเป็นนักศึกษา
    ผมก็แทบจะเป็นอาจารย์อยู่เหมือนกัน

    มีเพื่อนที่ต้องการให้ผมไปสอนเนื้อหาความรู้ที่ผมถนัด
    และผมก็ไม่อยากปฏิเสธเลย เพราะนั่นคือหนทางที่ดีที่สุด
    ที่จะพิสูจว่าสิ่งที่ผมเรียนรู้มามันเยอะพอจนแบ่งปันได้มากแค่ไหน
    ผลลัพธ์คือ อยู่ที่ว่าเพื่อนร้อง อ๋อ ออกมาไหม

    ผมทำตัวน่าหมั่นไส้อยู่หนึ่งอย่าง
    คือถ้าใครนัดอะไรกระทันหัน ผมจะด่าทันที
    และถ้าใครต้องการทำอะไรโดยเวลาไม่ชัดเจน
    ผมก็ด่าเหมือนกัน เพราะผมถือว่าเวลามีค่าที่สุด
    มากกว่าเงิน ณ ช่วงวัยของการศึกษา
    ผมจึงให้เพื่อนนัดเวลาและสถานที่โดยชัดเจน
    แต่ผมก็จะยืดหยุ่นเวลาอยู่เสมอ
    ถามว่าจะให้ระบุขอบเขตของเวลาไปทำไม

    ทั้งหมดนั้นก็เพื่อ แผนสำรอง
    ในหนึ่งวันมันมีอะไรที่ต้องทำเยอะมากในสิ่งที่ควรจะเป็น
    การรู้เวลาอย่างแน่ชัดจะทำให้แผนสำรองปรากฎ
    และจะไม่เกิดนัดซ้อนกันจนใช้พลังงานร่างกายสิ้นเปลือง
    เพราะการพักผ่อนของผมมันผิดหลักการของนาฬิกาชีวิต

    แต่ส่งประสิทธิภาพออกมาให้เห็นแบบชัดเจนที่สุด
    เพราะฉะนั้น ผมจะเตรียมเนื้อหาและศึกษามาเพิ่มเติม
    เพื่อที่จะแบ่งปันความรู้นั้นต่อ และนั่นก็เป็นการทบทวนความรู้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

    เมื่อหลาย ๆ ครั้งเข้า ใจผมก็เริ่มอยากรู้ว่าถ้าเป็นอาจารย์
    ผมจะถูกนักศึกษานินทาไปทิศทางไหนกันนะ
    แต่ก็ต้องหยุดไว้เพียงเท่านั้น
    เพราะภาพของศาสตราจารย์ เซอจิโอ จากหนังเรื่อง ทรชนคนปล้นโลก
    ปรากฎขึ้นมาในหัวของผม
    ผมเลยมีความคิดที่ว่า ไม่ว่ายังไง แผนสำรองก็จำเป็นจริง ๆ นั่นแหละ

    ผมอยากมีความสามารถในการคิดแผนสำรอง
    ที่รองรับทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
    จุดประสงค์ ก็เพื่อที่จะทำให้ร่างกายและจิตใจเหนื่อยน้อยลง
    และการพักผ่อนในเวลาที่จำกัด ยังคงได้ผลอยู่

    เมื่อจบจากการเป็นนักศึกษา ประกอบกับการฝึกวางแผนสำรองอยู่สองปี
    แผนส่วนมากมักไม่ได้ใช้หรอก แต่ผมกลับสนุกไปกับการวางแผนมากกว่า
    และโอกาสสำคัญก็มาถึง ผมได้ไปเป็นวิทยากรในด้านของการอธิบายหลักการวางแผนธุรกิจ
    การคิดเผื่อในหลายแง่หลายมุม และทฤษฎีใหม่ที่ผมคิดขึ้นมา
    เป็นหลักการที่ทำให้บริษัทได้ผลลัพธ์บางอย่างที่น่าทึ่ง
    และนั่นจึงเกิดการแย่งชิงตัวผมไปอยู่ช่วงหนึ่ง
    แต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ เพราะผมไม่มีแผนสำรองในการรับมือสิ่งนี้
    ผมเลยต้องหาทางออกที่ดีที่สุด และบังเอิญไปพบกับนักธุรกิจลูกครึ่งชาวญี่ปุ่น-สเปน-ไทยคนหนึ่งเข้า

    ครั้งแรกที่เจอกันผมแทบจำไม่ได้หรอก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชายที่มีสเน่ห์เนื้อหอมสุด ๆ
    ที่เราเข้ากันได้ดีเป็นเพราะเรามีทฤษฎีที่คล้ายคลึงกัน
    และเมื่อลองนำทฤษฎีของผม และทฤษฎีของเขามาผสานให้ลงล็อก
    เหมือนเล่นเกมต่อจิ๊กซอว์ ก็ปรากฎหลักการใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจไปได้รอดในยุคสมัยที่การแข่งขันสูงลิ่ว
    เป็นการพาบริษัทและองค์กรเติบโตไปอีกขั้น
    และทฤษฎีนี้ ปัญหาจะอยู่ที่ว่า ใครจะวางแผนสำรองได้ดีขนาดไหน
    ทฤษฎีแผนสำรองจึงมีมากมายหลายแผน
    แต่หลัก ๆ คือมีอยู่สามแผน และนี่คือทฤษฎีที่ลูกครึ่งชาวญี่ปุ่น-สเปน-ไทย เพื่อนซี้ของผมตั้งชื่อเล่น
    "ปลุกนกฮูกยามทิวา"

    เป็นทฤษฎีบ้าบอ ๆ ของคนสองคนที่ทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ หลุดโลก
    และแน่นอนว่า ผมก็ร่วมเป็นวิทยากรในการบรรยายเรื่องนี้ในหลายเวที
    จนมีชุดสูทอยู่เต็มตู้ และรองเท้าหนังอีกหลากหลายสไตล์

    เป็นช่วงวัยยี่สิบเจ็ดปีลากยาวมาถึงวัยสามสิบปี
    เป็นสามปีที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานจนลืมวันลืมคืน
    ผมใช้เวลายี่สิบสี่ชั่วโมงแบบยืดหยุ่นและคุ้มค่าที่สุดเท่าที่ทำได้
    และมีช่วงเวลาโอเวอร์โดสเหมือนกัน
    ที่บางครั้งก็เอาอะไรแทบไม่ทัน และต้องงั้นแผนสำรองที่อันตรายออกมาใช้
    และการเป็นวิทยากรก็ยังคงอยู่ แต่ก็ต้องทำให้เบาบางลง
    ค่าตัวเลยพุ่งกระฉูด เพราะคนที่เข้าใจทฤษฎีนี้อย่างลึกซึ้งมีอยู่สองคนเท่านั้น
    และการทำความเข้าใจทฤษฎีนี้เหมือนเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์
    ที่บางครั้งก็มีสูตรตายตัว และต้องดูตารางเพื่อคำนวณ

     จนผมพักงานในช่วงวัยสามสิบประกอบการเข้ารับการผ่าตัด
    และต้องพักฟื้นนานมาก หลังจากนั้นผมก็อยู่ทำงานนานขึ้นกว่าเดิม
    เพราะต้องทำโปรเจกต์ใหญ่ให้ออกมาดีก่อนหมดปี
    ผมมีทีมที่ดีมาก ๆ นับเป็นความโชคดีที่สุดในการทำงานของผม
    ทีมผมมีทั้งหมดสี่คนรวมผม และหลายครั้งต้องดึงคนอื่นมาเป็นทีมชั่วคราว
    เพื่อแก้ปัญหากันไปทีละขั้น
    การทำงานของเราสี่คนมันสุดโต่ง
    คนหนึ่งทำงานเหมือนสิงโต
    อีกคนทำงานเหมือนหมี
    อีกคนทำงานเหมือนเหยี่ยว
    และผมทำงานแบบนกฮูกราตรี
    ต่อให้มีบางอย่างที่ติดขัด แต่เราสี่คนก้พร้อมที่จะช่วยกันแก้ปัญหา
    และไม่ใช้เพราะเงิน เป็นเพราะต้องการให้ผลงานออกมาดี
    เพื่อเงินที่ดีกว่า และเผื่อลุ้นกันว่าแผนสำรองของใครจะได้ถูกนำมาใช้บ้าง

    เรื่องของแผนสำรองมันเยอะแยะมากมายก่ายกอง
    แต่แผนสำรองของผมจริง ๆ มันถูกวางขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้ว
    และตอนนี้มันก็กำลังช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
    ออกมาได้ดีจนน่าตกใจเลยล่ะ

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in