บางครั้งคำพูดมันมีอิทธิพลและพลังบางอย่าง
ที่ผมอาจคาดไม่ถึง
ผมเป็นคนที่ชอบเล่นคำภาษาไทย
และได้รับความสามารถนี้มาในตอนเป็นเด็ก
วัยเก้าขวบผมเป็นตัวแทนของระดับประถมต้น
ในรายการแข่งขัน "เรียงความคัดลายมือ"
ไม่ใช่แค่ลายมือต้องสวยเท่านั้น
จินตนาการและเหตุผลเป็นเรื่องสำคัญมากในการแข่งขันของสนามนี้
และครั้งหนึ่งผมก็คว้าอันดับที่หนึ่งมาครอง
แม้ว่าวันนั้นผมไม่ได้รู้สึกเต็มที่ในการแข่งขัน
ผมไม่คาดหวังอะไรทั้งนั้น
เพราะคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว
และความไม่คาดหวังก็แผลงฤทธิ์
ผมกลายเป็นคนที่ถูกชื่นชมจากครูอาจารย์
รวมถึงผู้อำนวยการด้วย
และรางวัลที่ได้รับมาก็ยังคงถูกประดับไว้
ในห้องของผู้อำนวยการ
หลังจากนั้นผมไม่คิดที่จะลงสนามนี้อีก
แต่ทุกครั้งที่ว่าง ๆ และสมองโล่ง ๆ
การได้จองมองสิ่งใดสักสิ่ง
ก็ทำให้หัวผมจินตนาการเรื่องราวต่าง ๆ
ราวกับกำลังเพลิดเพลินอยู่ในโลกใบใหม่
ผมคิดว่าผมเป็นคนที่จิตใจอ่อนแอมาก ๆ
และเคยคิดว่าตัวเองเป็นโรคหลายบุคลิก
จนสามารถสร้างตัวตนได้เป็นสิบแบบ
สิบบุคลิกหรือมากกว่านั้น
เพื่อให้ใช้ชีวิตแต่ละวันไปได้โดยให้มีความเจ็บปวดให้น้อยที่สุด
ทุกครั้งที่เกิดความเจ็บปวดไม่ว่าเรื่องใด
ผมก็จะพยายามสร้างตัวตนใหม่เพื่อมาลบสิ่งไม่ดีเหล่านั้น
จนกระทั่งมันเยอะเกินไป
กลายเป็นว่าผมลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
การที่ชอบคิดถึงอดีตคือผลกระทบของการกระทำนี้
ความรู้สึกเสียดายเวลาที่เอาแต่หลบหนี
ฝ่าฟันสิ่งต่าง ๆ ด้วยความครึ่ง ๆ กลาง ๆ
ใครต่างบอกว่าผมเองก็เป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง
คำตอบคือใช่ แต่ . . . การที่จะได้อยู่คนเดียวจริง ๆ
มันเป็นไปแทบไม่ได้เลย
แต่มันก็เป็นไปแล้ว
เหตุการณ์เมษายี่สิบเอ็ด
เป็นครั้งหนึ่งที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวนานที่สุด
นั่นคือระยะเวลาเกือบ สามเดือน
เป็นโอกาสที่ทำให้ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น
เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง
และนั้นก็ทำให้เกิดสิ่งที่ผมเรียกว่า . . .
ไพ่ที่เหนือกว่า
ถ้ารู้สึกงง ๆ ว่า ไพ่ที่เหนือกว่าในนิยามของผมคืออะไร
ณ ช่วงเวลาหนึ่งในแพลตฟอร์มวีดีโอ
คอนเทนต์หนึ่งที่คนมักทำกัน
นั่นคือ ONE DAY WITH ME
และแน่นอนว่า การอยู่คนเดียวยังไงก็ต้อง "เหงา" แน่นอน
ผมเลยตัดสินใจถ่ายและตัดต่อวีดีโอนี้ลงไป
แต่ไม่นานผมเกรงว่าเนื้อหามันอาจจะไปกระทบกับใครคนใดคนหนึ่ง
เพราะมันมีคำถามที่ชวนสับสนอยู่ ผมเลยปิดเป็นวิดีโอส่วนตัวไว้
หลังจากวีดีโอถูกอัพโหลดได้สองปี
นั้นคือช่วงที่ผมอยู่ในความดิ่ง
ราวกับกำลังจมลงไปใต้ทะเลเรื่อย ๆ
ความหนาวเหน็บเกาะกินจิตใจจนแทบไม่อยากใช้ชีวิต
แต่แล้วก็กลับมาเจอวีดีโอนี้ ในวัย สิบเก้าปี
เมื่อถึงช่วงเวลาที่ตั้งคำถาม
เหมือนตัวเองตั้งใจเว้นว่างไว้เพื่อตอบ
ผมน้ำตาไหลออกมา
ร่างกายได้ใช้น้ำตาขจัดสิ่งที่เป็นพิษทางอารมณ์ออกไปจนหมด
และประโยคที่ทำให้ผมต้องรู้สึกขนลุกที่สุดคือ
"ผมในวันนี้จะทำให้คุณเป็นคุณในวันนี้"
และอีกหลายประโยคที่ทั้งช่วยย้ำเตือนว่าสิ่งที่กำลังทำลงไป
มันไม่เคยไร้ประโยชน์ รวมถึงให้กำลังใจแบบอ้อม ๆ ที่ได้ผลที่สุด
ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่จนกู่ไม่กลับแบบนี้
ผมไม่รู้จะบอกยังไง . . .
แต่ถูกคำถามที่เจอ
ราวกับรู้ดีกว่าผมจะกลับมาดู ณ ช่วงเวลาที่รู้สึกแบบไหน
ต่อให้ผมรู้สึกมีความสุขมาก ๆ วีดีโอนี้ก็จะทำให้ผมสตั้นอยู่ดี
มันมีประโยคหนึ่งที่ว่า
"ผมขอไม่คาดหวัง และ ไม่ขอสัญญาอะไรทั้งนั้น"
และนั่นแหละ ผมเป็นคนเกลียดการที่จะต้องสัญญา
อาจฟังดูเห็นแก่ตัว การสัญญาคือจุดอ่อนที่สุด
ที่สามารถตัดความสัมพันธ์ ความไว้ใจให้ขาดสบั้นได้
หากผมไม่มั่นใจ ผมจะไม่สัญญาอะไรเลย
แต่จะบอกว่า จะทำเท่าที่ความสามารถนี้มี
และจะไปให้สุดจนถึงความสามารถสุดท้าย
จนกว่าจะมืดแปดด้านจริง ๆ แต่จะไม่สัญญา แล้วขอลองทำเลย
คำตอบอยู่ที่ผลลัพธ์
บางครั้งผมก็เป็นคนบ้าบิ่น
ที่ยอมเสียแรงไปมากมาย
เพื่อที่จะรู้ว่านี่ไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง
ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นผมก็จะไม่ยอมทิ้งเส้นทางนั้นไปดื้อ ๆ หรอก
ผมแค่อยากลองเส้นทางใหม่
และถ้าหากโอกาสกลับมาหาอีก ผมก็พร้อมจะไปต่อ
ชีวิตผมเลยวนเวียนอยู่กับเรื่องบางเรื่อง
แบบติดต่อกัน ทำอะไรคล้าย ๆ กัน
แต่ท้าทายขึ้น และ ดีขึ้นในทุก ๆ ครั้ง
และคนที่รู้จักผมดีแต่ไม่ได้รู้จักทั้งหมดคือตัวผมในอดีต
ส่วนคนที่คอยให้กำลังใจรอช่วงเวลาให้ผมได้ศึกษาและพัฒนาตัวเองคือ ตัวผมในอนาคต
ส่วนคนที่ชอบมานั่งสับสนและกังวลไปเสียทุกอย่าง คือตัวผมในปัจจุบัน
คนกลางใช้เวลาได้สนุกที่สุดเลยล่ะ
ผมพยามทำให้ทุก ๆ วันให้เป็นวันที่ดี
เพื่อให้ตัวผมในอนาคตได้คิดถึงช่วงเวลาดี ๆ อย่างภาคภูมิใจ
และเพื่อตัวผมเองในอนาคตที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างสนุกมากกว่าเดิม
ถึงแม่ว่าตอนนี้ผมจะไม่รู้ว่าผมมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
คำตอบคงขึ้นอยู่กับความพอใจนั่นแหละ
ตอนนี้ผมยังให้คำตอบไม่ได้
เพราะคนเดียวที่รู้ คือตัวผมเองในอนาคตเท่านั้น
ผมในตอนนี้ต้องถือไพ่ให้เหนือกว่าตัวเองในอนาคต
ชีวิตมันจะสนุกขึ้นเยอะเลยล่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in