เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทิวาสวัสดิ์WITCHARIN NIRANAMKUL
ความไม่คาดหวัง
  • ผมอยากรู้มากเลยว่าคุณผ่านมรสุมแห่งพายุนี้ไปได้ยังไงกัน
    ตัวผมที่เจออยู่ตอนนี้ อยากได้คำตอบเหลือเกิน
    เพียงแต่ . . . คุณบอกผมไม่ได้
    และบางทีผมก็อยากผ่านมันไปเองด้วย

    ณ ห้องพักเล็ก ๆ ที่ผมอาศัยอยู่
    มันคือพื้นที่ปลอดภัย
    ที่พาผมมาเจอพวกคุณอีกครั้ง
    และเป็นอีกครั้งที่ย้ำเตือนผมว่า
    ผมไม่ควรมีความรักเลย

    เพราะความรักมันมักจะทำให้ . . .
    ไม่ผมก็เธอ ที่ชีวิตใครคนใดคนนึงต้องพังทลายไป
    และส่วนใหญ่ก็เป็นเธอ
    ฝ่ายผมแค่นั่งสับสนกับชีวิต
    ราวกับตายไปดื้อ ๆ ทั้งอย่างนั้น ช่วงเวลาที่มีร่วมกัน
    มันกลายเป็นช่วงเวลาที่หายไปในชีวิตของผม
    ข้อสรุป คือ ผมไม่เหมาะจะมีความรักเลย

    เว้นซะแต่ว่ามันจะเป็นเหมือนจิ๊กซอว์
    ที่ต่อลงในช่องว่างอย่างพอดี

    ผมผิดหวังกับความรักมาก็หลายครั้ง
    และหลาย ๆ ครั้งที่ผมพึ่งความหวังในการดำเนินชีวิต

    ความหวังสำหรับผมเป็นดั่งนักฆ่าที่ไว้ใจได้
    แต่สุดท้าย ตัวผมนี่แหละคือเป้าหมายของนักฆ่า
    บทสรุปคือ ผมต้องมาพบกับ "ความผิดหวัง"

    และสิ่งหนึ่งที่ผมค้นพบ
    นั่นคือ "ความไม่คาดหวัง"
    ผมได้ดูหนังเรื่องสไปเดอร์แมน
    และแฟนสาวของเขาได้กล่าวไว้ว่า
    "คาดไว้ก่อนว่าจะผิดหวัง แล้วจะไม่ผิดหวัง"
    เป็นประโยคที่ฝังหัวผม . . .
    และผมก็ไม่มีอะไรจะมาโต้แย้งโต้เถียงประโยคนี้ได้

    ความไม่คาดหวังของผมมันเริ่มต้น
    ตอนที่ผมติดศูนย์ครั้งแรกในชีวิต
    และกำลังอยู่ในรั้วมหาลัย
    ความรู้สึกแรก คือ ผิดหวังในตัวเองชะมัด
    ต่อให้คาดไว้แล้ว่าจะผิดหวัง แต่ลึก ๆ มันก็มีความคาดหวังอยู่ดี

    ผมบอกตัวเองว่ามันจะเป็นศูนย์ตัวแรกและตัวสุดท้ายในชีวิต
    ผมรู้ดีว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
    และจะแก้ไขรวมไปถึงรับมือมันอย่างไร

    ชีวิตผมเป็นดั่งที่ใจปรารถนา
    นั่นคือผมไม่คาดหวังว่าจะมีชีวิตที่คล้ายช่วงเวลา
    ของยี่สิบเอ็ดเมษา แต่นั่นเกินความคาดหวังของผม
    โอกาสนั้นได้หวนกลับมาอีกครั้งเพราะคุณแม่
    ผู้ที่รู้ดีที่สุดว่าลูกชายตัวเองต้องการอะไรในชีวิต
    และสิ่งใดที่จะทำให้ลูกชายมีชีวิตได้ดีขึ้น

    คนที่ผมต้องการเอาชนะมากที่สุดในชีวิตรองจากตัวผมเอง
    คือ คุณพ่อ คุณพ่อมักทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝันได้
    นั้นแหละ ผมจึงนับถือคุณพ่อที่สุดในชีวิต

    ผมเองที่เป็นคนไม่มีใครคาดฝัน จะทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝันได้
    ปฏิญาณตนโดยไม่คาดหวังอะไร
    เพราะตั้งใจจะอยู่กับตัวเอง ศึกษาตัวเอง เข้าใจตัวเอง
    และควมคุมตัวเองให้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

    ตอนนี้การอ่านหนังสือล่วงหน้าก่อนสอบ
    ได้เกิดขึ้นกับตัวผมแล้ว
    หนึ่งคืนมหศจรรย์ก่อนสอบ
    มันจะหายไป . . .

    แม้ว่าผมจะไม่ได้ชอบการเรียน 
    แม้ว่าผมจะไม่เก่งในด้านการศึกษามากแค่ไหน

    ผมก็ไม่คาดหวังอะไรใด ๆ ว่าเส้นทางที่ไม่ได้เลือก
    จะหักหลังผม . . .
    เส้นทางนั้นได้เลือกผมให้ไปเดิน
    เขาเลือกผมเพราะเห็นบางอย่างที่ผมไม่เห็น

    ผมเป็นนักศึกษาวิศวกรรมการผลิต
    ที่ตอนแรกก็ผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิต
    สับสนกับหนทาง
    มีทางให้เลือกสองสิ่ง
    คือ ทิ้งทุกอย่างไปแล้วเริ่มใหม่
    กับ เดินต่อไปทั้ง ๆ อย่างนั้น
    ด้วยนิสัยของผมเอง มักจะชอบเลือกทางที่สอง
    เดินต่อไปทั้ง ๆ ที่ไม่เห็นอะไรนี่แหละ
    เพราะเหตุผลเดียว คือ เวลา
    ผมจะไม่ยอมมาเสียเวลากับความผิดหวังนี้แน่ ๆ

    แน่นอนว่าเส้นทางนี้มันมืดมน อับจนแสงสว่างจริง ๆ
    ผมก็ท้อเป็น และต้องการที่พึ่ง
    นั้นแหละคือแสงสว่างที่ปรากฎออกมา
    "ผมว่าคุณก็แค่เหนื่อย ใจผมอยากให้คุณไปต่อนะ"
    บุคคลที่อายุมากกว่าผมเพียงสองปี
    เท่ากับว่าประสบการณ์ด้านการศึกษาในเส้นทางนี้
    มีมากกว่าผมถึงสองปี ได้ให้คำแนะนำนั้นกับผม
    ผมรับฟังอย่างเปิดใจ เพราะรู้ดีว่าเขาเห็นบางอย่าง
    ในสิ่งที่ผมกำลังจะเห็นแต่มันไม่ใช่ ณ เวลาเดียวกับเขา

    ผมยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่คนนั้น
    แล้วประคับประคองตัวเองจนถึงที่สุด
    ค้นหาจุดบอดของตัวเอง
    และแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
    สุมไฟและพลังงานที่มีในเฮือกสุดท้าย

    แล้วผมก็ผ่านมันมา . . .
    จากนั้นผมก็ค้นพบว่าการไม่คาดหวังอะไรเลย
    แล้วใช้ชีวิตไปด้วยความสนุก 
    อย่างประโยคหนึ่งของพ่อที่เคยพูดกับผม
    "ถ้าคิดให้มันสนุกได้ มันก็จะสนุกเอง"
    แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ทุกเรื่อง
    แต่มันคลายความยากให้กลายเป็นง่ายเพียงเปลี่ยนความคิด

    และทุกทุกครั้งที่ผมเผชิญปัญหาแบบกระทันหัน
    คำพูดของพี่สาวก็จะประกฎราวกับกระซิบข้างหูผมว่า
    "เวลาที่ลมสงบพายุก็อาจจะเข้ามาก็ได้"
    นั่นแหละคือประโยคที่มักทำให้ผมต้องมาดูพยากรณ์
    หรือใช้เซ้นในการเช็คว่า ปัญหาอะไรมันจะเกิดขึ้น
    และมองหากระแสลมของพายุ รวมไปถึงการเตรียมแผนสำรอง
    เพื่อให้ผมต้องระดมสมองมาแก้ไขอย่างตรงไปตรงมา
    ผมต้องการแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
    เพื่อหยุดพายุให้หายไป ไม่เหลือแม้แต่ลม
    ผมไม่สามารถควบคุมพายุได้
    หลังจากพายุผ่านพ้นไป ผมก็ต้องมาเก็บซากปรักหักพังต่าง ๆ
    ที่พายุเหลือทิ้งไว้
    มันคือบทเรียน อย่างที่บอกไปว่าแล้วแต่กรณี
    ว่าจะต้องจ่ายค่าบทเรียนเหล่านั้นด้วยอะไร

    และวนมาเรื่องความรักอีกครั้ง
    ความวุ่ยวายในครั้งนี้ต่างออกไปจากทุกที
    หรือเป็นเพราะผมได้กลิ่นอายบางอย่าง
    ที่ย้ำเตือนผมไม่ให้เข้าไปยุ่ง
    แต่ความรักมันเหนือการควบคุมจริง ๆ
    "ไม่ผิดหวัง" ประโยคที่ก่อความหวังครั้งสุดท้ายในชีิวิตผม
    จากการประกาศบอกตัวเองไป
    ว่า "ต้องคาดว่าจะผิดหวังสินะ"
    รู้อะไรไหม มันคือประโยคโกหกที่ผมหลงเชื่อไปหมดทั้งใจ
    ทุกอย่างที่เคลือบแคลง ถูกเชื่อมโยง
    ประติดประต่อในคืนเดียว
    ราวกับกำลังวางแผนปล้น

    ผมปล้นใจเธอไม่สำเร็จ
    และเธอจะไม่ได้อะไรจากผมโดยไม่รู้ตัวไปอีกทั้งนั้น
    เพราะถ้าหากความรักเปรียบเสมือนการลงทุน
    ผมคือนักธุรกิจที่ล้มละลาย
    เช่นเดียวกันหากมีการพนันเกิดขึ้น
    ผมจะเป็นผู้แพ้พนัน และถังแตกทันที

    นั่นแหละที่ทำให้ผมค้นพบจริง ๆ 
    ว่าความไม่คาดหวัง
    มันรุนแรงแค่ไหน
    เมื่อมันแสดงอิทธิฤทธิ์ ออกมา

    ผมมองอยู่เพียงแค่ไม่กี่อย่างในชีวิต
    นั่นคือผมจะสามารถดื่มเบียร์ในทุก ๆ วันหยุดได้หรือเปล่า
    หรือพบจะพบเพลงใหม่ ๆ ที่ทำให้ขนลุกวาบเย็นไปถึงกระดูกสันหลัง
    และจะพบเจอหนังปล้นไหน ที่ทำให้แอนดีนนาลีนพุ่งพล่าน
    เหมือนทรชนคนปล้นโลก

    ผมเสพติดการคาดไม่ถึงมาโดยตลอด
    มันก็เท่ากับการไม่คาดหวังนั่นแหละ
    หักมุมเส้นทางตัวเอง
    ไม่ต้องคาดหวังใด ๆ 
    สนุกกับการคาดไม่ถึงของสิ่งที่ปรากฎตรงหน้า
    และยิ้มสะแหยะใส่มันต่อให้เป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in