การเดินทางของฉันเป็นไปได้สวย เพราะเดินทางถึงสถานีสยามโดยสวัสดิภาพ .. ซะที่ไหนล่ะ ฉันที่เข้าใจไปเองและเพิ่งรู้ตัวว่าการไปหอศิลป์ไม่ได้ต้องลงสถานีสยามเท่านั้น เพราะถ้าลงสถานีสนามกีฬาและออกประตู 3 ก็ไปหอศิลป์ได้เหมือนกัน แถมยังใกล้กว่าด้วย (แต่ฉันจะคิดซะว่าตัวเองไม่ได้ออกจากบ้านนานเกินไปแล้วกัน) สุดท้ายฉันก็ถึงหอศิลป์อย่างปลอดภัยและได้เจอวิวกับแพรว
หลังขึ้นลิฟต์มาที่ออฟฟิศของหอศิลป์ ฉันก็นั่งมองโต๊ะทำงานของพี่ๆ ที่นี่ด้วยความเกร็งx100 บรรยากาศในตอนนั้นไม่ว่าจะแสงไฟ ความเงียบ หรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในตอนนั้นทำให้ฉันกังวลมากขึ้น เริ่มแรกพี่ไนซ์ก็ขอดูแฟ้มสะสมผลงานของแต่ละคน ถามชื่อเล่นของพวกฉัน และถามรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนกันมา จากนั้นก็ให้ดูหนังสือของหอศิลป์ในแต่ละปี สแกนนิ้วเพื่อใช้เข้าออฟฟิศ และการถ่ายรูปทำบัตรที่ฉันไม่ได้ตั้งตัวอะไรเลย กระทั่งจะมัดผมใหม่อีกครั้ง หรือลองยิ้มให้รูปออกมาดี แต่รูปที่ออกมาก็ไม่ได้แย่หรอกนะ ฮี่ฮี่
งานแรกของพวกเราคือการออกแบบโปสเตอร์กิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งจะจัดในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งมันก็เป็นงานใหญ่กว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย หลังได้รับมอบหมายงานเสร็จและตกลงกันไว้ว่าจะส่งงานในวันพฤหัส พี่ไนซ์ก็ให้พวกฉันกลับบ้านก่อนเวลาได้เพื่อไปทำงานต่อที่บ้าน
และการหลงทางของฉันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะตอนที่ลงสถานีสยามเพื่อจะต่อรถไปลงสถานีหมอชิต ฉันก็สับสนชั่วคราวว่าต้องนั่งไปทางเคหะฯ (แต่จริงๆ ต้องนั่งไปทางคูคต) และกว่าจะรู้ตัวว่านั่งผิดฝั่ง ฉันก็มาถึงสถานีชิดลมพอดี สุดท้ายเลยตัดสินใจนั่งต่อไปสถานีนานาถึงได้ออกจากขบวนเพื่อย้ายฝั่ง
วันแรกของฉันกับการเป็นนิสิตฝึกงาน และการเดินทางที่วุ่นวายเพราะตัวฉันเองจึงจบลงเท่านี้
บทเรียน (01) ― มีสติในการเดินทาง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in