ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ซีรีส์เทพเซียนเรื่องแรกที่ดู แต่ด้วยเพิ่งเริ่มเขียนก็ขอเปิดด้วยเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน
ของรักของข้า LoveBetweenFairyandDevil เป็นซีรีย์ที่สร้างขึ้นจากนิยายที่เขียนโดย “#จิ่วลู่เฟยเซียง” นี่ก็ไม่ได้อ่านหนังสือแบบจริงจังมานานแล้วจึงห่างหายจะการอัพเดตลิสต์นิยายแปลใหม่ๆ หลังๆจะอ่านเป็นวรรณกรรมญี่ปุ่นซะมากกว่า ถ้าวันหลังมีโอกาสจะเอาสิ่งที่อ่านมารีวิวให้ฟังนะ
กลับมาที่ซีรีย์ของเรา การดูซีรีย์เทพเซียนถ้าพูดกันตามตรงอย่าคาดหวังกับการตกผลึกปรัชญาแห่งชีวิต หรือแง่คิดสะท้อนสังคม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงเรื่องราวในเทพนิยายเท่านั้น ทุกอย่างคงไม่พ้นเวียนว่ายตายเกิด และการแย่งชิงในอำนาจ แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ แม้แต่เทพเซียนทั้งหลายก็ยังตัดกิเลสไม่ได้
ของรักของข้า Love Between Fairy and Devil เป็นเรื่องราวความรักระหว่างความแค้นของทั้ง 3 เผ่า เผ่าเซียน เผ่ามาร และ เผ่าเทพธิดา แน่นอนว่าคงไม่พ้นที่เผ่ามารและเทพเซียนจะตีกัน แต่ “ตงฟางชิงชาง” จอมมารแห่งเผ่าจันทราได้เพลี่ยงพล้ำโดนผนึกวิญญาณไป 3 หมื่นปี วันดีคืนดีจู่ๆก็มีเทพธิดามาปลดผนึก จากจอมมารผู้ยิ่งใหญ่คุมไฟแห่งกรรมที่ใครๆก็ต่างหวั่นกลัว นานวันๆก็กลับกลายเป็นเจ้าแมวน้อยในกำมือของเทพธิดาตัวเล็กๆ เพราะความรักของทั้งสองได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับพลังที่น่าเกรงขามของจอมมารค่อยๆหายไป แต่ความร้าวฉานระหว่างเผ่าพันธุ์ยังคงไม่จบสิ้น
เรื่องนี้ได้ DylanWang หรือ หวังเฮ่อตี้ ที่โด่งดังมาจากซีรีย์ F4 เวอร์ชั่นรีเมค มารับบทจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากที่ครั้งหนึ่งเราได้ดูเรื่อง “รักนิรันดร์ ราชันมังกร” ที่นำแสดงโดยเฮ่อตี้ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เหมาะกับเขาเหมือนเดิม ส่วนตัวเรารู้สึกว่าเฮ่อตี้เหมาะกับการแต่งชุดฮั่นฟู่มาก ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้วนิสัยของเฮ่อตี้จะขี้เล่นจน contrast กับบทที่ได้รับ ที่จะต้องหน้านิ่ง น่าเกรงขามตลอดเวลา แต่นั่นก็เป็นบทพิสูจน์แล้วว่า Dylan Wang สามารถเข้าถึงบทบาทของเขาได้อย่างไม่มีที่ติ
และบทบาทที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าจอมมารคือ แม่เทพธิดาตัวน้อย ที่ทำให้จอมมารฟื้นคืนชีพ และเปลี่ยนจอมมารผู้โหดร้ายการเป็นเจ้าแมวน้อย อีกทั้งยังเป็นผู้ดูแลโลกทั้งสามอย่าง EstherYu หรือ อวี๋ซูซิน เราไม่แน่ใจว่านี่คือครั้งแรกที่ได้ดูผลงานของเขาไหม แต่การที่รับบทเป็นเทพธิดาที่จะต้องเป็นเดอะแบกของโลกทั้งสามมันไม่ง่ายเลย อวี๋ซูซิน สามารถทำให้เราเห็นถึงพัฒนาของตัวละคร เสี่ยวหลานฮวา ไปเป็นเทพธิดาซีหลาน โดยที่สายตานั้นยังคงความทรงจำของเสี่ยวหลานฮวา
ถึงแม้ว่าตอนจบจะว่า happy ending ก็พูดได้ไม่สุด จะว่าเศร้าก็ไม่สุด แล้วแต่ผู้ชมจะตีความ แต่ความสัมพันธ์ตัวละครแต่ละตัวเกิดขึ้นคือเรื่องจริงที่สวยงาม อย่างที่ เฮ่อตี้ พิมพ์ไว้ในเว่ยโปส่วนหนึ่งว่า “ขอให้มีความสุข มีเพื่อน มีพี่น้อง มีคนซื่อสัตย์ มีความรัก และไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป” สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ ได้จากคนรอบตัว บทสร้างตัวละครแต่ละตัวขึ้นมาเทาๆ มีความดีความชั่วที่เท่าๆกัน แม้กระทั้งเทพเซียนเองก็ตาม แต่สุดท้ายแล้ว การไปสู่จุดที่ต้องสูญเสียอะไรบางอย่างจะทำให้คนเราได้ตกผลึกมากขึ้น
ที่ต้องอวยยศแบบอวยยยยย อวยจริงๆ คือ CG ที่แสนจะเว่อร์วังมากกกก CG แทบทั้งเรื่อง และ จินตนาการของนักแสดงเอง เราเคยพูดกับเพื่อนตลอดนะ ว่าเขาทำได้ยังไง เป็นเราเราต้องหลุดขำแน่ๆ เล่นบนทำสงครามกับฉากเขียวๆ แถมท่าปล่อยพลังต่างๆอีก นักแสดงต้อง Concentrate และ Profressional มากๆในระดับนึงเลย
ใจหายเหมือนกันนะเมื่อดูสองตอนสุดท้าย อยากดูอะไรแบบนี้อีกเยอะๆเลย แต่เท่าที่รู้มาจักรวาลของ “จิ่วลู่เฟยเซียง” ยังมีอีก 2 เรื่องให้ติดตาม ถ้าอิงตามนิยาย หวังว่าผู้สร้างจะไม่ทิ้งอีก 2 เรื่องนะ แล้วจะคิดถึงทั้ง ท่านจอมมาร เสี่ยวหลานฮวา ฉังเหิงเซียนจวิน และ ที่ขาดไม่ได้เลย พี่มังกรดำ พี่อ้อยพี่ฉอดสาขา เผ่าจันทรา
คะแนน 8/10 CG เอาไปเลย 100x100
ดูได้ที่ WeTV iqiyi และ กำลังจะเข้า Netflix
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in