เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber2018pampamgirl
[Chapter 1.9] Turbulence เมื่ออา(กาศ)ปั่นป่วน
  • กลับมาที่ไฟล์ทกรุงเทพ-หาดใหญ่…


    หลังจากที่คุยกับเจ้าพีระเมื่อเช้า ธาดาก็ลืมอีกฝ่ายไปซะสนิท จนกระทั่งเจอกันก่อนรายงานตัวถึงได้นึกออกว่าไฟล์ทนี้เขามีนักบินรุ่นน้องคนนี้ขึ้นบินด้วย ทำให้ธาดามีหน้าที่บังคับเครื่องบินเฉพาะขาไปขาเดียว ส่วนขากลับสามารถนั่งที่ผู้โดยสารกลับมา หรือที่เรียกว่าเดดเฮดดิ้งไพล็อตได้


    แต่เรื่องนี้เขาขออุบไว้ยังไม่บอกปรมัตถ์ตัวน้อย รอเก็บไว้เซอร์ไพร์สทีเดียวหน้างานเลยก็แล้วกัน…


    มัตถ์จะดีใจไหมนะ…


    ดังนั้น ตอนนี้นักบินผู้ช่วยที่กำลังตรวจสอบความพร้อมของห้องนักบินเที่ยวขาไปจึงต้องเป็นธาดา


    กัปตันมานพลงไปเดินดูความเรียบร้อยของเครื่องยนต์


    ส่วนพีระดอดออกมายืนหน้าประตูห้องนักบินเพื่อเหล่ผู้โดยสารสาวๆ ... เอ่อ… หมายถึงกวาดตามองทุกคนที่กำลังเข้าประตูเครื่องอย่างคร่าวๆ เพื่อเลือกผู้โดยสารที่แข็งแรง เตรียมไว้สำหรับช่วยเหลือลูกเรือในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างหาก...


    เมื่อกัปตันกลับขึ้นมาบนเครื่องและเรียกให้นักบินผู้สังเกตการณ์พีระเข้ามารับข้อมูลเบื้องต้นของเที่ยวบิน ธาดาจึงได้โอกาสออกมานอกห้องนักบิน เรียกพีระเข้าไปแทน ก่อนที่ตัวเขาจะต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งเครียดเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง


    และในขณะนั้นก็ถึงเวลาบอร์ดดิ้งของผู้โดยสารชั้นธุรกิจพอดี…


    “สวัสดีค่ะ ตรวจสอบบัตรที่นั่งด้วยค่ะ”


    แอมมี่ หัวหน้าพนักงานต้อนรับคนสวยที่ยืนทักทายผู้โดยสารอยู่หน้าประตูเครื่องยิ้มหวานให้กับทุกคน ยิ่งพอธาดาเดินออกมาจากห้องนักบิน สาวสวยเอี้ยวตัวมามองหน่อยเดียวแล้วก็ยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปใหญ่


    “น้องแอม… พี่รบกวนอะไรนิดได้ไหมครับ” ธาดากระซิบ


    .

    .

    .


    “ยินดีต้อนรับครับ ที่นั่งหมายเลขสองเค สองเจอยู่ทางด้านนี้ฝั่งซ้ายมือนะครับ”


    ธาดาขอสลับที่กับน้องเพอร์เซอร์คนสวยเมื่อเห็นพี่จิตเดินเข้ามาในงวงเทียบอยู่ลิบๆ แม้เขายังหาปรมัตถ์ไม่เจอแต่ก็แน่ใจว่าเจ้าตัวเล็กต้องอยู่ใกล้ๆ พี่จิตไม่ผิดแน่


    ดังนั้นเมื่อปรมัตถ์เงยหน้าขึ้นมาเจออาธาดาของเขายิ้มกริ่ม ยืนต้อนรับอยู่หน้าประตูแทนที่จะเป็นพี่สาวคนสวยที่หลบไปยืนข้างๆ แก้มขาวๆ กลมๆ ก็ขึ้นสีเรื่อ ส่งรอยยิ้มอายๆ ให้ผู้ใหญ่ขี้เล่นที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้


    “เดี๋ยวผมพาผู้โดยสารไปที่ที่นั่งนะครับ...”


    ธาดาทำสุ้มเสียงให้เป็นทางการเมื่อพูดกับผู้โดยสารตัวเล็กหนึ่งใหญ่หนึ่ง ผายมือไปด้านซ้ายมือก่อนจะออกเดินนำหน้า การที่เขาเรียกตัวเองว่า ‘ผม’ ต่อหน้าปรมัตถ์ ยิ่งทำให้เด็กน้อยเขินจนตัวแดงก่ำ


    หูย... น่ารัก!!!


    ทั้งธาดา แอมมี่และน้องแอร์สาวน้อยที่เดินอยู่แถวนั้นคิดในใจพร้อมๆ กันโดยไม่ได้นัดหมาย...


    วันนี้ปรมัตถ์กับพี่จิตแค่เดินทางไปกลับพร้อมธาดาจึงไม่มีสัมภาระอะไรมากมาย พอเจอที่นั่งกว้างขวางเป็นส่วนตัวข้างหน้าต่างใหญ่เบ้อเริ่มก็โดดขึ้นไปนั่งมองออกไปด้านนอกอย่างตื่นเต้น แต่ในใจก็ยังไม่ลืมว่ากำลังเขินคนที่พามาอยู่ด้วยนิดๆ เลยได้แต่กลับลงมานั่งอย่างสงบเสงี่ยม


    เด็กน้อยหยิบหมอนอิงขึ้นมากอดแก้เขินเมื่อธาดาคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วส่งยิ้มให้ แต่เพราะตัวเล็กกว่าเบาะมากและหมอนพิงหลังของที่นั่งชั้นธุรกิจก็ใบใหญ่เกือบเท่าหมอนหนุนที่ใช้วางบนเตียง ดังนั้นใบหน้าเล็กๆ ของปรมัตถ์จึงจมหายไปกับหมอนฟูนุ่ม


    ธาดากระซิบ “พร้อมมั้ยครับตัวเล็กของอา”


    ตาโตๆ ที่โผล่พ้นขอบหมอนขึ้นมานิดหน่อยกระพริบถี่ หัวกลมๆ ผงกขึ้นลงสองครั้งเป็นการตอบรับ


    “เยี่ยม! งั้นไปกันเลย”


    ธาดายกมือขึ้นขยี้ผมหลานชายแล้วค่อยๆ จับเข็มขัดนิรภัยมาคาดไว้ที่เอวให้อย่างเบามือ เนื่องจากปรมัตถ์ตัวเล็ก คนเป็นอาจึงหยิบหมอนออกจากอ้อมกอดของเจ้าตัวน้อยไปวางพิงหลังไว้แทน เมื่อรัดสายเข็มขัดจะได้พอดี หลานของเขาจะได้ปลอดภัย...


    “มัตถ์อย่าลืมดูในจอทีวีตอนก่อนเครื่องขึ้นนะครับ อาอยู่ในนั้นด้วย...”


    ธาดาหัวเราะสดใสเมื่อพูดออกไป ปกติแล้วเขาไม่ค่อยได้บอกใครเรื่องเป็นพรีเซนเตอร์ของสายการบิน เพราะรู้สึกว่ามันก็แค่หน้าที่อีกอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับปรมัตถ์แล้วเขากลับอยากอวดเด็กคนนี้ไปเสียหมดทุกอย่าง…


    อยากให้หลานชายได้เห็นว่างานของเขานั้นน่าชื่นชมแค่ไหน


    อยากให้ปรมัตถ์ได้รู้ว่าในสังคมนอกบ้าน อาของตนรับผิดชอบชีวิตผู้คนให้ถึงที่หมายมากมายขนาดไหน


    และที่สำคัญธาดาหลงรักแววตาใสซื่อของหลานชายตัวน้อยที่เห็นเขาเป็นต้นแบบเข้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น


    ตั้งแต่หลายปีก่อนที่ได้เห็นสายตาของปรมัตถ์ที่มองมาอย่างยกย่อง ยิ่งนานวันธาดาก็ยิ่งเสพติด...


    เพราะสายตาของปรมัตถ์แน่วแน่อยู่เสมอ เด็กคนนั้นแม้จะขี้อาย แต่ก็จะมักจะสื่อสารกับธาดาผ่านแววตาด้วยทีท่าเทิดทูนรักใคร่...


    แน่นอนว่าไม่ใช่รักแบบฉาบฉวยขอไปทีแบบ Ludus Love แต่เป็นความรักที่ประกอบด้วยความเชื่อใจ เคารพ และมิตรภาพแบบ Storge Love เสียมากกว่า


    ดังนั้น… แววตาเปิดเผยในลักษณะนี้ ไม่ใช่เพียงธาดาที่รู้สึกได้ คนรอบข้างของทั้งคู่ย่อมสังเกตเห็นเช่นกัน


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in