แค่อ่านหน้าปกและคำนำเหมือนเป็นสารเตือนบอกให้ทำใจล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ 

ว่าเจ้าหมาตัวเอกของเรื่องจะต้องตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พออ่านไปเรื่อยๆรู้สึกเศร้าแต่มันก็สุขด้วย รู้สึกหน่วงๆ แต่เต็มไปด้วยความประทับใจ 

จากเดิมที่เป็นคนรักหมามากอยู่แล้วอ่านเล่มนี้ไปยิ่งรักหมามากกว่าเดิมอีก 

 ' โทบี้ ' เป็นหมาจรจัดที่โตมากับคำสอนของแม่ว่าให้หลีกเลี่ยงจากพวกมนุษย์ 

แต่แล้วมันกลับได้เรียนรู้ด้วยตัวเองในเวลาต่อมาว่า 

มนุษย์คือสิ่งที่เกี่ยวพันกับเป้าหมายของหมาตัวหนึ่งอย่างมันเป็นที่สุด

โทบี้ที่ตายไปอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว กลับมาเกิดอีกครั้งเป็น ' เบลีย์ ' 

ที่โชคชะตาพัดพามาพบกัน ' อีธาน ' เด็กชายวัยแปดขวบ 

เบลีย์รู้ได้ทันทีว่ามันเกิดมาเพื่อทำให้เด็กชายคนนี้มีความสุข ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่านั้น

ในวันสุดท้ายของชีวิตเบลีย์อิ่มใจว่าตนได้ลุล่วงเป้าหมายในฐานะหมาตัวหนึ่ง

แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจ เมื่อต้องกลับมาเกิดอีกครั้ง! และอีกครั้ง!

ราวกับว่ายังมีอะไรบางอย่างที่มันต้องทำให้ลุล่วงเสียก่อนบนโลกใบนี้

หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องหมาเขียนโดยคนจาก W. Bruce Cameron และผู้แปล โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล

เป็นหนังสือที่ถ่ายทอดความรู้สึกของหมาได้ลึกซึ้ง สมจริง ทำให้เราเชื่อว่าหมามันต้องรู้สึกแบบนั้นแน่ๆ

สำนวนการเขียนอ่านง่าย เข้าใจได้ทันที ไม่ซับซ้อน อ่านสนุกไปกับความน่ารักของน้องหมา

ชอบประเด็นที่เรื่องต้องการนำเสนอ หมา เป้าหมาย และเด็กชายของผม

ทุกช่วงชีวิตของหมามันมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่ามันต้องการอะไร 

การเป็นหมาจรจัดสอนให้มันรู้จักหลบหนีและซ่อนตัวจากผู้คนในยามจำเป็น 

รู้จักคุ้ยหาอาหารจากถังขยะ 

อีธานสอนให้มันรู้จักความรัก

และทำให้มันรู้ว่าเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือการได้ดูแลเด็กชายของเขา แค่ทำให้เขามีความสุข

เจค็อปกับมายาสอนให้มันรู้จักกับการหาและพาไปและที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือการช่วยชีวิตคน

มันเข้าใจแล้วว่าทำไมมันต้องมาเกิดใหม่อีกหลายครั้งเพราะต้องการช่วยอีธานเด็กชายของเขา

จากการจมดิ่งสู่ความสิ้นหวังในชีวิต การทำให้มนุษย์มีความสุขคือเป้าหมายของมัน

การเกิดใหม่หลายๆชาติทำให้มันได้เจอสภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะกับมนุษย์ 

ที่แตกต่างทั้งความรักและความเมตตาจากเจ้าของ มนุษย์บางประเภทเลี้ยงมันไว้แค่เพาะพันธุ์ 

มนุษย์บางประเภทก็ไม่ได้รักมันจริงๆ บางประเภทเกลียดมันด้วยซ้ำ 

แต่ความรู้สึกของหมาต่อเจ้าของนั้นไม่ว่ากี่ชาติก็เหมือนกันหมดคือความรักและความซื่อสัตย์

เหมือนที่มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "หมาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์" คำนี้จริงเสมอ

นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับกับหมาแล้ว 

สิ่งที่ได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้คือ การถามตัวเองว่า เป้าหมายของเราคืออะไร 

มนุษย์อย่างเราๆมีเป้าหมายหรือยัง แล้วลงมือทำมันแล้วหรือยัง 

แม้แต่หมาไม่ว่ามันจะต้องตายอีกกี่ครั้งเกิดใหม่อีกกี่หน

มันมีเป้าหมายเสมอและตั้งใจบรรลุเป้าหมายของมันอย่างดีที่สุด 

เป็นหนังสือที่ชอบมากๆ อ่านจบแล้วมันรู้สึกอิ่ม ประทับใจ 

สำหรับเรายกให้เป็นหนังสือที่ดีที่สุดอีกเล่มหนึ่งเท่าที่เคยอ่านมาเลย

เข้าใจแล้วที่ผู้แปลเขียนว่าอ่านเล่มนี้จบแล้วอยากกอดหมามาก หมายถึงอะไร 

ตอนนี้เราก็รู้สึกแบบเดียวกันแล้วค่ะ 

_____________________________________________________________________________________