'SKIT' หรือที่ย่อมาจาก 'Sketch Comedy'
คือเรื่องตลกสั้นๆ ที่จบในตอน โดยในเมืองนอกมีการทำ Skit นี้เป็นเรื่องเป็นราวมานานแล้ว
(ถ้าใหม่ๆ หน่อยลองเสิร์จดู Key and Peele ก็สนุกดี)
เมืองไทยก็มี Skit มานานแล้วเช่นกัน แต่แค่ยังไม่มีคนนิยามมันอยากถูกต้องเป็นเรื่องเป็นราวนั้นเอง
โดยเสน่ห์ของ Skit ก็คือ จะใช้นักแสดงชุดเดิมเปลี่ยนบุคลิกไปเรื่อย แล้วหยิบเรื่องใกล้ๆ ตัวมาล้อ มากวนตีน ที่เห็นได้ชัดๆ ก็คือรายการ 'ตลก 6 ฉาก' หรือ 'หม่ำ เท่ง โหน่ง' ก็เข้าเค้าอยู่เหมือนกัน
Skit ของทาง Salmon House ก็มีมาแล้วหลายตัว
พวก 'ลุงเนลสัน ฝรั่งคะนองกรุง' หรือ 'ป้าไสว' หรือ 'วินรีวิว' หรือ 'SIRI พูดได้'
'วิดีโอสาธิตความปลอดภัยบนรถเมล์'
เป็น Skit 1 ใน 3 ตัว ที่เราได้รับการสปอนเซอร์จากทาง 'โก๋แก่'
ระยะหลังๆ พวกเราทำงานบนโจทย์ของการโฆษณามาหลายตัวมาก
พวกเราอยากทำอะไรสนุกๆ ในแบบฉบับดั่งเดิมของพวกเราอีก
(หรือพูดให้เข้าใจ คือ งานกวนตีนเลวๆ นั่นแหละ)
Skit จึงเป็นคำตอบที่ดีของพวกเรา
เราเอาไอเดียทั้งหมด 3 ตอนที่มี นำไปเล่าให้กับทางโก๋แก่ผู้ใหญ่ใจดีฟังและแบมือขอตังค์อย่างน้อบน้อม
ตัดภาพมาเราก็นั่งอยู่ในห้องประชุม เพื่อขุดไอเดียกันว่า เราจะเล่าเรื่องเหล่านี้ยังไงดี
มาเรื่องแรก 'วิดีโอสาธิตความปลอดภัยบนรถเมล์'
ไอเดีย
ไอเดียตั้งต้นคือ ธนช. เห็นสาธิตความปลอดภัยบนเครื่องบิน แล้วรู้สึกตลกดี
จึงอยากทำคลิปอะไรบางอย่างล้อการสาธิตนี้
หันไปหันมา เราจึงจับไอเดีย ความเนี้ยบของตัวแอร์
บวกกับบรรยากาศเครื่องบินที่เรามองว่าเป็นบรรยากาศพิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
เอามาใส่ในฟอร์มของความไม่เนี้ยบ และบรรยากาศบ้านๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกเราแทบทุกวัน
รถเมล์จึงเป็นตัวเลือกเดียวที่เราคิดถึง เนื่องจาก
- เป็นยานพาหนะที่มีคนโดยสารทีละเยอะๆ
- มีแถวนั่งที่เหมือนเครื่องบิน
- เครื่องบินมีแอร์ที่เนี้ยบ รถเมล์มีกระเป๋ารถเมล์ที่ดุโหด
นี่แหละฟิตที่สุดแล้ว...
จะให้ไปถ่ายเรือด่วนริมคลองเหรอ จะถ่ายยังไงวะ?
บท
เราพยายามจะเล่าในพฤติกรรมของคนใช้บริการรถเมล์
และไลฟ์สไตล์ของคนใช้บริการเวลาอยู่บนรถเมล์
ซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก
ธนช. และ วช. เขียนบทกันรวดเร็วมาก ทั้งคิด ทั้งเขียนเสร็จภายในอาทิตย์
เขียนกันอย่างร่าเริงโดยไม่มีอาการจิตตกอะไรเลย
มุมกล้องก็ไม่มีอะไรมาก เพราะเรามีตัวอย่างจากวิดีโอสาธิตความปลอดภัยบนเครื่องบินให้ดูเพียบ!
จะเหลือก็แต่นักแสดงและตัวรถเมล์นี่แหละ ที่ไม่รู้จะยังไงกันดี...
พี่แอ๋ว
'พี่แอ๋ว' คือ กระเป๋ารถเมล์ ที่ต้องหน้าตาเอาเรื่องในระดับคนจะจ่ายแบงค์ร้อยต้องมีเหงื่อออกมือ
เพราะกลัวจะโดนโบ้ยด้วยหลังมือ
เราหาคนเล่นเป็นพี่แอ๋วอยู่พักนึง ก็เจอกับพี่แอน...
ทีแรกที่ดูจากในรูปวช. คอมเม้นต์ว่าหน้าตาดีไปนิดนึง ไม่ค่อยเอาเรื่องเท่าไหร่
แต่พอมารู้ว่าพี่แอนคือนักแสดงที่อยู่ในผงลาบโลโบ้และผลิตภัณฑ์จระเข้ปุ๊บ!
คนนี้แหละ คือ พี่แอ๋ว จบ.
แล้วพี่แอนก็ประกบร่างเป็นพี่แอ๋วได้อย่างที่ผู้กำกับต้องการทุกอย่าง
โดยเฉพาะซีนสุดท้ายที่พี่แอ๋วโดนคนขับคนเมล์ตะคอกใส่แล้วไล่เก็บเงินผู้โดยสาร
ซีนนั้นพี่แอน Improvise เองทั้งหมด
คนจริง ยังไงก็คนจริง!
นักแสดงอื่นๆ
นอกจากพวกลุงๆ ป้าๆ ที่เลือกมา ก็จะเป็นคนกันเองในเฮ้าส์ทั้งนั้น...
เด็กฝึกงานเอย ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์เอย หรือคนทำพรอพเองเอย
มากันให้หมด!
พรอพ
สิ่งที่หนักในหนังเรื่องนี้คือพรอพ
–แอร์เคลื่อนที่เอย ทีวีเอย ตู้เย็นเอย หนักๆ ทั้งนั้น
แล้วนี่ยังไม่นับพระเครื่องที่แรมโบ้และไกเซอร์ (น้องฝึกงาน) ต้องถ่อไปซื้อถึงไหนก็ไม่รู้
(คือเป็นสิ่งที่ทำเหมือนพระเครื่องน่ะครับ ไม่ใช่พระเครื่องจริง เราจึงขอใช้คำว่า 'ซื้อ' มากกว่า 'เช่า')
คนที่รับหน้าที่ดูแลพรอพโดยตรงก็คือ 'โย'
โย เป็นพรอพมาสเตอร์ให้กับแซลมอนเฮ้าส์มาหลายงาน แต่งานนี้โยฉายแสงมากที่สุด
เพราะนอกจากจะจัดการดูแลพรอพที่โคตรจะประหลาดสัดๆ แล้ว ตัวมันเองก็เป็นพรอพด้วย
ธนช: อยากได้ไหล่คนนึงมาเป็น Foreground ว่ะ
(โยเอาไหล่ตัวเองไปตั้ง)
วช: ที่นั่งตรงนั้นมันว่างไปนิดหน่อยว่ะ อยากได้คนมาเติมหน่อย
(โยเอาตัวเองไปตั้ง)
...พรอพมาสเตอร์ตัวจริง
รถเมล์และการถ่ายทำ
กว่าพวกเราจะพบว่า การถ่ายทำเรื่องนี้จะโหดสัดมาก ก็ตอนที่ประชุม Breakdown กันแล้ว
(สำหรับคนไม่รู้ –Breakdown คือการวางแผนการถ่าย เช่นเราจะถ่ายซีนนี้ก่อนซีนนี้ เพราะจะได้ไม่ต้องเคลื่อนกล้องไปมา หรือเราควรจะถ่ายซีนนี้ แล้วค่อยถ่ายซีนนั้น เพราะนักแสดงคนนี้มีคิวถึงแค่บ่ายสาม งั้นเราต้องถ่ายให้หมดก่อน)
ความยากของมัน คือ เราต้องวางแผนให้ดีว่า เราจะถ่ายบนรถเมล์ยังไง
เราจะต้องให้รถเมล์วิ่งตอนไหน หยุดตอนไหน ต้องวางแผนกันให้ดีๆ เพราะไม่งั้นมันจะพังได้
อีกเรื่องที่กลัวมากคือ เรื่องฝน เพราะช่วงนั้นฝนตกทุกวัน
และดูพยากรณ์แล้ว วันถ่ายฝนตกแน่ๆ ก็เลยได้แต่ภาวนาให้ฝนไม่ตก
วันถ่าย
ฝนไม่ตก
เรื่องนี้เราไปถ่ายกันข้างๆ CHOCOLATE VILLE บนถนนเกษตร-นวมินทร์
โดยเราเลือกที่จะถ่ายซีนรถจอดให้หมดก่อน (หรือซีนที่เห็นพี่แอนทั้งหมด)
ก็ดูไม่มีปัญหาอะไรนอกจากในรถเมล์ร้อนและอบมาก
บริเวณที่เย็นที่สุดของวันนั้นคือ ยอมตากแดดเพื่อแลกกับลมเย็นนิดหน่อยนอกรถเมล์
และเพื่อชาร์จพลังงานให้ตัวเองก่อนจะกลับเข้าไปลุยต่อบนรถเมล์
นอกจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวในรถเมล์แล้ว ทุกอย่างก็ถือว่าราบรื่นดี
ดู Breakdown แล้วก็น่าจะเสร็จตามกำหนดทุกอย่าง จนกระทั่ง...
เมฆดำตั้งเค้ามาแต่ไกล
เพ้ก (ตากล้อง): เฮ้ย! พี่ มันอีกไกล เราเสร็จก่อน
ตัดภาพมา ฝนตก
เชี่ยแล้วมึง!
เอ้อ! เราถ่ายงานบนรถเมล์นี่หว่า?
ต้องรีบออกรถแล้วเว้ย
ออกรถไปไหน?
ขับหนีเมฆฝน!
นั่นแหละครับ...เราก็เลยถ่ายต่อในซีนรถวิ่ง
เพียงแต่อีรถเนี่ยมันวิ่งหนีฝนไปด้วย...
เหมือนจะราบรื่น แต่ดูเหมือนเทวดาที่เล่นเกมเดอะซิมจะสนุกไปกับเราด้วย
ก็เลยเอาฝนเทลงมาอีกห่าใหญ่
คราวนี้ล่ะมึงเอ้ยยยย!
"เฮ้ยยยย ไม่ไหวแล้วโว้ยยยย!!!" ใครไม่รู้ตะโกน แล้วทุกคนก็ช่วยกันปิดหน้าต่าง
และด้วยความปลอดภัยขั้นสูงสุดของรถเมล์ หน้าต่างก็ปิดไม่ค่อยได้จ้า
"เฮ้ยยย น้ำมันไหลมาจะถึงกล้องแล้วโว้ย"
"กระเป๋าใครวะ มาดูหน่อยเร็ว"
"เฮ้ย หน้าต่างปิดไม่ได้ ใครก็ได้มาช่วยกันหน่อยเร็ว"
โย วิ่งไปช่วยปิดหน้าต่าง ก็ปิดไม่ลง
พี่คนขับหยุดรถ วิ่งมาช่วยปิดหน้าต่าง
ครับ...หน้าต่างหนึ่งบานต้องใช้ทรัพยากรมนุษย์ 3 คนช่วยกันปิด
ทันใดนั้นเอง
"เฮ้ยๆๆๆๆๆๆ รถไหล รถไหล รถไหล"
"พี่ครับ ไปขับรถก่อนครับ รถไหลครับ!"
"(พี่คนขับ) เออ! รู้แล้ว ขอปิดหน้าต่างก่อน"
"พี่!!!!!!!! รถไหลใหญ่แล้วโว้ยยย มาหยุดรถก่อน!"
พี่คนขับกระแทกหน้าต่างลง วิ่งไปประจำที่นั่ง รถหยุดไหล
...
ดี! ได้ออกกองและได้จำลองสถานการณ์ไททานิคล่มด้วย
รถเมล์ก็วิ่งวนไปมาตรงเส้น เกษตร-นวมินทร์อยู่หลายรอบ ฝนก็ยิ่งเทหนักขึ้นๆ
ไอ้สัด นี่มันพายุชัดๆ...
จนสุดท้าย ยอมแพ้ ต้องจอดทิ้งไว้
และกองถ่ายทั้งหมด ก็ต้องหาที่ๆ ไม่เปียกฝนบนรถอยู่
ฝนตกอย่างไม่ลดละ จนเรายอมแพ้ไม่ถ่ายช็อตเล็กช็อตน้อยตามที่อยากได้
สิริรวมแล้ว พวกเราตัวเหนียวเมือกขึ้นหน้าถ่ายบนรถเมล์ตั้งแต่ 10 โมง ถึง 6 โมงเย็น
ร้อนจัดและลุยฝนในวันเดียวกัน
สภาพทีมงานเรียกได้ว่า เละนรก
ธนช. ขอยกให้เป็นกองถ่าย TOP 3 เหนื่อยยากที่สุดตั้งแต่ทำเฮ้าส์มา!
กลายเป็นว่าคลิปนี้เป็นอีกคลิปที่ 'ไปไกล' กว่าที่เราตั้งเป้าหมายไว้เยอะมาก
ไปไกลจนกลายเป็นสมบัติของโลกไปละ!
อืม นั่นแหละ อย่าให้เล่าต่ออีกเลย
โดนดูดเละ
(ร้องไห้)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in