การนำเสนอครั้งแรกผ่านไปด้วยดี ครั้งแรกไม่มีอะไรมาก เราต้องเดินหน้าเย็บต่อเพราะของมันเยอะ ต้องเย็บถึงอย่างละ 6 ชิ้น ยอมรับว่าท้อมาก ท้อแต่ถอยไม่ได้ ไม่งั้นก็ไม่มีงานส่ง อุปสรรคของเราคือเรื่องแพทเทิร์น เราไม่แม่นเรื่องแพทเทิร์น พอเย็บของชนิดใหม่ต้องเย็บเป็นตัวอย่างก่อนทุกครั้ง แทบไม่มีอันไหนเลยที่เย็บอันแรกเสร็จปุ๊บจะใช้ได้เลย มันจะต้องเพิ่มขนาดไม่ก็ลดขนาดแทบทุกครั้ง แต่เราก็เย็บมาเรื่อย ๆ เย็บไปก็ภูมิใจไปเพราะน่ารักมาก แต่ก็ภูมิใจได้ไม่นานเพราะของอีกหลายชนิดรอเราอยู่ เย็บไปเรื่อย ๆ ก็ถึงวันนำเสนอ 70% ครั้งนี้ของที่เราเย็บเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก ๆ แล้ว
การนำเสนอครั้งที่ 2 เอาจริงคือสิ่งของที่ต้องเย็บเสร็จเกือบหมดแล้ว เหลือไม่ถึง 6 อย่าง แต่สิ่งที่ยากกว่าการเย็บสิ่งของคือร้านค้าคือตัวที่ใส่สิ่งของจะเป็นอย่างไร ผักผลไม้วางที่ไหน ปลาวางตรงไหน แต่ละโซนมีชั้นวางกี่อัน อันนี้ต้องไปทำการบ้านมาเพิ่ม อาจารย์แต่ละคนก็คอยให้คำแนะนำ แต่เราพูดงงมาก ๆ คือพูดแล้วมีแค่เราที่เข้าใจ ตรงนี้ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษามาก ๆ ที่ช่วยพูดอธิบายช่วยเราตลอดเลย การนำเสนอครั้งนี้ได้คำแนะนำมาว่าถ้าเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตสเกลมันจะใหญ่ไปหรือเปล่า ของมันต้องเยอะกว่านี้นะ ลองเปลี่ยนเป็นร้านขายของมั้ย หรือจะร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ ลองเก็บไปคิดดู ซึ่งตอนแรกเราจะใช้คำว่าซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นมินิมาร์ท ลดสเกลลงให้มันดูจับต้องได้
ด่านต่อไปคือเราต้องเริ่มทำภาชนะวาง และเริ่มทำสเกลร้านมินิมาร์ทว่าจะใหญ่เท่าไหน ซึ่งมินิมาร์ทที่เราทำคือทำเป็นรูปกล่องที่แต่ละด้านมีขนาด 40 เซนติเมตร โดยตัดโฟมยางเป็นขนาด 40x40 เซนติเมตรและหุ้มด้วยผ้าสักหลาด ตกแต่งด้วยตัวอักษรคำว่า MINIMART ประตู หน้าต่าง และดอกไม้
ต่อมาคือภาชนะที่ใส่พวกของทั้งหลาย เราใช้โฟมยางมาตัดให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ และนำกาวมาทา ซึ่งเราใช้แผ่นโฟมในการทำภาชนะทุกชิ้น และนำสีอะคริลิคมาทาทับให้เสมือนจริงยิ่งขึ่น เพราะโฟมยางที่เรานำมาใช้นั้นเป็นสีแดง
สุดท้ายเราก็ผ่านไปด้วยดี ถึงแม้จะส่งเลยเวลามานิดนึง แต่สุดท้ายของก็พร้อมเล่น ตอนทำเสร็จรู้สึกภูมิใจและดีใจมาก อีกความรู้สึกหนึ่งก็รู้สึกใจหายว่าเราจะจบจริง ๆ แล้วนะ 4 ปีไวเหมือนโกหก เวลาผ่านไปเร็วมาก ๆ จากเด็กปี 1 ที่แรก ๆ เข้ามาแล้วพบว่าต้องอ่านวรรณกรรมอาทิตย์ละเล่ม แต่ตอนนี้โตจนกลายเป็นพี่ปี 4 ที่มีผลงานเป็นของตัวเองแล้ว ไม่คิดว่าตนเองจะทำได้ แต่สุดท้ายก็ทำได้จริง ๆ เป็นงานที่เย็บไปร้องไห้ไปเพราะกลัวไม่จบ มันมีทั้งสุขและทุกข์(อาจจะมีทุกข์มากกว่า) แต่ว่าก็ภูมิใจในตนเองที่สร้างสรรค์ผลงานได้ขนาดนี้ ขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษาที่คอยให้ความช่วยเหลือ คอยให้คำแนะนำ คอยตามจิกหนูเพราะกลัวไม่มีงานส่ง คอยให้กำลังใจและถามว่าไหวหรือเปล่า คอยเป็นพลังบวกให้ และเชื่อมั่นว่าหนูจะทำได้ และขอบคุณอาจารย์ทุกคนที่คอยให้คำแนะนำทุกครั้งเวลาออกไปนำเสนองาน ตอนนี้หนูภูมิใจในตัวเองและผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมามาก ๆ ค่ะ ʕ;ᴥ;ʔ ❤
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in