Frankfort, Illinois
บ้านใหม่
มีบ้านสามหลัง กับคน 20 กว่าคน จะอยู่กันยังไง?
ไม่เป็นไร นายจ้างจัดการให้...
บ้านแรกคือบ้านนายจ้าง
บ้านนี้จะมีเด็กไทยอยู่ทั้งหมด 5 คน แล้วก็เด็กตุรกีอีก 1 คน อยู่บ้านหลังเดียวกับครอบครัวของนายจ้าง มีสระว่ายน้ำ มีหมาสองตัว เราไม่รู้ว่าบ้านนี้นอนกันยังไง แต่น่าจะมีสองห้อง คือนอน 4 คนห้องนึง ละก็อีก 2 คนห้องนึง(มั้ง) เราเคยไปบ้านหลังนี้แค่สองครั้งเลยไม่รู้จริงๆว่ามันอยู่กันยังไง5555 บ้านนี้ค่อนข้างห่างกับบ้านอีกสองหลังเลยไม่ค่อยได้ไป
บ้านสองคือบ้านยาย (บ้านแม่ของนายจ้าง)
หลังนี้เรากับเพื่อนอยู่แค่สองคน ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย เค้ามีห้องน้ำให้เราใช้เลยส่วนตัว แล้วก็มีห้องนอนให้ บ้านนี้ถ้าเรื่องความสบายในความเป็นอยู่ ถือว่าสบายที่สุดในบรรดาสามบ้าน เพราะไม่ต้องแย่งกันใช้ แต่ในเรื่องของความสบายใจให้ติดลบ บ้านนี้มีแกรนมา กับ ป้าอยู่แค่สองคน แล้วก็มีเราเข้าไปอยู่อีกสอง เป็นหลังนี้อยู่กันสี่คน หมาอีกสองตัว
บ้านสามคือบ้านนักเรียน
เป็นบ้านของนายจ้างอีกนั่นแหละ แต่เปฺ็นบ้านเปล่าๆ ไม่ต้องอยู่กับบรรดาญาติๆของนายจ้าง บ้านนี้ก็คือเด็กทั้งหมดที่เหลืออยู่ ทั้งหมด 12 คน สามห้องนอน ห้องผู้หญิง 6 คนห้องนึง 2 คนห้องนึง แล้วก็มีห้องผู้ชาย 4 คนอีกห้องนึง ห้องน้ำสองห้อง ย้ำ! สองห้อง(อยู่กันยังไงวะ) บ้านนี้บางวันก็มี12คน บางวันก็เกือบ 20 คน เพราะว่าคนในสองบ้านแรกจะมาซุกอยู่บ้านนี้ (เป็นเด็กมีปัญหาไม่อยากกลับบ้านที่ตัวเองอยู่) บ้านนี้คือปาร์ตี้ ไม่มีใครมาคุมเหมือนสองหลังแรก จะทำอะไรก็ทำได้เลยเต็มที่ ไม่ต้องมาคอยเกรงใจเจ้าของบ้าน รักบ้านนี้ที่สุด
ห้องครัวคือห้องที่มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา 555 ทำอาหารทั้งวัน
ค่าเช่าบ้าน
คือทุกคนจ่ายเท่ากัน คนละ 400 ดอลต่อเดือน ถามว่าแพงไหม คือแพงมากกกกกกกก ได้บ้านเป็นหลังจริง แต่จำนวนคนต่อบ้าน 1 หลังเยอะเกินไป โดยเฉพาะบ้านนักเรียน เราว่าเรื่องบ้านค่อนข้างเป็นปัญหานะ แต่ละบ้านปัญหามันก็คนละอย่าง ได้อย่างเสียอย่างกันหมด ย้ายไม่ได้ด้วย เงินค่าบ้านเข้านายจ้างหมด เพราะเป็นบ้านของนางหมดสามหลัง หึหึ
อย่างบ้านเรา... คือยังกะอยู่กะโฮส ถามว่าเค้าไนซ์กะเราไหม เค้าไนซ์(มั้ง) แต่ก็มีบางเหตุการณ์ที่ทำให้เราคิดว่า เห้ย กูจ่ายค่าบ้านนะเว้ย อย่าทำเหมือนกูมาขออยู่ฟรี บางทีเราลงมาทำอาหารกิน เค้าขึ้นห้องไปแล้วนะ พอได้ยินเสียงเราทำก๊อกแก๊กในครัว คือลงมาดูเลยจ้า แล้วก็มานั่งคุยด้วย คิดในแง่ดีคือ อ๋อ เค้าอาจจะอยากมาคุย แต่คิดในแง่ร้ายคือ เค้าอาจจะกลัวกูทำบ้านเค้าไฟไหม้ - - เป็นแบบนี้บ่อยมาก ทำอะไรไม่สะดวกใจเลย จะหยิบจะจับอะไรก็หาว่าเราทำพังไปหมด มีเรื่องอ่างล้างหน้า คือท่อน้ำอะ มันตันตั้งแต่วันแรกที่เราไปละ น้ำมันก็ไหลไม่ลงใช่ปะ เราก็ทนใช้ เราก็ไม่บอก คิดว่าเค้ารู้อยู่แล้ว เพราะบ้านเค้านี่หว่า พอเดือนกว่าเค้ามาเห็น เค้าว่าเรากะเพื่อนใหญ่เลย หาว่าเราทำตัน โอ้ย! ป้า มันตันตั้งแต่ก่อนกุมาแล้วโว้ยย คือเถียงกะป้าบ่อยมาก แต่ก็ทำได้แค่ทน แต่หลังๆทนไม่ไหว ก็ทำให้รู้ว่าเราก็ไม่ชอบเหมือนกันนะ เราหนีไปบ้านนักเรียนตลอด หลังๆทำเป็นต่างคนต่างอยู่ไปเลย คือบ้านมันควรจะเป็นที่ที่เรารู้สึกปลอดภัย แบบ อยากอยู่ อยากพักผ่อน แต่นี่ไม่เลย กลับบ้านมาเซย์ฮัลโหล กู้ดไนท์ เรากะเพื่อนหนีขึ้นห้องละ สบายใจกว่า
ในละแวกที่อยู่ไม่มีบัสทำให้เวลาเดินทางลำบากมากกกกกกกกก มีพวกทาร์เก็ตอะไรแบบนี้อยู่ใกล้ๆก็จริง แต่ก็ต้องเรียกอูเบอไป ขั้นต่ำก็ 5 ดอล เหมือนแถวนั้นมันมีแต่หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านติดๆกันหมดเลย เค้าบอกว่าคนอยู่เมืองนี้คือต้องมีรถ (แต่พวกชั้นเป็นแรงงานต่างด้าวจะเอารถที่ไหนฟะ) ไปไหนก็ลำบากหน่อยๆ แต่เวลาจะเข้า downtown สบายมาก เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟ นั่งรถไฟประมาณ 30 นาทีก็ถึง chicago ละ เงินไม่เหลือเลย เข้าเมืองอย่างบ่อย
พอไปถึงมีเวลาพักแค่สองวันก็ต้องเริ่มทำงาน อะ ชีวิตจริงกำลังจะเริ่มละ ติดตามตอนต่อไป
ป.ล. ขอบคุณรูปจากเพื่อนๆด้วยค่าา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in