หลังจากซึบซับความงดงามของทรัพย์สมบัติล้ำค่าภายในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกู้กง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจแล้ว รถโค้ชสีชมพูก็พาคณะทัวร์ชาวไทยออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวถัดไป ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองไทเปที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี

แลนด์มาร์คของเมืองไทเปที่ว่านี้ก็คือตึกที่เคยสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก และเป็นตึกที่มีลิฟท์ที่เคยเร็วสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกเช่นกัน ตึกนี้มีชื่อเรียกว่าตึกไทเปหนึ่งศูนย์หนึ่งนั่นเอง 

ถึงแม้ว่าวันนี้อันดับหนึ่งในเรื่องของความสูงและความเร็วจะถูกตึกอื่นแย่งชิงไปแล้วก็ตาม แต่ตึกไทเปหนึ่งศูนย์หนึ่งก็ยังทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยี่ยมเยือน มาพบปะดูหน้าค่าตา มาสัมผัสความสูงของตึก และความเร็วของลิฟท์เป็นจำนวนมากอยู่ดี

โลมาพร้อมกับคณะทัวร์มาถึงที่ตึก พวกเราเดินผ่านโถงด้านล่างขึ้นไปที่ชั้นห้า แล้วไปรอขึ้นลิฟท์ชั้นแปดสิบเก้าเพื่อไปที่จุดชมวิวของตึก เพดานลิฟท์ทำเป็นดาวดูสวยดี ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ถึงชั้นแปดสิบเก้าแล้ว โอ้จอร์จ!!! มันเร็วมาก!!!

พอลิฟท์เปิดออกเราจะเจอรูปปั้นตุ๊กตาผู้หญิงยืนทำท่าหนึ่งศูนย์หนึ่งคู่กับตึกหนึ่งศูนย์หนึ่งขนาดจำลองอยู่ เชื้อเชิญผู้ที่ผ่านไปผ่านมาให้มายืนแอ็คท่าถ่ายรูปด้วย

โอ้ว ว้าววว!!! โลมามาอยู่ที่ชั้นแปดสิบเก้าแล้ว ชั้นนี้เป็นจุดให้เราชมวิวเมืองไทเป ผู้คนมากหน้าหลายตา หลายเชื้อชาติ หลายภาษา ต่างหมุนเวียน แวะกันมาชมวิวที่นี่ มองผ่านกระจกใสออกไปเห็นตึกแน่นขนัดเลยทีเดียว แต่เบื้องหลังตึกเหล่านั้นกลับโอบล้อมด้วยภูเขาขนาดใหญ่ เมืองไทเปเมืองในอ้อมกอดแห่งขุนเขาโดยแท้ 

จากนั้นเราก็ลงไปที่ชั้นแปดสิบแปดไปดู Dapper ลูกตุ้มขนาดยักษ์ที่ใช้ถ่วงน้ำหนักปรับสมดุลให้ตึกเมื่อเกิดลมพายุและแผ่นดินไหว 

เมื่อเราเดินออกมาจะเจอกับโซนซึ่งจัดแสดงเครื่องประดับ ปะการัง หลากหลายสีสัน มีการแกะสลักเป็นรูปต่าง ๆ ช่างวิจิตรตระการงดงามตาเสียจริง

คณะทัวร์ของเราเดินออกมาที่หน้าตึกรอรถโค้ชสีชมพูมารับ ระหว่างนั้นก็เก็บภาพตึกไทเปหนึ่งศูนย์หนึ่ง ไปพลาง ๆ หัวหน้าทัวร์แนะนำให้ถ่ายรูปกับกำแพงหลากสีด้านหน้าตึก โลมาชอบนะรูปออกมาสีสวยสดใสดีจ้า