"วันนี้เวลาก็พาให้เราผ่านมาทุกสิ่ง
ต่างได้เรียนรู้ในความเป็นจริง แม้มันจะสายอย่างน้อยที่สุดความหลังที่มี จะเป็นบทเรียนที่ดี...และมันไม่ใช่ความผิดของใคร
แค่วันนั้นเรายังเด็กเกิน กว่าจะเข้าใจ ในชีวิตจริงๆ ที่เราผ่านมาและเดินต่อไป โหดร้ายแค่ไหน ทำตัวเองมาอย่างไร"...
ส่วนแต่งให้ใคร ไม่มี แค่นึกถึงไรก็แต่งๆ แบบไม่มึนเบียร์ก็ง่วงนอน...กลุ้มใจ...แต่ก็แค่ได้แต่กลุ้มใจ..ในหลายๆ เรื่อง
"อันคนเรากว่าจะรู้ในสิ่งใด
ก็ในวันที่เข้าใจว่าสายเกิน
ต้องเรียนรู้อยู่ลำพังทุกก้าวเดิน
คนสรรเสริญในแง่ลบตลอดกาล
ถึงความหมายที่ซ่อนไว้จนเลือนลาง
ดั่งบทเพลงที่ลืมเนื้อมาขับขาน
อดีตกาลที่เป็นเพียงฝุ่นธุลี
ให้ทำไงในเมื่อในวันนี้
เราไม่เหลือสิ่งใดที่เรามี
เอ่ยวจีอันใดมิได้เลย
เรามองเหม่อบนนภาช่างหม่นหมอง
ร่ายคำกลอนที่ใครใครต่างเฉยเฉย
ดูเลื่อนลอยไร้คำใดจะเอื้อนเอ่ย
มีแต่ความเศร้าเหมือนเคยตลอดมา
โปรดอย่าโกรธเรื่องไม่ดีใช่หนักหนา
เราไม่รู้ทำสิ่งใดจนปัญญา
และไม่รู้ที่ผ่านมาคืออะไร
ไม่รู้ว่าคือกรรมจริงใช่ไหม
ให้ชดใช้จนวันตายคงจะได้
ก็เสียใจและผิดอยากบอกไว้
แต่ให้ลบก็คงได้อีกเช่นกัน
ความผิดเราไม่มีวันลบเลือนหาย
ก็เสียใจไม่เสื่อมคลายอยู่ทุกวัน
ขออโหสิก็คงเพียงแค่ความฝัน
ทุกวันนั้นก็แค่เพียงเราเสียใจ
แต่ความจริงคนมากมีร้ายกับเรา
ให้เศร้าไปใครเขาจะนึกถึง
ปวดหัวมากถ้าให้คอยคิดคำนึง
ดังนั้นจึงแค่ร่ายกลอนและหลับไป"
...นั่นแหละชีวิตคนเรา เศร้า ทุกข์มากกว่าสุข ในวันที่ทำตัวเอง อยากเขียนๆ ก็ไม่รู้เขียนไร เขียนทำไม ดื่มเบียร์, ฟังเพลง นึกถึงเรื่องบางอย่างก็แต่งกลอนมั่วๆ ดีกว่า คนอื่นไม่ดีกับเรา เราก็ไม่ดีกับคนอื่น มโนจิต คิดไปเอง...รับผลกรรมไปวันวันและอาจดูเรียกร้องความสนใจจริงๆ....หลายเรื่องเราผิดเอง..แต่เราก็ไม่ยอมคนที่ไม่ดีกับเราเสมอกัน...มั้ง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in