เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Today is not TomorrowJirattipat Tengamnuay
เมื่อฉันว่าง ตกงาน ชวนไปก็ไปเดินตลาดรถไฟ (บ่นบ้าไปวันวัน)
  • 27 DEC 2019 : ไม่เกี่ยวกับตลาดรถไฟหรอกจริงๆ แค่เดินวนไปมาไม่ถึงชั่วโมง นอกนั้นบ่นบ้า

    เริ่มตรงไหนดี....ตรงนี้แล้วกัน...ก็แค่ระบายความเก็บกดอัดอั้นตันใจบ้าบอประสาทไม่ดีของตัวเองอ่ะแหละ...เริ่มที่ได้ฟังเพลงนี้ใน 7/11 ตอนกำลังจ่ายเงิน


    "หากเธอยิ่งคิด แล้วยิ่งต้องเสียใจ ต้องร้องไห้ 
    ติดกับความคิด ที่เธอปวดร้าวยิ่งช้ำใจ 
    หากเป็นอย่างนั้น ไม่คิดไม่คิด ถึงมันจะดีกว่าไหม 
    ปล่อยใจเธอหยุดพัก อยู่กับ (ตัวเอง) แค่ซักวัน อย่าคิดเลย 
    เรื่องร้ายๆนั่งคิดแล้วเจ็บช้ำ เหมือนๆ ย้ำแผลเดิมอีกครั้ง 
    ให้ยิ่งชอกช้ำ จนเธอหมดกำลังใจ เก็บเวลาที่เธอเสียใจ
    ขอเริ่มต้นมองวันใหม่ (แล้วยืนได้อย่างเข้มแข็งไม่คิดมากต่อไป)"
    (อย่าคิดเลย - Peacemaker)

    ตอนแรกไม่รู้เพลงใคร....ออกจาก 7/11 ก็ลองเสิร์จหาดูว่าใครร้อง....ก็โดนแหละ...เรื่องงาน...เหมือนดราม่าบ้าอยู่คนเดียว...แต่ชีวิตคนเราก็แค่นี้...บ้าก็บ้า....ประสาทก็ประสาท...จะตายก็ตายไป...ตอนแรกฟังเพลงนี้แล้วโดนก็เลยเปิดฟังดู...เดินๆ ไปตามทางระหว่างเอสพลานาดและฟอร์จูน....คือเดินไปไม่ถึงฟอร์จูนหรอก...ไกล...แม้เห็นตึกลิบๆ...แค่เดินไปป้ายรถเมล์แต่ก็นึกถึงเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ยังเรียนอยู่...ไปค้างคอนโดเพื่อน...แล้วเพื่อนก็พาเดินจากที่พักเขามาตามเส้นรัชดาไปไหว้พระพิฆเนศที่ห้วยขวาง..แล้วมีแวะเอสพลานาดที่ตอนนั้นเหมือนแมคโดนัลด์เปิด 24 ชม. มั้ง....แต่ตอนนี้ไม่เจอเพื่อนคนนี้แล้ว...เขาคงไม่คบเรา...แต่นึกถึงคือ 10 ปีผ่านไปเร็วมาก....แต่อีก 10 ปีต่อจากนี้...เราก็ 40 กว่า....แต่ก็ไม่รู้อยู่ถึงมั้ย...หมดกำลังใจอยู่ต่อ...ในโลกและสังคมแห่งการประสาทกิน...เมื่อกี้คิด...คนเราถ้าจะตายคือตายเพราะเรื่องราวที่แย่ๆ ในชีวิตตัวเองหรือตายเพราะความคิด, ความเข้าใจและคำพูดคนอื่นที่ทำร้ายเรา...สภาพจิตใจคนเราต่างกัน...แต่คิดถึงตรงนี้...อุ้ย...จะบอกว่าตัวเองอ่อนแอ...ดราม่า...แต่ต่อให้เราตาย....คนที่บอกเราแบบนั้นก็ไม่มีวันเหยียบไปงานศพเราอยู่ดี...ตายคือตายไป...แต่กล้าตายจริงมั้ย...แค่นั้น....คือมีคนบอกถ้าเราแย่ก็มองคนที่แย่กว่า....แต่เสียใจ...เราคงยุ่งกับการเตรียมงานศพให้ตัวเอง...ไม่ว่างพอไปร่วมงานศพใครที่ตายจากไปเพราะเรื่องแย่ๆ ในชีวิตของตัวเอง...ก็ขอแสดงความเสียใจไว้ตรงนี้เลยแล้วกัน...เพราะอาจไม่รู้จัก...และไม่รู้ว่าใครตายบ้างเลยไม่อาจไปร่วมงานศพได้

    แล้วเราจะบ่นเรื่องอะไร?...วันนี้พี่ที่รู้จักชวนไปตลาดจะขายของ...โอเค...ว่างก็ไปได้...ก็ไป...รถก็ติดปกติลาดพร้าว...ก็เดินๆ ดู...พี่ก็บอกที่นี่ขายถูก...คือเขาจะเอามาขายคงไม่คุ้ม...เหมือนเขาขายไม่กี่ชิ้นแต่ทำกำไรให้เขาแบบนี้....แล้วก็เดินไปนั่งที่แมคโดนัลด์ เอสพลานาด...พี่เขาก็พูดเรื่องขายของ...คือจะให้เราไปขาย...เราก็ฟังๆ...แต่ใจและความคิดเราเครียดเรื่องงานมากกว่า...แบบแย่มาก....ขายของอ่ะเป็นอาชีพเสริมได้...แต่เราก็อยากทำไรที่เราอยากทำ...แม้คงไม่ได้ทำอีกแล้ว...และต้องบ้าประสาทกินกับสังคมและคนต่างๆ ในสังคม...เราก็ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวแหละ...แต่บอกจะตายๆ ก็ไม่ตายสักที...ก็ไม่รู้อยู่ทำไม...แบบหลายคนไม่เห็นต้องพูดมากเลยว่าจะตายก็ตายจริง...นั่นสิ...เราก็ว่าเราพูดมากจริงแหละแบบบอกจะตายๆ ก็ไม่ตายจริงซักที...แย่จริงๆ เลยเนอะ

    แล้วพี่เขาก็ถามเรื่องงานแบบเรามีแพลนไรปีที่จะถึงนี้...ปี 2563....เราก็บอกเหมือนไม่มีมั้ง...แบบถึงมีไปก็ทำได้ยาก...ความจริงพิมพ์มาตอนนี้ก็ขี้เกียจพิมพ์เหมือนกัน...บ่นไรไม่รู้...แต่หลายอย่างในใจหาทางออกไม่ได้...พี่เขาก็บอกแบบอะไรที่ทำไม่ได้...หรือปัญหา...หรือล้มเหลวไรนี่แหละ...คือเราก็ต้องทำให้มันเดินต่อไปได้....หรือถามเรื่องที่เราตกงานมานานยัง....ทำไรช่วงปีที่ผ่านมา...แล้วมาคุยเรื่องอายุแหละ....ว่าหางานยาก....เด็กใหม่ๆ เฟรชกว่า...และถามว่าเราอ่ะคิดย้อนไปมั้ยว่าทำไร....มีปัญหาไรกับบริษัทที่ผ่านมา....เพราะเหมือนแต่ก่อนเราก็หางานได้แม้บริษัทไม่ได้ใหญ่...แบบเล็กๆ...คือที่เขาถาม...เราก็คิดมาหมดแหละ...แต่เรื่องราวของคนอ่ะนะ...มันก็อยู่กับคนนั้น...ไปบอกไปเล่าให้คนอื่นฟังก็แค่ 10 - 20% นั่นแหละ...บอกไม่ได้หมดหรอก..และไม่ได้สนิท...และในโลกในสังคมที่ไม่ได้มีใครเข้าใจเรา....จะมารับรู้เรื่องของเรา....และเราไม่ชอบเล่าเรื่องไรให้ใครฟังแบบคำพูดจากปากด้วย...ไม่รู้จะพูดไร...แต่พี่เขาก็บอกอีก 2 -3 ปี...เราก็คงหางานไม่ได้แล้ว....แบบคิดมีไรเป็นของตัวเองมั้ย....เพราะพี่เขาจะขายของ.....หรือไปทำงาน....เหมือนตอนโปร...บริษัทก็เหมือนลงทุนกับเราแบบสอนงาน....คือตรงนี้อยากบอก...ที่เจอก็แค่มาพูดๆ...เรื่องงาน...ไม่ได้สอนไรทั้งนั้น...มาถึงก็ทำได้เลย...ใครจะมาสอนไรเรา....แล้วพี่ก็บอกอย่าคิดพึ่งคนอื่น....แล้วเราพึ่งคนอื่นอย่างไร?....แล้วก็มีถามบริษัทเก่าๆ มั้ยว่ามีงานฟรีแลนด์มั้ย......เราบอกไม่มี

    คนเราอ่ะมองต่างมุมนะ....สิ่งที่เราแสดงออกแบบเหมือนเบื่อๆ แค่นั่งฟังไม่สนใจ....เขาก็อาจมองอีกอย่างคือเหมือนแนะ...หรือหวังดี...แต่ในมุมเรา...คือชีวิตเรา...หรือเรื่องราวต่างๆ...ความจริงเราไม่ได้สนิทกัน...และเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเล่าเรื่องราวของเราจริงๆ ให้คนอื่นฟัง....ถึงเล่าก็แค่บางส่วนเล็กๆ...เพราะเล่าไปก็ไม่ได้ไรขึ้นมา

    พี่เขาก็ถามเรื่องครอบครัวอย่างแม่กับน้อง...เราก็บอกต่างคนต่างอยู่...น้องก็คุยบ้าง...แม่ก็ไม่ได้คุย...พี่เขาก็บอกเปิดใจคุยกับครอบครัว...เราก็บอกบ้านเราต่างคนต่างอยู่มานานแล้ว...ซึ่งก็จริง...คือใครจะมารู้เรื่องครอบครัวเราดีกว่าเรา....พี่เขาก็บอกเหมือนที่บ้านไม่กดดันเหรอ...ถ้าบ้านเขา...คือโตแบบวัยทำงาน...ถ้าเป็นแบบนี้ต้องกดดัน...คือเราบอกว่าเราไม่สน....ไม่ใช่เขาไม่กดดัน...แต่เราไม่สนและหาที่ระบายด่าที่อื่น....บ้านแต่ละคนไม่เหมือนกัน...มีบางคนแบบเราไปพูดระบายว่าแม่ใน FB....เขาก็ INBOX บอกเราขออันเฟรนด์...เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา...คือเหมือนบ้าแหละ...แต่เรื่องในครอบครัวทำเวรทำกรรมไรต่อกัน...เราว่าคนในครอบครัวรู้ดีที่สุด...และแม่เรา...เราก็รู้นิสัยเขาดี...ตัวเองคือต้องถูก...แม้การกระทำและคำพูดจริงๆ จะทำร้ายคนอื่นขนาดไหน...แล้วไม่เคยขอโทษ...เราบอกเลย...ตัวเราเองก็ไม่ได้ดีไร...แต่เราก็บอกไงว่าเราไม่ได้ดี..ก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองดี

    ในสังคม....คือเรื่องเราไม่เกี่ยวกับคนอื่นหรอก...เราจะเป็นอย่างไร...จะไปตายที่ไหน...แต่เราก็เหมือนเคยเจอคำพูดเหมือนกัน...เหมือนเขาพูดแบบ...เรื่องไรของเราก็ไม่เกี่ยวกับเขา...แต่เราเองก็ไม่ได้ไปยุ่งไรกับเขา....ไม่ใช่หรือไง...หรือเราพูดบ้าไรอยู่คนเดียว

    ความจริงคนเรามีชีวิตอยู่ไปทำไมก็ไม่รู้...เห็นแบบนี้ก็เสียใจผิดหวังมาเยอะ...แต่หลายๆ เรื่องก็คือทำตัวเอง....หลายอย่างควรชดใช้ด้วยความตายจริงๆ....ทำเรื่องพลาดหรือโง่มาก็เยอะ....ทั้งเรื่องงานหรือเรื่องคนอื่นๆ....ที่เหมือนเคยดีกับเรา....ความจริงเราก็คิดมานานแล้ว...อย่างเรื่องคนอื่นๆ...ที่เหมือนเคยดีกับเราอ่ะ...แม้ตอนนี้อาจไม่ดีแล้วหรืออาจไม่เจอกันแล้วทั้งชาติ...หรือเจอกันแต่ไงก็คงไม่รู้จักกัน...ต่อให้เขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวไรกับเราอีกหรือหายไปในสักวัน...ความจริงทางออกเรื่องนี้...เราต้องตายนะ...เพราะเราอาจยึดติดหรือลืมไรไปไม่ได้...ซึ่งคิดว่ามีคนเข้าใจมั้ย...ไม่มี...บ้าผู้ชายมั้ย..เราว่าถ้าเราพูดหรือไรออกไป...คนอื่นๆ มันจะเทไปเข้าใจในทางนั้นมากกว่า....แต่เราไม่โอเคมากๆ...คือเราอาจแอบชอบใครมาหลายคน...คือจริงแหละ...ตอนนี้ 33 แล้ว...แต่ก็ไม่ได้ยุ่งหรือไรกับใคร...ไม่เคยมีแฟน...ไม่เคยมีไรกับใคร....แต่ก็โดนเรื่องไม่ดีในส่วนของเรื่องผู้ชายเยอะ....เคยไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลก็แจ้งตรวจสุขภาพ...คือมีเจาะเลือด...ตรวจปัสสาวะ...อยู่ๆ พยาบาลมาถามว่าเราตรวจซิฟิลิสเหรอ...หันไปมองก็เหมือนมีหมอและพยาบาลมอง....คือเราโกรธมากจริงๆ....เพราะเราไม่เคยมีไรกับใคร...แม้ตอนนี้ผ่านมาหลายเดือน...เราก็แช่งเลยว่าขอให้ลูกหลานหมอและพยาบาลที่มองให้เป็นพวกมั่วผู้ชายและติดซิฟิลิส....ต่อให้แต่ก่อนเราเคยชอบใครมาหลายคน....แต่เราไม่เคยมีไรกับใครทั้งนั้น...ทั้งที่เด็กสมัยนี้ก็มีแฟนหรือไรเยอะแยะ...แต่เรากลับต้องโดนเรื่องพวกนี้....คือเหมือนไม่มีใครเขาเอาแหละ...แต่จำเป็นมั้ยที่เราต้องโดนเรื่องพวกนี้...ชาตินี้เราอาจโสดจนตาย...แต่เราไม่ชอบจริงๆ...เพราะส่วนใหญ่เราก็แอบชอบคนอื่นแหละแต่ไม่ได้ยุ่งไรกับใคร...ไม่ชอบแก่งแย่งชิงดีผิดหวังเพราะสู้ใครไม่ได้อยู่ดีและเราเงียบมากๆ....ส่วนใหญ่สนใจงานเพราะเอาตัวไม่รอด..ได้แค่เพ้อเจ้อคนเดียวแค่นั้นแหละ...แต่ไปยุ่งไรกับใครไม่ได้ แต่เราก็ทำชีวิตตัวเองฉิบหายล่มจมไปกับงาน....และเราไม่รู้จักใครด้วย...ไม่มีคอนเนคชั่นใดใดหลายอย่างพลาดเพราะตัวเอง....แต่สุขภาพจิตเราไม่ดี...ไม่ดีมานานแล้ว....บ้ามานาน....หลายๆ ทีเจอคนไม่ดีกับเราไม่ว่าคำพูดหรือการกระทำ...คือเราเป็นบ้าอ่ะนะ...ก็คือบ้า...คงได้ด่าอย่างเดียว....แต่เราก็ทำไม่ดีกับใครมาเยอะแบบเหมือนไม่สนใจหรือเดินผ่าน....ผลกรรมตรงนั้นก็ตกมาที่เราแหละ...หรือเขายิ้มให้...เรากลับเฉยๆ....ยิ่งตอนนี้เราแย่...คืออาจเหมือนดราม่า...แต่เราคิดมานานแล้วแม้คงไม่มีใครสนใจอะไร...ถ้าเราจะหาทางออกจากความรู้สึกนี้...เราคงต้องตาย...คือสมมติมีใครอ่านเจอคงบอกเราเรียกร้องความสนใจ...ดราม่า....ไม่ตายจริง....ก็นั่นซินะ...ไม่รู้จักตายไปซักที...จะได้จบๆ....ชีวิตเราไม่ได้มีค่าไรสำหรับใคร...แต่เราดันต้องเป็นคนที่ต้องตาย....คนเราสู้ทนเป็นบ้าเป็นบอเพราะความคิด, ความเข้าใจและคำพูดคน...แต่เราก็ไม่ได้ดีไรทั้งนั้น

    พี่เขาที่คุยวันนี้ก็บอกแบบให้เราทำบุญ....ที่เหมือนเราบอกเรากับที่บ้านต่างคนต่างอยู่...ป้าก็มีครอบครัวมีสังคมของเขา...พี่เขาก็บอกแบบอา่จเป็นเวรกรรม...ที่ทำให้เราต้องอยู่คนเดียว....แบบมันเศร้า...เราก็ว่ามันน่าเศร้าแหละ...แต่หลายๆ อย่าง...เราก็ทำตัวเอง...มันต้องยอมรับ...เราอ่ะหาทางออกไม่ได้ด้วยและกี่ปีที่ต้องอยู่ภายใต้ความคิด, ความเข้าใจและคำพูดคนอื่น....ทางออกมันไม่มี...นอกจากเราจะตายพูดไปคือเราเรียกร้องความสนใจแหละ...ก็อาจเป็นแบบนั้น...เราอ่ะชอบเรียกร้องความสนใจ...แต่หลายทีก็รับเรื่องแย่ๆ มาจากคนอื่นเขาเหมือนกันที่ทำร้ายเราลงไป...ชีวิตใครชีวิตมัน...คนเรามันเจอเรื่องเจ็บปวดเยอะ...เราไม่ได้อยากมีชีวิตแบบนี้......แต่มันทำไรไม่ได้จริงๆ...และเราเป็นคนทำร้ายทำลายอนาคตของตัวเองให้พังลงไปด้วย...

    มีคนบอกเราไม่สนใจ, ไม่มองและไม่ฟัง....เราบ้านะ....แต่เราอ่ะมาคิดทีหลังแล้วเสียใจจริงๆ แต่เราก็ไม่รู้ทำไงและพูดไร...ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรและไม่กล้าตลอด...แต่ในมุมนึงที่เราพูดไม่ได้....เราว่าเราแค่คิดมโนไปเองจริงๆ แหละ....คิดเข้าข้างตัวเอง......ว่ามีคนที่ยังดีกับเราแต่ความจริงแค่บังเอิญเจอ....คิดว่ามีคนอ่านเรื่องของเรา...ทั้งที่เขาบอกว่าไม่ได้อ่านหรือคิดว่ามีใครจะอ่าน...ทำอะไรๆ ที่ความจริงไม่ได้ยุ่งหรือไปอะไรกับใคร...เขาก็ว่าเราบ้าและประสาท....แต่คนพวกนั้น...ต่อให้เราตายไป...ก็ไม่มีใครไปงานศพเราอยู่ดี....

    เราอยากออกเดินทางไปในที่ต่างๆ....แต่คงไม่มีวันนั้นอีกแล้ว...และเราไม่อยากเจ็บปวดผิดหวังอีก...ในสังคมที่มีความคิดและความเข้าใจของคนมากมาย....เสียใจจริงๆ กับชีวิตตัวเอง.....

    เราก็ไม่รู้จะเดินไปทางไหน...และไม่อยากเดินไปในทางที่เจ็บปวดหรือต้องทนกับความคิดและความเข้าใจคนอีกแล้ว...เจ็บปวดทรมานและยาวนาน...ทางที่ทอดยาวออกไป...แล้วมันไม่มีจุดหมาย.....มีแต่ความเสียใจ...ความผิดพลาดกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น

    ถ้าเราเป็นพี่เขาและเจอน้องที่เป็นแบบเราจะพูดไง...เราเอามานั่งคิดตอนกลับบนรถเมล์....คงบอกว่า....ไม่รู้ว่าเกิดไรขึ้น...ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร...แต่ไรที่คิดอยู่...ถ้าคิดว่าดีแล้วก็ทำไป..ตัดสินใจเอง....คือรู้แหละพี่เขาก็หวังดี...มีคนเคยบอกให้รักตัวเอง...แต่ใจเราที่เจ็บปวดและลอยหายไป...คนเราเป็นบ้าเพราะเรื่องตัวเองหรือบ้าเพราะความคิด, ความเข้าใจและคำพูดคนอื่น....???

    เรามาคิด....เราไม่ยุ่งกับคนอื่น...เพราะเราเห็นแค่ในสิ่งที่เห็น...รับรู้แค่ในสิ่งที่รับรู้ภายนอก....แต่ชีวิตคนเรามีเรื่องต่างๆ มีความลับ เรื่องส่วนตัวที่เขาอาจเป็นคนเดียวที่รับรู้หรือปิดบังไว้....จะให้ไปนั่งวิเคราะห์อะไร.....เราก็คงไม่รู้ความจริงอะไรในตัวเขาอยู่ดี

    ความจริงเราก็โง่เขลามาเยอะ...ทำเรื่องพลาดมาเยอะ....จุดจบเลยเป็นแบบนี้

    กลับมาแถวหมู่บ้าน...เราเครียดๆ มีเรื่องทุกข์ใจใน....เห็นจากสะพานลอยมีตำรวจตั้งด่านก็มองๆ....ปีใหม่ปีนี้แย่กว่าปีที่แล้วมากๆ....แย่ที่สุด...กลับมามีช่วงรถติดก็คิดว่าคนออกต่างจังหวัดกันแล้วมั้ง...วันนี้วันทำงานวันสุดท้ายของปี....แต่เราไม่ได้ไปไหน...ตั้งแต่ปีที่แล้ว...เห็นพี่เขาถามเรื่องงาน..เราก็ฟังและตอบเหมือนไม่ได้สนใจ....เราก็มีเรื่องทุกข์ เครียดและผิดหวังในใจแหละ...และไม่อาจปฏิเสธความผิดพลาดของเราได้โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา...แต่เรื่องไรในใจและเหตุผลต่างๆ ว่าทำไม...เราเองคงรู้คำตอบได้เองดีที่สุด...และพี่กับเราก็ไม่ได้สนิทไรกันที่จะต้องรับรู้เช่นกัน

    กลับมาก็เจอไรที่ทำเรารำคาญ...แบบตอนที่เรายืนบนสะพานลอยไม่มีแต่พอลงมา...น่ารำคาญ...คือไม่รู้หลายอย่างในใจ...เราเดินเข้าหมู่บ้านไปแล้ว...และคิดๆ แล้วเดินย้อนออกมาไปที่ 7/11 ซื้อน้ำแดงไปบ่นระบายเรื่องทุกข์ในใจให้ศาลฟัง...ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ายังมีสิ่งใดอยู่มั้ย...และเราไม่แน่ใจตาแก่ที่อยู่แถวนั้นว่าเราบ้ามั้ย...หรือเห็นเคยมองที่เราและพูดเหมือนคิดว่าใครจะอ่าน...ซึ่งถ้าเขาไม่บ้า...เราก็คงบ้าแหละ...แต่เราก็ไปไหว้และพูดเหมือนที่เราพูดเมื่อวาน...เรื่องดีดีที่เราสูญเสียไปและเรื่องแย่ๆ ที่ทำเราทุกข์ใจ คิดมาก...มันก็เหมือนได้แค่บ่นระบาย....ทำไรไม่ได้....ทุกอย่างในความรู้สึกมันรับรู้ถึงความว่างเปล่ารอบๆ ตัวเรา....แต่การได้ระบายเรื่องในใจแม้เปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือทำไรใครไม่ได้...มันก็สบายใจขึ้น...หลายครั้ง...เราก็ไม่รู้ว่าชีวิตเราดีไม่ดีกันแน่...เราก็มีสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต...และสิ่งแย่ๆ เข้ามาในชีวิต.....ทางออกมันไม่มี...หลายครั้งก็คิดว่าทำไมเราต้องเป็นคนที่จะต้องตาย....หลายอย่างแก้ไขไรไม่ได้จริงๆ...เราก็แค่คนเรียกร้องความสนใจคนหนึ่ง...ที่จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้...แต่คนที่บ่นจะตายมากๆ ตายยากอยู่เหมือนกัน...เราก็ทัศนคติแง่ลบแหละ....แต่เราก็เจอเรื่องแย่ๆ จากความคิด, คำพูดและความเข้าใจคนมาเยอะ...พอๆ กับที่เราสูญเสียสิ่งดีดีในชีวิตไปเพราะตัวเราเองเหมือนกัน...และทำไรไม่ได้ อาจแค่ความรู้สึกเราเองแค่นั้น....เป็นบ้าจริงๆ อ่ะเรา...แต่อย่างที่พูดซ้ำๆ....มีคนที่ดีกับเรา..และมีคนที่ไม่ดีกับเรา....ปล่อยวางยาก...เราก็ไม่รู้ว่าชีวิตเราจะไปอย่างไรต่อเหมือนกัน

    แล้วตลาดรถไฟคือ?...ก็แค่แวะไปเดินมาเพราะพี่ชวนอยากขายของ...แต่คนจีนเยอะมาก...อาหารขายดีสุด..เต็มเกือบทุกร้าน...เหมือนเป็น 1 ในโปรแกรมทัวร์ถูกๆ ที่มีลงที่พวกร้านค้าพวกนี้....เหมือนเราไปลงทัวร์เหมาราคาไม่แพงที่มีโปรแกรมไปแวะซื้อของหลายร้านนั่นแหละมั้ง...แต่ที่นี่พวกสินค้าถือว่าถูก...คนจีนเยอะมากจริงๆ.....

    มีคนถามแบบเราไปเที่ยวเยอะ...แบบตอนตกงาน...ไม่มีเงินไรทั้งนั้นและอย่างไปอยุธยาคือค่ารถไฟถูก...หนีปัญหาไปวันๆ...หนีความจริงไปแบบไม่มีที่สิ้นสุด....รู้แหละว่าพี่ถามแบบตามประสาคนรู้จักที่มีเรื่องดีดีไม่ได้มุ่งร้ายหรืออะไรไม่ดี...แต่เราหลายๆ ปัญหา...หลายๆ เรื่อง...เราก็ไม่รู้อยู่หรือตาย...หรือทำอะไรอย่างไร...พอฟังไรมากๆ นานๆ...เราก็ไม่อยากฟังแบบเครียดและคิดมากเพิ่ม...เราอ่ะอ่อนไหวง่าย..คิดมากและเครียดง่าย....ตอนเครียด...เราไม่อยากฟังไรนานๆ และมากๆ...เราบอกตรงๆ เราคงหางานไม่ได้อีก...และถึงหาได้...ก็ไม่รู้รอดมั้ย....เพราะเราสติไม่ดีจริง...และอารมณ์ไรพวกนี้ด้วย....คือชีวิดไม่ได้ดีไร...ผิดหวังเสียใจมาเยอะ....เราเหมือนไม่สนใจไรเท่าไหร่...เพราะอยู่คนเดียวมามากไปแหละ แต่อยู่คนเดียวก็ล่องลอยไป..บางทีก็ไม่ทุกข์กับสิ่งต่างๆ จากคนอื่น...เราไม่ใช่คนดีไรหรอกและไม่รู้จะรอดไปอีกนานแค่ไหน...แต่คนเราไม่ตายก็ต้องดิ้นรนกันต่อไป...แต่คนที่ไม่ดีกับเรา...เราก็ด่าแหละเพราะเราว่าเราไม่น่าจะไปทำไรเขาถ้าเขาไม่ดีกับเราก่อน....คนที่ดีกับเราแล้วเหมือนเราไม่สนใจ...มาย้อนคิด...เราก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำเรากับใครๆ ทุกคนนั่นแหละ...แต่พูดไรไม่ได้...เพราะเหมือนคิดไปเองมั้งหรือจะไปยุ่งไรกับคนอื่นรึไง...ซึ่งที่ผ่านมาก็ไปยุ่งไรกับใครไม่ได้อยู่แล้วแหละ....แต่หลายอย่างเราไม่ดีและผิดเอง..แต่ก็ในส่วนความคิดและความรู้สึกเรา...และเราก็อยู่กับความผิดหวังเสียใจต่อไป คนเราไม่เข้าใจคนอื่นจริงๆ จังๆ หรอก...เราเองก็ไม่ดีแหละ...แต่ก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกัน...แค่มีลมหายใจไปวันๆ...เอาเป็นว่าเราอาจคิดไปเองแล้วกัน...ไม่อยากทุกข์ใจแบบนี้เลยจริงๆ...แต่เราก็ทำตัวเองให้มาถึงทางตันแบบนี้แหละ...ทั้งการตัดสินใจที่ผิดพลาดและความโง่เขลาของตัวเอง บ่นไปก็ไม่ได้ไร...แต่เราจะเป็นบ้าตาย....เหมือนเรียกร้องความสนใจ...แต่ก็อยู่คนเดียวในโลกตัวเองอยู่ดีแหละ....ประสาทกินกับสังคมและคน....ชีวิตอาจทำเวรกรรมมาเยอะมั้ง...จุดจบเลยเป็นแบบนี้...ถ้าเราไปเขียนหนังสือ....แบบชีวิตเรามีแต่เรื่องผิดหวัง...เป็นบ้า...แต่ก็ยังไม่ตาย....แต่ไม่รู้ทำไงดี...และบ่นบ้าประสาทกิน...เศร้าทั้งเล่ม...อ่านแล้วแบบนี่ยังมีชีวิตอยู่อีกรึไง...จะมีคนซื้อมั้ย
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in