ในวันที่ปัญหารุมเร้าคนอื่น เราสามารถสรรหาคำปลอบใจและแนวทางแก้ปัญหามาให้ทั้งล้านแปดสิ่งประหนึ่งเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน (เดี๋ยวๆ) จะรู้สึกได้ว่าปัญหานี้มันเล็กนิดเดียวเองนะเธอ
แปลกดีเหมือนกันที่พอเจอปัญหาเข้ากับตัวบ้าง กลับหาทางออกไม่เจอเหมือนกำลังเดินวนอยู่ในเขาวงกต ทุกอย่างมันดูใหญ่ไปหมด มองไปทางไหนก็ดูจะมืดมิดไปทุกหนทุกแห่ง คำปลอบใจต่างๆนาๆเหมือนจะไม่ช่วยให้สภาพจิตใจตอนนั้นดีขึ้นมาได้เลย หรือต่อให้คนทั้งโลกบอกว่า ทางออกก็อยู่ตรงหน้าเธอนั่นไง เราก็คงยังมองไม่เห็นอยู่ดีนั่นเอง
เราเคยฟังสัมภาษณ์พี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ในรายการ Perspective เปรียบเรื่องนี้ให้ฟังว่า
" ผมเปรียบปัญหาเหล่านี้เหมือนฝุ่นเข้าตา พอเข้าตาคนอื่นเราก็เอาออกให้ได้ใช่มั้ยล่ะ พอเข้าตาเราบ้าง เราเองก็ไม่รู้จะเอาออกยังไง "
ปล.คำพูดอาจจะไม่เป๊ะ แต่จับใจความได้ประมาณนี้นะคะ
จริงอย่างพี่โหน่งว่า เอาเข้าจริงไม่ว่าปัญหาที่เราเจอจะน้อยใหญ่ ขอเพียงเรามีสติมากพอ ที่จะรับมือกับปัญหาเหล่านั้น และเชื่อว่าเดี๋ยวมันจะผ่านไป เพราะการแบกความทุกข์ใจกับปัญหาไว้มากๆ ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้นมาแม้เพียงสักนิดเดียว
เมื่อไหร่ที่ฝุ่นเข้าตา ช่วยตั้งสติ จากนั้นก็เดินไปส่องกระจกแล้วค่อยๆเรียนรู้ที่จะเขี่ยฝุ่นที่เข้าตาออก อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่ไม่ยากเกินความสามารถเราหรอกหน่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in