แม้จะอุปสรรคเยอะขนาดนั้น หญิงสาวหนึ่งเดียวในบรรดาผู้ชาย ใช้การฝึกมาตรฐานเดียวกับผู้ชาย ก็ยังทำคะแนนได้โดดเด่น ไม่มีอะไรผิดพลาด และเอาตัวรอดมาได้เรื่อย ๆ ในทุกบททดสอบ แม้กระทั่งในบททดสอบที่สำคัญที่สุด คือ การเอาชนะตัวเองที่กลัวความสูง
การเอาชนะตัวเองของร็อกซี่ ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว แต่มีอยู่ตลอดเวลาทั้งในฐานะของผู้หญิงในหมู่ผู้ชาย ทั้งต้องเลือกระหว่างหัวใจของตัวเองกับคำสั่งขององค์กร และที่สำคัญที่สุด คือ การเอาชนะความกลัวของตัวเอง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวระหว่างการทดสอบ แต่ยังมีอีกครั้งหนึ่งที่เธอทำได้ในฐานะของสายลับ และในฐานะของเจ้าของชื่อรหัส 'ลานซล็อต'
ในฐานะเด็กฝึกจนกระทั่งเป็นสายลับตัวจริง ตัวตนและสิ่งที่เธอทำมาตลอดตั้งแต่เริ่มเข้ารับการฝึกจนกระทั่งเป็นคนสุดท้ายที่เข้ารับตำแหน่ง ทำให้เราอดนึกถึงเพลง Castle ของ Halsey ไม่ได้ เพราะเส้นทางสู่การเป็นสายลับของเธอต้องฝ่าฟันมิใช่น้อย จนกระทั่งประสบความสำเร็จ ไปยืนอยู่ตรงหน้า an old man sitting on the throne ใน locked up kingdom อย่างอาเธอร์ หัวหน้าองค์กรลับคิงส์แมน ซึ่งก็อาจจะไม่ได้ปลื้มใจกับการที่ได้สายลับเป็นผู้หญิงสักเท่าไหร่ได้
Halsey - Castle
Sick of all these people talking, sick of all this noise
Tired of all these cameras flashing, sick of being poised
And now my neck is open wide,
begging for a fist around it
Already choking on my pride,
so there's no use crying about it
I'm headed straight for the castle
They wanna make me their queen
And there's an old man sitting on the throne
That's saying that I probably shouldn't be so mean
I'm headed straight for the castle
They've got this kingdom locked up
And there's an old man sitting on the throne
That's saying I should probably keep my pretty mouth shut
Straight for the castle
ในวันที่เธอทำหน้าที่ของ 'ลานซล็อต' ร็อกซี่ไม่ได้สวมแม้กระทั่งสูท และภารกิจการทำลายดาวเทียมของเธอเป็นภารกิจที่ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรับรู้ แต่อย่างน้อย คนดูอย่างเราก็จดจำสิ่งที่เธอทำได้ และทำได้อย่างสวยงามในฐานะสายลับที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานั้น เราก็แอบคาดหวังไว้เล็กน้อยละว่า ร็อกซี่ควรมีบทมากกว่านี้ หรืออย่างน้อยที่สุด ในภาคต่อมาอย่าง The Golden Circle เธอจะได้โอกาสแสดงบทบาทภาคสนามอย่างสมศักดิ์ศรีของลานซล็อตบ้าง
Roxy and Percival
การเข้าเป็นสายลับของคิงส์แมนมาจากการเสนอชื่อเข้ารับการฝึกและทดสอบ ดังนั้น เส้นทางการเป็นสายลับของสาวน้อยตัวเล็ก ๆ แต่พลังกายพลังใจเหลือเฟืออย่างร็อกซี่ มอร์ตันจะเริ่มต้นไม่ได้เลย ถ้าใครคนหนึ่งมองข้ามเพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง และถ้าหากใครคนนั้น ไม่เชื่อมั่นว่าเธอเป็นคนที่เหมาะสม มีความสามารถเพียงพอสำหรับตำแหน่งสำคัญ ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเบื้องหลังทั่วไป คนที่เชื่อว่า อัศวินไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชาย
คนที่เสนอชื่อของร็อกซี่เข้ามาร่วมการคัดเลือกสายลับคิงส์แมนในตำแหน่ง 'ลานซล็อต' คือ Percival และนั่นทำให้เราเริ่มสนใจสายลับคนนี้ตีคู่กับมากับกาลาฮัด แม้ว่าเพอร์ซิวาลแทบจะไม่มีบทพูดอะไรเลยก็ตาม นอกจาก "แด่ลานซล็อต" ในการดื่มอวยพรให้กับสายลับที่เสียชีวิต แต่การเป็นสายลับเพียงคนเดียวที่เลือกเด็กสาวอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ และทำผลงานในการฝึกได้ในระดับดีเลิศ ทำให้เพอร์ซิวาลไม่ธรรมดาเลยในสายตาของคนดูอย่างเรา
เผลอ ๆ เพอร์ซิวาลอาจเป็นสายลับที่กบฏเงียบยิ่งกว่ากาลาฮัดที่เลือกเอ็กซี่ที่เป็นคนธรรมดาสามัญเข้ามาด้วยซ้ำ เพราะโลกของสายลับที่ใช้ชื่อรหัสเป็นชื่ออัศวินโต๊ะกลม ณ เวลานั้น ก็ยังคงเป็นโลกที่ผู้ชายเป็นผู้ควบคุม ปกครอง และบริหารอยู่นั่นเอง การปรากฏตัวของร็อกซี่ในฐานะผู้เข้าคัดเลือกเป็น 'อัศวิน' ก็น่าจะทำให้องค์กรที่มีหัวหน้าและผู้บริหารอนุรักษ์นิยมสะเทือนบ้างไม่มากก็น้อย
จากประวัติสายลับที่ฝ่ายทำ Visual Effect ของ The Golden Circle ปล่อยออกมา ถึงจะน้อยนิดและได้เห็นกันแค่แวบเดียว ยิ่งทำให้เราอยากรู้เบื้องหลังของสองคนนี้มากขึ้นอีก โดยเฉพาะเมื่อร็อกซี่ มีประวัติการฝึกทางทหารมาพอสมควร และไม่มีญาติมิตรที่ไหนอีก ในขณะที่คนที่เลือกเธอมา ไม่มีภูมิหลังด้านการทหารมาเลย แต่ก็เลือกเธอขึ้นมาเป็นผู้หญิงคนเดียวในหมู่ผู้ชาย (ไม่นับอมิเลียที่เป็นหนึ่งในแผนของเมอร์ลินในบททดสอบแรก)
ถ้าใครยังพอจำได้ ภาพของเพอร์ซิวาลที่มองมายังกาลาฮัดก่อนถอดแว่นสำหรับสื่อสารเหมือนมีตัวเลือกในใจอยู่แล้วด้วย พอเอาภาพต่อสองชิ้นมาต่อกัน นั่นก็ยิ่งทำให้เราอดอยากรู้ไม่ได้ว่า สองคนนี้รู้จักกันได้อย่างไร และเพราะอะไรเพอร์ซิวาลถึงเลือกร็อกซี่ขึ้นมา ทั้งที่รู้ว่า ผู้หญิงอย่างเธออาจเสียเปรียบคนอื่น เพราะสายตาของเพอร์ซิวาลที่มองกาลาฮัดมุ่งมั่นเกินกว่าจะเลือกมาเพื่อแพ้
อะไรที่เพอร์ซิวาลเห็นในตัวร็อกซี่... ความเป็นอัศวิน ความเป็นนักสู้หรือเปล่า แล้วร็อกซี่ล่ะ เมื่อมีคนยื่นข้อเสนอให้เธอไปสมัครทำงาน 'ที่อันตรายที่สุดในโลก' เธอจะรู้สึกอย่างไร
ลองนึกทบทวนดูถึงความเป็นไปได้ ก็นึกถึงบางท่อนของ Warrior ของ Beth Crowley ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะท่อนที่ว่า "I finally see what you knew was inside me all along. That behind this soft exterior lies a warrior"
Beth Crowley - Warrior
You take me by the hand
I question who I am
Teach me how to fight
I'll show you how to win
You're my mortal flaw
And I'm your fatal sin
Let me feel the sting
The pain
The burn
Under my skin
Put me to the test
I'll prove that I'm strong
Won't let myself believe
That what we feel is wrong
I finally see what
You knew was inside me
All along
That behind this soft exterior
Lies a warrior
ทั้งหมดนี้ ไม่มีใครรู้ได้ เพราะคนเขียนบทเองก็ไม่ได้พูดถึง แต่ในฐานะของคนดู เราอยากรู้ และอดคิดไม่ได้ว่า ร็อกซี่คงมีคุณสมบัติพิเศษมากจริง ๆ เมื่อมีคนไว้ใจในตัวเธอ เธอก็คงไม่ทำให้คนที่ไว้ใจเธอผิดหวังเหมือนกัน อย่างน้อยที่สุด บุคคลิกของร็อกซี่ในคิงส์แมนทั้ง 2 ภาคก็ชี้ว่า เธอเป็นคนแบบนั้น
เธอพิสูจน์ให้เราเห็นว่า เธอเป็นเพื่อนที่ดี และเป็นสายลับที่เก่ง
The Best Friend and The Best Agent
ใน The Golden Circle ... ในที่สุด เราก็ได้เห็นร็อกซี่ในสูทของคิงส์แมนเต็ม ๆ ซะที และแน่นอน เธอได้ใช้ชื่อรหัสลานซล็อตอย่างเต็มภาคภูมิ ร่วมโต๊ะประชุมกับสายลับคิงส์แมนคนอื่น ๆ รวมถึงคนที่คัดเลือกเธอมาด้วย (แวบนั้น เราแอบคิดนิดหน่อยว่า เอ็กซี่จะรู้สึกแบบไหนที่ ร็อกซี่นั่งอยู่ข้าง ๆ กับ mentor ของตัวเองอย่างเพอร์ซิวาล ในขณะที่ตัวเองรับสืบทอดชื่อรหัสมาจากกาลาฮัด ที่อาจไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว แม้ว่าท้ายที่สุด เอ็กซี่จะได้รับโอกาสครั้งที่สองอย่างเหลือเชื่อก็ตาม)
ในภาคสองนี้ ร็อกซี่ไม่ได้คู่กับเอ็กซี่ในฐานะคนรักอย่างที่ใครหลายคนแอบเชียร์มาตั้งแต่ภาคแรก เพราะคนที่เขาคบอยู่เป็นใครอีกคน แต่โดยส่วนตัวแล้ว นั่นไม่ใช่ปัญหา และเป็นเรื่องดีสำหรับการเป็น 'ain't that kind of spy movie' (แม้แต่มา คิงส์แมนภาคสองจะทำให้รู้สึกว่า just another one in that kind of spy movies นิด ๆ ก็ตาม ฮา)
แม้ว่าจะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่เอื้อให้เอ็กซี่กับร็อกซี่เป็นคู่พระนางกันได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ร็อกซี่จะกลายเป็นนางเอกขึ้นมาเพราะคู่กับเอ็กซี่ เพราะเธอโดดเด่นได้ตัวของเธอเอง ด้วยความสามารถของตัวเอง แม้ว่าในตอนท้าย ผลงานชิ้นสำคัญในฐานะลานซล็อต ที่ไม่มีสูทเป็นของตัวเอง งานแรกจะถูกบทฝ่ายชายดึงความสนใจไปก็ตาม แต่ถ้าคิดว่าเป็นงานในฐานะสายลับแท้จริงแล้ว เธอทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม คู่ควรกับการได้รับความไว้วางใจ และที่สำคัญ เธอไม่ใช่หญิงสาวที่รอเจ้าชายหรืออัศวินมาช่วย เพราะเธอเป็นอัศวินที่ออกไปฆ่ามังกรด้วยมือของเธอเอง
และใช่... บทบาทของเธอทำให้เราคาดหวังว่าจะได้เห็นบทบาทของสายลับหญิงที่แตกต่างจากหนังเรื่องอื่น ๆ ทั่วไป แต่ก็อย่างที่คนที่ดูแล้วรู้กัน บทของร็อกซี่น้อยเกินไป สำหรับการเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและสายลับที่ดีที่สุดอย่างที่เอ็กซี่พูด
น้อยเกินไปอย่างน่าเสียดาย
Meet Me On The Battlefield
แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว เราจะไม่ได้เห็น Lancelot อัศวินหญิงเพียงหนึ่งเดียวในที่ประชุมของคิงส์แมนออกปฏิบัติการในภาคสนาม และไม่รู้ว่ายังจะมีความหวังได้เห็นเธออีกครั้งไหม
ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะเห็นร็อกซี่ในหนังคิงส์แมน ในฐานะสายลับอย่างแท้จริงอีกครั้ง แต่ถ้าไม่มีโอกาสนั้นอีก ร็อกซี่ก็ยังคงเป็นตัวละครในคิงส์แมนที่น่าจดจำมากที่สุดคนหนึ่ง ในฐานะตัวละครหญิงที่โดดเด่นโดยไม่จำเป็นต้องมีบทรักหรือความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เคยอยู่ในฐานะวัตถุทางเพศ ไม่ต้องมีเลิฟซีน และมีเสน่ห์ในตัวเองในฐานะผู้หญิงเก่ง และเป็นตัวละครหญิงแถวหน้าที่ทำให้ทุกคนเห็นว่า ผู้ชายกับผู้หญิงสามารถเป็นเพื่อนกันได้ มี platonic relationship ก้นได้ มีเคมีที่ดีต่อกันโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีใครตกหลุมรักใครอีกคน
ถ้าเป็นไปได้ เราก็อยากเห็นร็อกซี่ มอร์ตัน... ลานซล็อต ในสนามรบอีกครั้ง และนั่นอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมากพอกับการได้เห็นตัวละครที่คนรักมากเหลือเกินอย่างกาลาฮัดกลับมามีชีวิตอยู่บนจอและต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเอ็กซี่ก็ได้
ฉะนั้น คำบอกลาและราตรีสวัสดิ์อาจยังไม่จำเป็นสำหรับเธอตอนนี้ก็ได้ แม้ว่าโอกาสจะน้อยนิดก็ตาม
SVRCINA - Meet Me On The Battlefield
When I was younger,
I was named
A generation unafraid
For heirs to come, be brave
And meet me on the battlefield
Even on the darkest night
I will be your sword and shield,
your camouflage
And you will be mine
Echos and the shots ring out
We may be the first to fall
Everything can stay the same
or we could change it all
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in