ถึงคุณ
.
หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบฉันคิดถึงประโยคจากจดหมายฉบับที่แล้ว “วงกลมแห่งเผ่าพันธุ์”คุณจำได้ไหมฉันว่าเป็นการเปรียบเทียบที่สมเหตุผลมากสุดมนุษย์เราดำเนินการวิวัฒน์เป็นวงกลมเพราะหากจะเปรียบเทียบเป็นเส้นกราฟจากระดับต่ำสุดไประดับสูงสุดและลงมาในระดับต่ำสุดอีก แบบนี้ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่
.
ด้วยความรู้สึกเป็นกราฟในสามัญสำนึกของเราคือการไต่ระดับจากความด้อยไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และลงมาสู่ความด้อย ในทางกลับกันมาคิดว่าสูงสุดคือความรุ่งเรืองจริงหรือเปล่าเป็นไปได้ไหมว่าความจริงคือเราโผจากความรุ่งเรืองในทุกด้านขึ้นไปสู่ความตกต่ำด้วยความเข้าใจผิด
.
ผู้อัญเชิญไฟแสดงนัยยะให้เห็นในลักษณะนั้นคือเราโผบินขึ้นสู่ความถดถอยถึงขีดสุดด้วยทำร้ายโลกของเราเองในทุกด้านฝากพิษตกค้างไว้กับธรรมชาติ ป่าไม้ สัตว์ป่า อากาศ ในผืนแผ่นดิน ในน้ำ ในเสียงรอบตัวและพิษนั้นย่อมตกค้างในตัวมนุษย์เองด้วยเช่นกัน
.
เมื่อเราอยู่ในจุดนั้นวันหนึ่งอดีตจะกลายเป็นอนาคตปัจจุบันจะกลายเป็นอดีตที่ย่ำแย่ไปหมด ทุกอย่างพลิกกลับด้านหนังสืออาจเฉพาะเจาะจงว่าเป็นญี่ปุ่นหลังเจอภัยพิบัติและปิดประเทศ โตเกียวแปดเปื้อนฝุ่นพิษมันแสดงให้เห็นว่าธรรมชาติสำรอกสิ่งที่มนุษย์ป้อนให้ใส่หน้ามนุษย์ แล้วทั่วโลกก็เป็นแบบนั้นในขณะนี้เราต่างคืบคลานเข้าสู่อนาคตแบบที่ว่า
.
เนื้อหาของหนังสือเผยให้เราเห็นสังคมในหลายด้านยิบย่อยครบหมด ผ่านความคิดมุมมองของชายชราผู้มีอายุยืนยาวเห็นความเป็นจริงที่ผ่านมาในความเจริญทางเทคโนโลยีเปรียบเทียบกับปัจจุบันในเรื่อง(ซึ่งปัจจุบันในเรื่องคืออดีตที่ผ่านมา)
.
เช่นการทะเลาะของพ่อแม่กับลูกผ่านโทรศัพท์ที่ต่างสาดคำพูดใส่กันคำต่อคำโดยไม่มีเวลายั้งคิดหรือทอดระยะของความรู้สึกพอเลิกใช้โทรศัพท์เปลี่ยนมาเขียนจดหมายหรือไปรศนีย์บัตรแทน การทะเลาะกันกลับน้อยลงเนื่องจากต่างฝ่ายได้ทอดระยะแห่งการใคร่ครวญความรู้สึกรุนแรงลดน้อยลงหรือหายไปในที่สุด(จำได้คุ้นๆว่าคู่ของฮิวโก้กับฮาน่าใช้วิธีการเขียนจดหมายเวลาทะเลาะกัน)
.
ข้อดีของการบันทึกข้อมูลด้วยการเขียนด้วยมือเพราะไม่มีใครสามารถเขียนแก้หรือลบข้อมูลได้ในเวลาสั้นๆ
การศึกษาที่ต้องจ่ายค่าเทรอมแพงลิบแต่ไม่มีหลักประกันได้ว่าเราจะไม่ตกงานการเรียนที่ใช้เวลานาน
ปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงคือปัญหาระดับประเทศส่วนปัญหาที่เกิดที่อื่นก็อยู่ที่นั่นแหละ
.
บทความของสื่อที่เราไม่สามารถเชื่อได้ว่าอันไหนจริงกันแน่ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นอยากขายอะไรหรือต้องการนำเสนอแง่ไหนให้ประชาชนรับรู้รัฐที่ควบคุมเบ็ดเสร็จด้วยการงดใช้อินเตอร์เน๊ต เครื่องใช้ไฟฟ้า มีกฎข้อห้ามเรื่องภาษาต่างประเทศเรื่องการควบคุมแรงงาน จิปาถะ
.
หนังสือเล่มนี้ถูกจริตมากสำหรับฉัน(ชื่นชอบแนวเสียดสีประชดประชันเป็นพิเศษมั้ยเนี่ย)เป็นอีกเล่มที่อ่านขาด(ยับเยิน) การดำเนินเรื่องเนิบช้าแบบใครสักคนกระซิบเล่าถึงความลับของมนุษยชาติแต่เสียงดังก้องไปทั้งจักรวาลแต่ละหน้าคือสารส่งกระตุ้นเตือน ไม่หวือหวาแต่ชวนพรั่นพรึงปกหลังอาจระบุว่าเป็นดิสโทเปียก็จริง แต่ลองอ่านดูจะรู้ว่ามันคือขณะนี้ปัจจุบันนี้ที่กระบวนการหนึ่งกำลังคืบคลานเข้าสู่โลกอนาคต
.
เช่นการรณรงค์การเลิกใช้ถุงพลาสติกการหยิบยกเอาอัตลักษ์เก่ามาเชิดชูสร้างภาพลักษ์เป็นจุดเด่นทางการท่องเที่ยวหรืออาหารโบราณที่สืบทอดกันมาแล้วเคยทอดทิ้งโดยการโอบอุ้มขึ้นมาใหม่ผู้คนซึ่งใช้ชีวิตสามัญสมถะแบบอินดี้ไม่สนโลกถูกยกย่องเชิดชูบ้างเป็นครั้งคราว
.
มนุษย์เมืองโหยหาชีวิตสโลลี่งดการเสพโซฯการลดใช้นั่นนี่โครงการรักษ์โลกทั้งหลายแหล่การหันมานิยมชุดไทยช่วงหนึ่งซึ่งบัดนี้ปลิวหายไปล่ะ
.
เสน่ห์ที่น่ารักของเรื่องนี้ซึ่งฉันชอบมากคือคนเขียนใช้คำเปรียบเทียบได้น่ารักแม้จะเป็นการเสียดสีประชดประชันก็เถอะซึ่งต้องยกความดีงามให้กับคนแปลด้วยเช่นกัน คุณคงสงสัยว่าผู้อัญเชิญไฟคืออะไรใช่มั้ยล่ะเกี่ยวกับเนื้อเรื่องตรงไหนผู้อัญเชิญไฟคือทูตที่ออกไปสร้างความสัมพันธ์กับประเทศอื่นลับๆ
.
โดยคัดจากเด็กพิเศษที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ย้ำว่าไม่มีนะ
-เด็กหัวไวที่ใช้ความฉลาดเพื่อตัวเองเท่านั้น
-เด็กความรับผิดชอบสูงแต่ความสามารถทางภาษาไม่ดี
-เด็กที่พูดเก่งแต่หลงอยู่กับเรื่องที่ตัวเองพูด
-เด็กที่รับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดของคนอื่นแต่อ่อนไหวง่าย
-เด็กที่มีความมุ่งมั่นแต่อยากหาลูกน้องหรือแบ่งพรรคแบ่งพวก
-เด็กที่ทนอยู่กับคนอื่นไม่ได้
-เด็กที่ทนความโดดเดี่ยวไม่ได้
-เด็กที่ไม่มีความกล้าหรือพรสวรรค์ในการพลิกคว่ำค่านิยมที่มีอยู่เดิม
-เด็กที่ต่อต้านไปหมด
-เด็กขี้ฉวยโอกาส
-เด็กอารมณ์แปรปรวนรุนแรง
.
คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้หรือเปล่าถ้ามีคุณอย่าหวังว่าจะได้รับเลือกให้เป็นผู้อัญเชิญไฟ.
8/04/2019
.
#ผู้อัญเชิญไฟ
#YOkoTawada
#มุทิตาพานิช แปล
#กำมะหยี่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in