แถมก็ไม่ได้ตามข่าวสารอะไรมากมาย เพราะตอนนั้นทีมบอลทีมนั้นยังไม่ขึ้นบนลีกสูงสุด

เลยไม่มีนักข่าวสายกีฬารายงาน

หรือมีการถ่ายทอดมาที่ไทยแต่อย่างใด

หลังจากคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนชิป 

สังเวียนพรีเมียร์ลีกเริ่มขึ้น 

โชคร้ายที่เจ้าจิ้งจอกเกือบพ่ายแพ้ และเกือบออกจากสังเวียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษ แต่โชคดีที่พวกเขายังยืนระยะ และหนีโซนตกชั้นแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

คอบอลหลายๆ คนคิดว่าทีมจิ้งจอกสีน้ำเงินคงอยู่ได้แค่ปีสองปี อย่างเก่งก็คงอยู่เกือบๆ ตกชั้นล่ะมั้ง

แต่ใครจะคิดว่าหลังจากนั้น 

เทพนิยาย แห่งวงการฟุตบอลได้ถือกำเนิดขึ้น

รถบัสสีน้ำเงิน เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการแห่ฉลองแชมป์แรกในรอบหลายร้อยปี เป็นประวัติศาสตร์ที่ชาวเมืองเลสเตอร์จะไม่มีวันลืม โมเม้นต์ที่นักเตะชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกแห่รอบเมือง ยิ่งทำให้สาวกจิ้งจอกสีน้ำเงินอยากจะเก็บช่วงเวลานั้นเอาไว้ให้ลูกหลานได้ฟัง

ทว่าเทพนิยายเรื่องนี้มันไม่ได้จบแค่ชูถ้วยแชมป์

แต่นั่นเป็นการเริ่มต้นของการยืนระยะบนพรีเมียร์ลีก

สูงสุด (ที่เกือบ) คืนสู่สามัญ

เจ้าจิ้งจอกและสาวกของพวกเขารู้ซึ้งความไม่แน่นอนในวงการฟุตบอล พวกเขาไม่สามารถป้องกันแชมป์อีกสมัย และที่สำคัญก็มีการเปลี่ยนโค้ชหลายคน แต่ผลลัพธ์มักจะอยู่โซนกลางตารางแทบทุกครั้ง

มิหนำซ้ำนักเตะชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์บางคนก็ย้ายทีมตามวิถีของนักฟุตบอล 

สาวกจิ้งจอกสีน้ำเงินบางคนคงคิดว่าอย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าอยู่โซนหนีตกชั้นล่ะกัน

แต่ใครจะคิดว่าชายที่เคยพาหงส์แดงขึ้นรองจ่าฝูงในสมัยหนึ่ง จะกลับมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง 

ในฐานะผู้จัดการทีมเลสเตอร์ซิตี้

ร็อดเจอร์ พาเจ้าจิ้งจอกขึ้นอยู่โซนหัวตาราง ไล่บี้อดีตทีมที่เขาเคยคุมอย่างหงส์แดง และมีเรือใบสีฟ้าคอยจ้องแย่งที่สองเพื่อกระชากว่าที่แชมป์ให้เป็นของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนที่เชียร์เจ้าจิ้งจอกตัวนี้ศรัทธาในตัวผู้จัดการทีมคนปัจจุบันนั่นคือ 

ความกระหายในชัยชนะ

คำขวัญของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ 

น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

ไม่ว่าจะนำ เสมอ หรือไล่ตามทีมฝ่ายตรงข้าม

แต่พลังใจของนักกีฬายังคงเต็มที่อยู่เสมอ

และพลังในการเชียร์ของชะนีไทยคนนี้ก็ยังจะเชียร์เจ้าจิ้งจอกอยู่ 

แม้ว่าจะแพ้-เสมอ-ชนะทีมใดในเกาะอังกฤษ

ฉันก็ยังคงเชียร์นายอยู่เสมอ

เจ้าจิ้งจอกสีน้ำเงิน