สวีวั่ง คิดไม่ถึงเลยว่าคืนนี้เขาจะฝันถึง อู๋เซิง รักแรกสมัย ม.ปลาย ที่ไม่เจอมานานนับสิบปี แม้ว่าการที่อีกฝ่ายใส่ชุดนอนยืนอยู่กลางทุ่งหิมะอันหนาวเหน็บจะดูแปลกไปบ้าง ทว่าความคิดถึงทีี่มีมันเอ่อล้นจนสวีวั่งต้องเอ่ยสารภาพรักออกไป (*ﾉωﾉ) แถมยังขโมยจูบอีกฝ่ายจนรู้สึกว่าชาตินี้นอนตายตาหลับแล้วล่ะ (⁄ ⁄>⁄ ▽ ⁄<⁄ ⁄) แต่จู่ๆเสียงคำรามของหมีดำกลับดังขึ้น ตามมาด้วยกรงเล็บที่ตะปบลงบนไหล่จนสวีวั่งเจ็บปวดเหมือนตายไปแล้วจริงๆ 555 ทันใดนั้นเสียงหนึ่งพลันดังขึ้นในหูว่า ที่รัก~~ ได้พักก่อนเวลา เดี๋ยวฉันจะส่งเธอกลับบ้าน จากนั้นทุกอย่างหายวับอย่างไร้ร่องรอย แทนที่ด้วยสวีวั่งที่ใส่ชุดนอนยืนงงอยู่กลางสี่แยกตอนตีสี่!

        ทั้งๆที่ควรจะเป็นแค่ความฝัน ทว่าบาดแผลที่ไหล่กลับฟ้องว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง สวีวั่งคิดอยู่ทั้งวันแต่ก็ไม่ได้คำตอบเสียที กระทั่งเที่ยงคืน เสียง ฮูก ฮูก ได้ดังขึ้นพร้อมกับพลังมหาศาลที่ดูดสวีวั่งเข้าไปยังสถานที่เดิม แถมยังเจออู๋เซิงและชายแปลกหน้าอีกสองคนยืนอยู่ด้วยกันที่นั่นด้วย ‒ เมื่อคืนพวกเขาเห็นนายสารภาพรักและขโมยจูบด้วยล่ะ โชคดีที่สวีวั่งหาข้ออ้างเบี่ยงเบนความสนใจจากเหตุการณ์งี่เง่าเมื่อคืนได้สำเร็จ อู๋เซิงจึงไม่สงสัยอะไรอีก ‒ ปาดเหงื่อแล้วหนึ่ง 555

         สำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีพจญภัยและเอาตัวรอดค่ะ ไม่เชิงทะลุมิติไปเลยแต่เป็นแบบบังคับตีตั๋วไปกลับมิติคู่ขนาน 555 โดยทุกๆเที่ยงคืนเหล่าผู้เล่นที่โดนหมายหัวไว้จะถูกดูดเข้าไปในโลกของ เซียว เพื่อทำภารกิจฝ่าด่านต่างๆ นอกจากต้องไขปริศนาว่ากุญแจสำคัญในการฝ่าด่านคืออะไรแล้ว พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับอันตรายรอบด้าน ทั้งการแข่งขันอันดุเดือด การต่อสู้ และถูกลอบโจมตีจากเพื่อนร่วมชะตากรรม มีเพียงการผ่านด่านสุดท้ายเท่านั้นจึงจะหลุดพ้นจากเซียวได้! การแพ้ครั้งเดียวหมายถึงต้องไปเริ่มต้นที่ด่านเก่าอีกครั้ง (⇀‸↼‶) ไม่แปลกเลยที่ผู้เล่นมากมายได้แต่วนเวียนอยู่ในเซียวด้วยความความทุกข์ทรมานและสิ้นหวัง ‒ ออกจากเซียวไม่ได้ จะทำภารกิจต่อก็ไม่รอดอี๊กกก o(TヘTo)

        เนื่องจากโลกของเซียวมีกฎเกณฑ์และตรรกะเป็นของตัวเอง ด่านต่างๆจึงน่าสนใจและมีรูปแบบปรับเปลี่ยนไปตลอด บางครั้งแม้จะรู้เป้าหมายของภารกิจ แต่ระหว่างทางกลับไม่มี Guideline ใดๆบอก พวกเขาต้องอาศัยความช่างสังเกต ประสบการณ์ ทักษะต่างๆ และความสามัคคี ที่สำคัญคืิอต้องจับจุดอ่อนของเซียวให้ได้ถึงจะรอด! แต่ใช่ว่าเซียวจะโหดร้ายเสมอ 555 เมื่อผ่านด่านผู้เล่นจะได้ไอเท็มใหม่ไว้ใช้ทำภารกิจ ซึ่งแต่ละอย่างน่าสนุกทั้งนั้นเลยค่ะ บางอย่างเดาได้จากชื่อว่าใช้ทำอะไร บางอย่างอ่านซ้ำแล้วก็ยังรู้ว่ามันใช้ทำอะไรกันแน่? แน่นอนว่าไม่มีคู่มือการใช้อีกแล้ว ดังนั้นให้ดวงนำทางไปค่ะ 555 ใช้แล้วจะวินหรือจะเฟลก็ลุ้นไปกับพวกเขาได้เล้ยยย (✧ω✧)

        ส่วนการฟอร์มทีม ❝เซิงวั่งจินเฉียน❞ แสดงให้เห็นแล้วว่าการมีเพื่อนร่วมทีมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! ภายใต้การนำทีมของหัวหน้าสวีผู้เป็นทุกอย่างให้ทีมตั้งแต่ผู้นำทีม เครื่องแปลภาษาของกุนซือ นายหน้าต่อราคา จองตั๋วจิปาถะหรือกระทั่งเก็บเงินกองกลาง 555 เมื่อรวมกับมันสมองของอู๋เซิงแล้ว บอกเลยว่าด่านไหนที่ว่ายากพวกเขาก็ไม่หวั่น!! ความฉลาดและตรรกะขั้นเทพของกุนซืออู๋สามารถรวบรวมข้อมูล สร้างกลยุทธ์ และวิเคราะห์จุดอ่อนของด่านต่างๆได้อย่างเฉียบขาด ‒ แต่อย่าชมมาก กุนซือจะลอยขึ้นฟ้าอยู่แล้ว (≧▽≦) ส่วนลูกทีม เฉียนอ้าย สตรีมเมอร์นักกินในตำนานผู้แข็งแกร่ง พ่วงตำแหน่งเพืื่อนสมัยเรียน และ ค่วงจินซิน หนุ่มน้อยนักชงชาผู้มองโลกในแง่ดีนั้น เรามองว่าสองคนนี้มีคาแรกเตอร์แล้วแต่บทบาทยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ ต้องลุ้นในเล่มต่อไปว่าจะทั้งคู่จะปล่อยของอะไรออกมาให้ชม แต่เท่าที่ดูก็ไม่มีทีมไหนแกร่งไปกว่านี้อีกแล้วนะ 555 ยกเว้นตัวละครลับที่หน้าตาดีสุดๆคนนั้น～♡ 

        สำหรับสวีวั่งและอู๋เซิงนั้น แม้จะห่างกันไปนับสิบปี แต่การทำภารกิจร่วมกันในเซียวช่วยให้พวกเขากลับมาสนิทสนมและรู้ใจกันเหมือนดั่งวันวาน เพิ่มเติมคือมีเฉียนอ้ายเป็นตัวเชื่อมให้แต่ละคนเข้าใจและเห็นมุมมองของอีกฝ่ายมากขึ้น คนนึงแอบชอบ แต่ต้องทำเป็นเฉยทั้งๆที่ในใจแอบหวีดทุกโมเม้นและหาโอกาสแนบชิดอีกฝ่ายอยู่ตลอด 555 ส่วนอีกคนแอบห่วง แต่ก็ขี้เก็กทำฟอร์มไปเรื่อย ความสัมพันธ์ของพวกเขาเลยเป็นแบบเรื่อยๆไม่หวือหวา แต่ให้ความรู้สึกน่ารักกุ๊กกิ๊กแบบกวนประสาทแทน เพราะสองคนนี้กัดกันตลอดและไม่มีใครยอมใคร แบบถ้านายพิงใหล่ฉัน ฉันก็จะพิงหัวนายกลับ 555  ถึงตอนนี้ความรักของพวกเขายังไม่คืบหน้า แต่ท่ามกลางความโชคร้ายที่พวกเขาต้องพบเจอในเซียว มันก็มีอะไรดีๆซ่อนอยู่เหมือนกันที่อู๋เซิงบอกไว้ว่า หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้เจอเรื่องที่…พิเศษแบบนี้ อิอิ (≧◡≦)