24 November 2017
-- ช่วงนี้คือช่วงวงเวียนชีวิตและสารพันปัญหาจุกจิก ไม่สำคัญอะไร ข้ามได้ --
สวัสดีมิตรรักนักอ่านทุกท่าน
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ข่าวคราวเงียบหายไปเกือบสองเดือนเต็มๆเพราะช่วงที่ผ่านมาเราวุ่นวายมากมากมากและไม่ได้บินไปไหนเลยนอกจากกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์และอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ที่บินไปบ๊อยบ่อยจนคนไกลตัวแต่ใกล้ใจเริ่มระแคะระคายแล้วว่าเราไปงุบงิบแอบคบหาดูใจอะไรกับหนุ่มดัตช์ตาน้ำข้าวรึเปล่า...
ไม่ใช่นะ!
(แหม่... การได้ผู้มาหนึ่งหน่วยมันไม่ได้ง่ายเหมือนเดินไปเลือกผักที่ตลาดขนาดน้าน)
แต่สาเหตุที่เราบินแต่อัมสเตอร์ดัมก็เพราะว่าเรามีเพื่อนนามว่า เจ๊น้ำ (หรือฉม๊าว) ผู้ผ่าฟันใช้สมองประลองปัญญาสอบชิงทุนและอดทนทำงานงกๆจนได้ไปเรียนต่อที่นู้น เรามันสมองเล็ก ถนัดการใช้แรงงาน ใช้หยาดเหงื่อ แรงกาย (และบางทีก็หยดน้ำตา) แลกค่าตั๋วเครื่องบินอยู่ทุกวี่วันจึงเริ่มภารกิจส่งอาหารไทยไปครัวโลกอย่างเป็นทางการเพราะกลัวเพื่อนอดอยากไม่มีอะไรกิน เราเลยบินวนๆส่งหมูหยอง หมูแผ่น น้ำพริก ยาหม่อง แผ่นแปะแก้ปวดมันอยู่แค่ BKK - DXB - AMS ไม่ได้ไปที่ไหนแปลกใหม่มาซักพักแล้วล่ะ (Edit: อ้อออ มีไป DFW มารอบนึง ที่ไปนอนตายเพราะไม่สบาย และไป JFK มาแว้บนึง ซึ่งได้เจอคุณปู ไปรยาด้วยเว้ยยยยยยยยย กรี๊ดดดด ไปดูรูปในไอจีเอานะ)
และเหตุที่เรายุ่งๆจนไม่ได้มาเขียนเล่าอะไรให้อ่านเลยเป็นเพราะเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมนั้น คนไกลตัวแต่ใกล้ใจเดินทางบินลัดฟ้ามาทำงานที่ดูไบจ้า ก็งานโรบอทตามประสาวิศวกรนั่นแหละ แต่ฮืออออ ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่ฝันเป็นจริงว่าเขานั่งเครื่องบินหกชั่วโมงมาหาฉัน แม้ปากจะบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องมาก็ได้ ที่นี่ไม่มีอะไรให้เที่ยวหรอกมีแค่ตึกสูงกับทะเลทราย เก็บเงินไปเที่ยวที่อื่นกันดีกว่า แต่พอตอนที่เขาจะมาที่นี่จริงๆ เราดีใจมากเลยนะ พยายามสลับไฟล์ทเพื่อไปรับเขา กะว่าชีวิตนี้มันต้องได้เล่น tea or coffee or me? โว้ย แต่จนแล้วจนรอดก็สลับไปบินไฟล์ทที่เขามาไม่ได้เลยต้องมาเจอกันที่นี่แทน
ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้าน ครั้นจะให้เขากินข้าวกล่องเซเว่นทุกวันก็กระไรอยู่ เราก็ต้องเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี แลนด์เช้าแค่ไหนก็สู้ทำกับข้าวไปฝากเพราะกลัวอาหารไม่ถูกปาก พาไปดูตึกรามบ้านช่อง ทดลองชิมอาหารพื้นถิ่น
จากที่เราเฉยๆ-ไม่ชอบการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ รู้สึกว่ามันเหงาๆ อ้างว้าง เดียวดาย กลับกลายเป็นว่ามองดูแสงไฟบนยอดตึก Burj Khalifa แล้วคิดว่ามันสวยกว่าทุกที เหมือนมองโลกรอบตัวผ่านฟิลเตอร์โทนอุ่นละมุน
เป็นครั้งแรกตั้งแต่ย้ายมาแล้วรู้สึกว่าดูไบเป็นบ้าน
ที่คิดแบบนี้อาจเพราะมีคนที่เรารักรอการกลับมาของเราอยู่ก็ได้
น่อวววว คนอวดแฟน2017คือเราเองงงงงง
หลังจากที่เขามาดูไบ เราสองกันก็ได้จับมือกันขึ้นเครื่องบินด้วยกันเป็นครั้งที่สาม บินลัดฟ้าสู่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อไปพักผ่อนหย่อนใจจากเรื่องการทำงาน กินอาหารดีๆ ดูใบไม้เปลี่ยนสี่กุ๊กกิ๊กอยู่แถวๆภูมิภาคคันไซ นั่งรถไฟไป เกียวโต - คิโนซากิ ออนเซ็น - ฮิเมจิ - โกเบ - โอซาก้า - นารา ซึ่งหากมีเวลา(แน่นอนว่าไม่ใช่ช่วงนี้เด้อ) ก็จะไล่เรียงเอาแผนการเที่ยวมากางให้ดูเลยว่าไปไหนมาบ้าง ทำอะไรยังไง รอติดกันต่อไปนะจ๊ะ
ยังไงชมภาพตัวอย่างกันก่อนเด้อ
แง้มๆให้ดูก่อนนะ แวะไปดูรูปเพิ่มเติมได้ใน IG: ployapha.j
ส่วนที่เหลือต้องรออ่านนะจ๊ะ อิอิอิอิ
และระหว่างเที่ยวเล่นกินซอฟครีมวันละโคนอยู่ที่ญี่ปุ่นนั้น อยู่ๆนั้นก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเมื่ออยู่ดีๆเราก็ได้รับอีเมลล์จากทางบริษัทส่งมาว่า ต้องย้ายบ้านด่วนภายในสิ้นเดือนนี้! เพราะบริษัทจะไม่เช่าตึกนี้ต่อแล้ว ขออภัยในความไม่สะดวก พร้อมส่งลิสต์รายชื่อบ้านใหม่มาให้ว่าจะย้ายไปไหน (เออ...อย่างงี้ก็ได้หรอวะ) เราเลยต้องวิ่งหาที่อยู่ใหม่ หมุนไปกับการไลน์ติดต่อเพื่อนคนนู้น เมสเสจไปหาพี่คนนี้ เพื่อหาห้องคนไทยเพราะจะได้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน จนในที่สุดเราก็ได้ห้องและเพิ่งจะย้ายเข้าบ้านใหม่เมื่อวานนี้เอง มีรูมเมทคนไทยที่น่ารักสองคนคือ พี่วาว กับ ซูม ฮูเร่! (ส่วนอาลี่ย้ายไปอยู่กับเพื่อนเขาเหมือนกันที่ตึกในเมือง บ๊ายบายยยย)
สำหรับตึกใหม่ที่เราอยู่ชื่อว่า Dubai Silicon Oasis ซึ่งมันก็โอเอซิสสมชื่อนั่นแหละเพราะค่อนข้างไกลจากทุกสิ่ง ที่นี่เป็นชุมชนลูกเรือขนาดใหญ่ มีร้านค้าใกล้เคียงบ้าง แต่ก็ไกลไกล๊ไกลห่างจากที่ทำงานเหลือเกิน เพราะจากเมื่อก่อนที่เราอยู่บ้านการ์ฮูด เราใช้เวลาเดินทางมาทำงานแค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว ตอนนี้กลายเป็นว่าเราต้องนั่งรถไปประมาณครึ่งชั่วโมง
แม้ว่าจะไกลไปนิด นั่งบัสนานไปหน่อย แต่เราก็ชอบที่นี่นะเพราะถ้ามองออกนอกหน้าต่างจากห้องเราไปจะเจอสวนหย่อมเขียวๆ และยิมที่นี่สะอาดดีแม้ว่าอุปกรณ์จะน้อยไปหน่อย มีสระว่ายน้ำยาวพอที่จะว่ายไปกลับเพื่อออกกำลังจริงจังได้ ไม่ใช่มีเอาไว้ให้นั่งแช่ แถมเดินลงไปนิดเดียวก็เจอซุปเปอร์มาร์เก็ต ง่ายดี เหมาะกับคนที่วันๆไม่ไปไหนแบบเรา และที่สำคัญคือออออออออออออ
น้องงงงงงงงงงงงงง♡
(โปรดอ่านด้วยเสียงสูงแบบที่สองร้อยห้าสิบหกที่เอาไว้ใช้กับแมวหมา)
เราได้ไปผูกมิตรกับเจ้าถิ่นทั้งสามแล้วเรียบร้อย เซ่นไหว้ด้วยอาหารแมวหนึ่งกระป๋อง ตั้งชื่อให้แล้วเรียบร้อยแล้วว่า น้องสมจิต น้องสมใจ และน้องสมปอง
นี่คือห้องใหม่และเราเอง ห้องเล็กกว่าเดิมมากกกกกกกก แต่ก็กุ๊กกิ๊กขึ้นนะ
ยัง! ยังไม่จบเหตุแห่งความวุ่นวายในชีวิตเพราะในเดือนหน้าเราจะหยุดไปเริงร่ากับฝูงปลาที่ มาลาปัสกัว ประเทศฟิลิปปินส์ (ซึ่งจะมาเล่าให้อ่านกันเช่นเคย) แต่ทว่าหลังจากทริปดำน้ำนี้เรามีสอบ SEP ซึ่งเป็นการสอบประจำปีของเหล่าแอร์เพื่อจะต่อใบอนุญาตการบินที่เรายังไม่ได้เริ่มอ่านซักตัวเลยจ้า เรามี E-Learning ต้องทำเยอะม๊าก แค่เห็นก็ท้อแล้ว และต้องขุดเจ้า Manual เล่มยักษ์มาอ่านใหม่อีกรอบ ท่องจำนู่นนี่นั่นมากมาย เฮือกกกกกกกกกก ร่วมส่งแรงใจมาเชียร์ได้โดยไม่ต้องติดแฮชแท็กอะไร แค่ส่งหมูยอจากอุบลมาให้ก็พอ อยากกิ๊นอยากกินนนนนน
ก็ขอการบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตให้ทราบโดยทั่วกันไว้เพียงเท่านี้
และในลำดับต่อไปจะขอนำทุกท่านเข้าสู่...
ด้วยรักจากทะเลทราย:
ชิมแพนเค้กสไตล์ชาวดัตช์ | สัมผัสเมืองไลเดน เนเธอร์แลนด์
ณ บัดนี้
(นี้นี้นี้นี้ -- กรุณาอ่านเป็นเสียงเอคโค่แบบไมค์โครโฟนงานวัดด้วย)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in