เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
from the desert, with loveployapha.j
ตะลุยแอฟริกาตะวันตก 1 | นั่งกินไก่ย่างข้างน้ำตกที่กินี


  • 1 September 2017





    ตารางบินเดือนกันยายนเป็นตารางบินที่เราได้มาแบบงงๆ เรื่องของเรื่องคือระดับ priority ในการขอไฟล์ทบินของเราอยู่ท้ายตารางซึ่งยากที่จะได้ไฟล์ทดี ตารางหรู อย่างเดือนที่แล้วหลังจากไปเริงร่าที่ปารีสก็ต่อด้วยไฟล์ท group of death โดนส่งไปบินซาอุสองไฟล์ทติดกันคือริยาร์ดและดัมมานแล้วต่อด้วยแมนเชสเตอร์แบบไม่ได้พักหายใจเลย เหนื่อยมาก คิดว่าอยากจะคอลซิกมันซักไฟล์ทแล้วนอนอยู่บ้านเฉยๆแต่ก็เข็นตัวเองไปทำงานจนมาคอลซิกตอนไฟล์ทบังกลาเทศซึ่งเป็นไฟล์ทสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม






    ไม่ไหวแล้วโว้ย บินเหยียบ 100+ ชั่วโมงมาสองเดือนติดกันแล้ว
    พ๊ออออออออ เหนื่อยยยยย ป่วยนอนอยู่บ้านซ่อมร่างแล้วเว้ย





    และเพื่อป้องกันการโดนไฟล์ทเทิร์นติดๆกันแบบเดือนที่แล้ว ตารางเดือนกันยายนนี้เราเลยเปลี่ยนแผนใหม่ ตอนกดขอไฟล์ทเลยกดขอไปว่า "เอาไฟล์ทโลโอเวอร์ที่ไหนก็ได้ที่เกิน 48 ชั่วโมง" กะไปให้มันหายไปซักสามสี่วัน เบื่อดูไบ ไปนอนเล่นที่อื่นบ้างก็ได้ ผลคือเดือนนี้เราเปิดรูทใหม่ ได้ไปตะลุยแอฟริกาตะวันตกกับไฟล์ท โคนาครี (กินี) - ดาการ์ (เซเนกัล) ซึ่งเป็นไฟล์ทที่พวก priority สูงๆบิดกันเพราะมันง่ายมาก บินเก้าชั่วโมงไปนอนที่โคนาครีสองวัน แล้วบินชั่วโมงนึงไปดาการ์เพื่อนอนเล่นสองวันก่อนจะบินกลับดูไบ เฮ้ยยย มันดีมากเลยแก๊ กราบขอบคุณแต้มบุญอันน้อยนิดของตัวเอง (แต่เดือนนี้ก็บิน 100+ อยู่ดี ฮือ เหนื่อย)











    สำหรับไฟล์ทขาไปโคนาครีก็ง่ายมากเพราะมีผู้โดยสารแค่ร้อยนิดๆ แถมบินเครื่อง 777 ที่มี CRC กว้างโล่งโปร่งสบาย มีเวลานอนพักสองชั่วโมงครึ่ง ซึ่งดี ร่างไม่พังกลายเป็นปุ๋ยไปเสียก่อน โอเค๊












    ไม่ได้แลนด์ที่ไหนแล้วรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มาน๊านนานแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาเหยียบโคนาครี ประเทศกินีแห่งแอฟริกาตะวันตก ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆนะเพราะการมาเที่ยวประเทศแถบนี้มันดูห่างไกลมากๆ (ถ้าไม่ใช่สายลุยแบบเพจ I Roam Alone ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวของเราในทุกวันนี้) นี่ก็เป็นอีกครั้งที่รู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้มีโอกาสได้ออกมาเห็นอีกมุมหนึ่งของโลกแบบนี้ ถ้าไม่ได้ทำงานนี้ก็ไม่รู้ว่าในช่วงชีวิตน้อยๆของเราจะได้มาที่นี่หรือเปล่า โอ้เย่ ไอเลิฟมายจ๊อบบบบบ จะไม่บ่นว่าเหงาและเศร้าสร้อยไปอีกสี่วัน














    ระหว่างทางที่ไปโรงแรม เรามองสองข้างทางด้วยความตื่นเต้น สังเกตได้ว่าบ้านเมืองที่นี่ค่อนข้างเก่าและฝุ่นแดงตลบอบอวน ผู้คนที่เดินถนนสองข้างทางจะมีสกิลทูนของไว้บนหัวและเดินกันอย่างชิวๆ มีตลาดสดหลายแห่งตลอดทางจากสนามบินไปที่โรงแรม






    พอถึงปุ๊บ ลูกเรือทุกคนก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำและมานั่งชิวนอนชิวอาบแดดกันที่ริมสระว่ายน้ำ อัพรูปลงไอจี #crewlife #layover กันไปตามระเบียบ และก็เป็นโชคดีของพวกเราที่เราแลนด์กันมาตรงกับช่วง Eid พอดี (วันหยุดของศาสนาอิสลาม) ทางโรงแรมเลยมีโชว์ดนตรีและการแสดงพิเศษให้ได้ชมกันด้วย






    ทุกคนจะเดินมาเป็นจังหวะตามกลองแจมบ้า ร้อง Alles Africa กันมาแล้วก็ร้องเพลงเป็นภาษาพื้นเมือง




















    ชุดสีสันสดใสมาก เพลงจังหวะสนุกมาก



















    มีการแสดงบิดตัว โชว์ความยืดหยุ่นของข้อต่อและกล้ามเนื้อที่ทุกคนโอ้โห







































    มีการแสดงต่อตัว โชว์ความแข็งแกร่งของร่างกายด้วย








    โชคดีจริงๆที่ได้มาดูการแสดงครั้งนี้ สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณแห่งแอฟริกามากๆ ถือเป็นการต้อนรับการมาเหยียบแอฟริกาตะวันตกครั้งแรกอย่างอลังการ










    เรานั่งคุยนั่งเล่นกับลูกเรือไปเรื่อยๆ ตั้งใจว่าจะนั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน จิบเบียร์เย็นๆ ไฟล์ทนี้กัปตันและเฟิร์สออฟฟิศเซอร์ใจดีมากเลยได้คุยกันเยอะ จากการคุยสัพเพเหระทั่วไปกลายมาเป็นเรื่องดำน้ำได้ยังไงก็ไม่รู้ อย่างกัปตันนี่ก็ไม่ธรรมดา เป็น Dive Master นะจ๊ะ ส่วนเฟิร์สออฟฟิศเซอร์นั้นมาจากเกาะแถวๆฟิจิและวานูอาตู แหล่งดำน้ำระดับโลก โอ้โห เม้ากันยาวววววววว เอารูปเอาคลิปที่ไปดำน้ำมาอวดให้ดูเยอะมาก เล่าประสบการณ์การดำน้ำกันอย่างสนุกสนาน








    พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า สวยมาก บรรยากาศดี เบียร์ดี บทสนทนาดีไปหมดเลย
    เป็นการเริ่มต้นทริปที่น่าประทับใจ













  • 2 September 2017






    วันนี้เราออกไปเที่ยวกัน แหม่...ไหนๆก็มาที่นี่แล้วก็ต้องออกไปสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนภายนอกโรงแรมกันบ้าง ที่โคนาครีนี้มีโปรแกรมท่องเที่ยว 2 แบบ คือ วันที่อากาศดีจะสามารถนั่งเรือหางยาวของชาวบ้านไปที่เกาะได้ ไปชมหมู่บ้านชาวเกาะ อาบแดด เล่นน้ำทะเล กินอาหารพื้นเมือง กับแบบที่สอง เป็นโปรแกรมสำหรับวันที่ฟ้าครึ้ม คลื่นลมแรงไปเกาะไม่ได้ก็จะนั่งรถออกไปเมืองใกล้เคียงที่ชื่อว่า Dubreka (ออกเสียงไม่ถูกเหมือนกัน) ไปพักผ่อนหย่อนใจเล่นน้ำตก




    วันนี้ฟ้าครึ้มดูท่าว่าฝนอาจจะตกเลยต้องเลือกโปรแกรมที่สอง พวกเราเหล่าลูกเรือก็ยัดตัวกันเข้าไปในรถแวนเก่าๆก่อนที่จะมุ่งหน้าออกนอกเมืองกันจ้าาาาา





















    ระหว่างนั่งรถไปก็ได้รับความสนใจจากเด็กๆตลอดทาง
    เด็กๆจะยิ้มและโบกมือให้ตลอดเลย










































    และเรื่องราวตื่นเต้นก็เกิดขึ้นเมื่อเราขับรถผ่านตลาด ลูกเรือคนนึงหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปภูเขาตามปกติ ไม่ได้มีคนติดเข้ามาเลย อยู่ๆก็มีตำรวจโผล่มาโบกรถและโวยวายเป็นภาษาถิ่น คนขับรถของเราก็จอดรถเปิดกระจกรถและพยายามจะอธิบาย จนสุดท้ายต้องลงไปคุยกัน จังหวะนั้นชาวบ้านร้านตลาดก็กรูกันเข้ามาเป็นแอฟริกันมุง หลายคนยื่นมือผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาเพื่อขายของเป็นภาษาฝรั่งเศส พวกเราก็ Non กันใหญ่ว่าไม่เอาเด้อ ไม่ซื้อจ้า


    เรื่องราวเริ่มบานปลายเมื่อตำรวจเดินมาขอหยิบเอามือถือของเพื่อนลูกเรือคนนั้นไปเพื่อเช็คภาพ แต่อยู่ๆก็เดินฝ่าฝูงชนหายไปไหนก็ไม่รู้ ทุกคนในรถก็เฮ้ยยย เอาไงดีวะ จะลงรถไปตามหรือจะยังไง สุดท้ายก็เห็นว่าเขาเข้าไปตรงเพิงแถวนั้นแล้วกดๆเลื่อนๆดูรูปในมือถือและจะเรียกเอาเงินเพราะที่นี่ห้ามถ่ายรูป



    ทุกคนก็เอ๋าาาาาา ก็เราไม่รู้ คนขับรถก็มาเถียงว่าไม่ใช่ ไม่เกี่ยวเลย ไม่มีกฎหมายอะไรบอกนี่นาว่านักท่องเที่ยวจะถ่ายรูปไม่ได้ แถมรูปตรงนี้ที่ถ่ายไปก็ไม่มีคนติดอยู่ด้วยซ้ำ นี่จะเรียกเอาเงินกันชัดๆนี่นา พอเริ่มโวยวายเสียงดังมากขึ้น ชาวบ้านก็มุงมากขึ้นเรื่อยๆจนสุดท้ายตำรวจก็ปล่อยพวกเราไป



    ลูกเรือยุโรเปียนทั้งหลายก็บ่นกันใหญว่านี่เพราะเห็นว่าเป็นคนขาว เป็น white people ใช่มั๊ยถึงได้ทำแบบนี้บลาๆ เรากับเพื่อนลูกเรือชาวเกาหลีก็หันมาสบตากันนัยว่า "แก พวกนี้มันเอาอีกแล้วว่ะ" คือตลอดทางยุโรปเปียนทั้งหลายบ่นถึงความไม่เจริญของบ้านเมือง ความไม่สะอาดของถนนหนทางต่างๆนานาจนน่ารำคาญ บอกว่าการ Westernization จริงๆแล้วก็เป็นสิ่งที่ดีนะนี่นั่น เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างงู้นอย่างงี้ ซึ่งเราแอบเดือดอยู่ในใจว่าแหม๊... สิ่งที่ชนชาติยุโรปทำกับประเทศเหล่านี้มันไม่ใช่การเข้ามาช่วยพัฒนาให้ทันสมัย แต่มันเป็นการล่าอาณานิคมโว้ย บ้าเอ๊ย! แกเอาคนของเขาไปเป็นทาส เอาทรัพยากรของเขาไปใช้ สุดท้ายแกก็ทิ้งเขาไว้แบบไม่เหลืออะไรให้เขาเลย และสถานที่ท่องเที่ยวทุกที่มันก็แบบนี้แหละ ยุโรปก็มีโว้ยไม่ใช่ไม่มี๊!









    ซื้อที่ติดตู้เย็นแฮดเมดมาจากคนขับ น่ารักดีแม้ว่าจะเขียนผิดนิดนึงก็ตาม








    เรานั่งฟังพวกยุโรเปียนที่มีกรอบความคิดแคบๆบ่นเรื่องนู้นเรื่องนี้แล้วหันไปสบตากับเพื่อนเกาหลีหลายรอบมาก เรื่องที่เขาคุยๆบ่นๆกันก็มีเรื่องพี่ชายโดนหลอกให้ทำธุรกรรมซื้อของออนไลน์จากเมืองไทยแล้วโดนโกงสามสี่ครั้ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าถ้าคิดซักนิดแกจะไม่ถ่ายรูปหน้าบัตรเครดิตพร้อมเซ็นต์ชื่อแล้วถ่ายรูปส่งไปให้ใครก็ไม่รู้ โดนกรีดกระเป๋าที่เวียดนามที่ฟังดูแล้วแกก็ไม่ได้ใช้มาตรฐานความระมัดระวังเยี่ยงวิญญูชนเล้ย โอ้ยเยอะแยะมากมาย สารพัดในเอเชียและแอฟริกาจนกระทั่งรถมาจอดแวะซื้อขนมเพื่อเอาไปฝากที่บ้านเด็กกำพร้าระหว่างทางที่ไปน้ำตก
















  • พอถึงบ้านเด็กกำพร้าแล้วเด็กๆก็วิ่งมาแย่งกันรับขนม สิ่งที่น่าหดหู่กว่าสภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆที่เนื้อตัวมอมแมมและบางคนไม่มีรองเท้าใส่คือพฤติกรรมของเพื่อนลูกเรือด้วยกันเองนี่แหละ หลายคนแจกขนมไปเซลฟี่กับเด็กๆไปด้วย อุ้มน้องมาแล้วก็ถ่ายรูปสามสี่แชะ ซึ่งเราก็เฮ้ยอยู่ในใจว่าเด็กเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งของหรือสถานที่ท่องเที่ยวนะที่จะมาแชะถ่ายรูปแล้วก็วางลงมา เราไม่เห็นด้วยที่จะมาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อถ่ายรูปลงไอจีแล้วจากไปโดยไม่สนใจใยดีอะไรทั้งนั้น Children are not tourist attraction เด้อ ฝากไว้ให้คริสสสสสสสส!










    หงิดใจเลยเดินมาที่แผงขายมะนาวและลูกอะไรก็ไม่รู้ที่ก็ดูน่ากินดี













    และเราก็นั่งรถบุกป่าเข้าไปที่ The Soumba Waterfall และไปนั่งเล่นจิบเบียร์เย็นๆให้หายหัวร้อนอยู่ที่ร้านอาหารข้างๆน้ำตกไปพร้อมๆกับรำคาญเสียงนักท่องเที่ยวที่หน้าตาออกไปทางอินเดีย ปากี บังกลาเทศที่ส่งเสียงดัง เฮอะไรก็ไม่รู้อยู่ตลอดเวลา และเฮดังมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อสาวๆลูกเรือเปลี่ยนเป็นชุดบิกินี่แล้วลงไปชักภาพตรงน้ำตก









    เราไปเที่ยวน้ำตกครั้งสุดท้ายก็ช่วงประถม จำได้ว่าไปกินไก่ย่างริมน้ำตกที่เชียงใหม่กับคุณตา
    ทริปนั้นเป็นทริปตระกูลเลยก็ว่าได้ ไปกันเป็นสิบ นั่งรถไฟไปกันสนุกม๊ากกกก















    กลุ่มคนพื้นที่ที่เข้ามาแช่น้ำเล่นเงียบๆอย่างมีมรรยาท น่ารัก
    ตอนเราลงไปแล้วลื่นล้มก็วิ่งเข้ามาช่วยกันใหญ่ วิ่งจะไปหายามาทาแผลให้























    ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมากมายทั้งฝรั่ง จีน อินเดีย(คิดว่า) และคนพื้นที่ที่มาพักผ่อนหย่อนใจ ที่หน้าหงุดหงิดคือนักท่องเที่ยว(ไม่รู้ว่าชาติไหน)ทั้งกระป๋องเบียร์กันไว้เต็มเลย เรากับลูกเรือเกาหลีที่กลายมาเป็นบัดดี้กันอดรนทนไม่ได้ มึงไม่เก็บ กูเก็บเอง! อุทิศตนโดดลงน้ำว่ายไปเก็บกระป๋องที่ลอยตุ๊บป่องไปตามกระแสน้ำ คนพื้นที่ก็น่ารั๊กน่ารัก เห็นเราเก็บขยะอยู่ก็เอาถุงมาช่วยกันเก็บด้วยพร้อมกับบ่นๆเป็นภาษาของเขา ลูกเรือคนอื่นก็ช่วยกันมาเก็บด้วย และอีกเรื่องที่ทำให้ปรี๊ดจนเราอยากวิ่งไปโดดถีบคนอินเดียแบบขาคู่มากๆคือเขาสูบบุหรี่แล้วโยนทิ้งลงน้ำเฉย ไอ้เหี้ยเอ๊ย!! ขอแช่งชักหักกระดูกว่าขอให้แกเดินไปแล้วลื่นล้มหัวคะมำเข่าเลือดออก!






    หลังจากเก็บขยะ ถ่ายรูป และดำผุดดำว่ายอยู่น้ำเย็นๆที่แสนสดชื่นแล้วเราก็กลับขึ้นมาที่ร้านอาหารด้านบน กินไก่ย่างและปลาย่างประหนึ่งอยู่ในหนังอาหลอง ราดน้ำจิ้มถั่วเผ็ดๆที่แซ่บมากกกกกกกกกกกที่ถามมาแล้วเขาบอกว่านี่เหมือนเป็นน้ำจิ้มของกินีล่ะ แซ่บลื๊มมมม เป็นคนเดียวในโต๊ะที่ตักน้ำจิ้มราดแบบไม่ยั้งเพราะกินเผ็ดได้แบบสบายๆจนคนอื่นแซวว่าระวังท้องเสียนะเธ๊ออออ









    ไก่อร่อยมาก หมักแบบเข้าเนื้อสุดๆไปเลย เสิร์ฟพร้อมกับเฟรนฟรายด์และสลัด
    ส่วนปลาย่างนั้นไม่ทันถ่าย หายวับไปในทันทีที่มาวางบนโต๊ะ
    แต่ก็อร่อยมากและสดมาก โอ้ เลิฟ











    กินกันจนอิ่มหนำสำราญแล้วก็ได้เวลากลับ เราแวะปั๊มน้ำมันก่อนจะถึงโรงแรมเพื่อซื้อน้ำเปล่าและเบียร์โลคอลจากกินีกลับบ้านเพราะเบียร์ดีจริ๊งงงงงงง ชอบมาก พอถึงโรงแรมปุ๊บก็กลับมานอนงีบแล้วก็ลงไปกินอาหารเย็นพร้อมกับลูกเรือคนอื่นๆก่อนที่จะกลับมานอนยาวเพื่อทำไฟล์ทไปดาการ์ เซเนกัลในวันรุ่งขึ้น




    สำหรับตอนแรกของการมาเหยียบแอฟริกาตะวันตกครั้งแรกของเราก็จบลงเท่านี้ อ่านเองแล้วก็รู้สึกเหมือนว่าเรามาบ่นๆให้อ่านมากกว่ายังไงก็ไม่รู้แหะ แต่รับรองว่าตอนหน้าที่พาไปเยือนดาการ์นั้นจะเที่ยวครบ ข้อมูลเต็ม ความรู้แน่นแน่นอน!





    ด้วยรัก...จากริมมหาสมุทรแอตแลนติก



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in