27 March 2017
26 March 2017 - Baby, it's raining outside.
หลังจากไฟล์ทที่แล้วที่เราไปนอนตีพุงอืดๆอยู่ที่ธากา บังกลาเทศ เราก็ได้หยุดอยู่บ้านเฉยๆสามวันซึ่งเป็นช่วงที่สงบสุขในดูไบเพราะอยู่ๆฝนก็ตก นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดมหัศจรรย์ของเมืองทะเลทรายมากๆเพราะโดยปกติแล้วฝนจะตกไม่เกินห้าวันต่อปี แต่นี่อยู่ๆก็ฟ้ารั่วฝนตกติดต่อกันสามวัน
ใครจะบ่นยังไงเราไม่รู้ล่ะ เราชอบ เราคิดถึงฝนตก ชื่นใจเหลือเกิน
แต่ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอย่างไม่หยุดยั้งในวันที่ 4 เราโดน Airport Standby ตอนตีสอง นี่เป็นครั้งแรกที่อยากบินแค่โดฮา มัสกัต บาเรนห์ คูเวต การาจี อะไรก็ได้ที่สั้นๆเพราะนอนไม่หลับก่อนไปบินอีกแล้ว ถ้าโดนบินอะไรไกลๆนี่ตายแน่นอน
และดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง เรานั่งพักสายตาไปประมาณ 5 นาทีเท่านั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เราโดนส่งไปมัลดีฟส์จ้า เทิร์นที่โคตรยาว ทรมานร่างสุดๆเพราะออกจากดูไบตอนตีสาม กลับมาอีกทีบ่ายสอง
ยังไม่ได้นอนเลยยยยย ตาย ตายแน่นวลลลลล
#PrayforPloyapha
เราร่างกายหยาบของตัวเองเข้าไปในห้องบรีฟ พยายามกลั้นหาวแบบสุดๆ กะว่าขึ้นเครื่องไปจะไปซัดกาแฟซักแก้ว หลังจากบรีฟจบเราก็ไปที่บัสเพื่อนั่งไปขึ้นเครื่อง เฮ้ยยยย! เกิดอะไรขึ้นวะ ลูกเรือยืนกองกระจุกกันเต็มชั้นใต้ดินไปหมดเลย
กลุ่มเราค่อยๆฝ่าฝูงชนจนไปเจอเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่แถวนั้น ถามว่าไฟล์ทไปมัลดีฟส์ดีเลย์รึเปล่า เขาก็ให้นั่งรออยู่แถวนั้น เราหันไปคุยกับกลุ่มมนุษย์ลูกเรือคนอื่นก็ได้ความว่าไฟล์ทเขาดีเลย์กันหมดเลย รอรถไปขึ้นเครื่องอยู่เหมือนกัน แต่เป็นแค่ minus delay ไม่นานมากพวกเราก็อ้อๆ เออๆไปตามเรื่อง
หลังจากนั่งกระจุกตัวรออยู่แถวนั้น โทรศัพท์มือถือของเหล่ากัปตันก็ดังขึ้น กัปตันเรารับแล้วก็คุยๆหน้าเครียดๆก่อนที่จะวางสายแล้วหันมาบอกทุกคนว่าไฟล์ทเราดีเลย์นะ เดี๋ยวขึ้นไปรวมตัวกันที่ร้านกาแฟก่อน เดี๋ยวผมเลี้ยงกาแฟเอง
พวกเราก็งงๆ ดีเลย์ก็ดีเลย์วะ ตอนนี้ก็เริ่มมีลูกเรือไฟล์ทอื่นๆทยอยขึ้นลิฟท์ เราก็เลี้ยวเข้าร้านกาแฟ
03:26 A.M. -
กัปตันกลับมาบอกว่าไฟล์ทเราดีเลย์แบบไร้อนาคต ต้องคอยเช็คกับเจ้าหน้าที่่เลยๆ พวกเราก็เดินงงๆซื้อกาแฟแจก(กัปตันเลี้ยง ฮูเร่!) หลายๆคนเริ่มเปิดเฟสบุ๊คเช็คข่าวนี่นั่นก็พบว่ามีลูกเรือคนหนึ่งที่เดินทางเป็นผู้โดยสารจะกลับบ้านนั่งรอไฟล์ท ตกเรื่อง ดีเลย์มา 7 ไฟล์ทแล้วเรียบร้อย ที่สนามบินวุ่นวายมากเพราะหลายไฟล์ทดีเลย์เนื่องจากอากาศไม่ดี
ทุกคนก็มานั่งเตรียมตัวเตรียมใจว่าถ้าขึ้นเครื่องไปจะต้องเจอกับอารมณ์ของผู้โดยสารแน่ๆ ส่วนเราเองก็ภาวนาว่าขอให้ตัวเองไม่ลีเกิ้ลที่จะทำไฟล์ททีเถอะ เพี้ยงงงง
03:51 A.M. -
ในที่สุดโทรศัพท์ของกัปตันก็ดัง ได้เวลาไปทำงานแล้วจ้าาาาา เครื่องเราดีเลย์มาเกือบสองชั่วโมงแล้วเด้อ ทุกคนรีบหยิบข้าวของ แต่ก่อนที่เราจะขึ้นรถบัสก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งมาถามว่า ไหน ลูกเรือคนไหนที่โดนดึงมาจาก Airport standby
อ้าว... เราเองนี่หว่า เออ It's me!
พี่เจ้าหน้าที่ก็ก้มลงไปดูเอกสาร You're not legal to do this flight, please come with me this way.
เชี่ย ไม่ลีเกิ้ลที่จะทำไฟล์ทไปมัลดีฟส์ว่ะ ปาฎิหารย์มีจริง เราหันไปบ๊ายบายทุกคน ขอบคุณกัปตันสำหรับกาแฟ และมานั่งเซ็นเอกสารว่าโดนออฟโหลดจากไฟล์ทนะจ๊ะ ก่อนที่จะระเห็จกลับมาแสตนบายด์ถึงหกโมงเช้าเหมือนเดิม โอ้โห คืนนี้รู้สึกผจญภัยเหลือเกิน คุณพระ
ความไร้สติและง่วงมากที่แท้จริง
ระหว่างที่นั่งอยู่ก็โทรไปคุยกับคุณแม่ที่ไทย นั่งฟังเพลง Home ของ Michael Buble วนไป โหยหวนอยู่ในใจว่าอย่าเรียกหนูเลย เลทมีโกโฮ๊มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
นอกจากช่วงคริสมาสต์ก็จะเอามาฟังในช่วงเวลาที่ท้อใจอยากกลับบ้านแบบนี้แล
06:00 A.M. -
สิ้นสุดเวลา Standby รอดโว้ย กลับบ้าน นอนนนนนนนน จบแล้วคืนวันอันยาวนานและลุ้นระทึก
Ploy is freeeeeeeeeee! *โบกหมวกแดงไปมา ทำท่าแบบดอบบี้*
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in