พอมาถึงปุ๊บก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน งีบกันนิดหน่อยแล้วก็ออกมาเที่ยวกัน โดยพวกเราไปกันที่ Lion Park Safari Johannasburg ซึ่งตอนแรกเราไม่ค่อยอยากจะไปเท่าไรเพราะเคยได้ยินมาว่าที่นี่เขาวางยาสิงโตให้มันง่วงๆมึนๆจะได้ไม่ดุร้ายเป็นอันตราย แต่ด้วยความที่ทุกคนรบเร้าว่าไปเถอะ จะได้เห็นกับตาไงว่ามันเป็นยังไง... เออ ไปก็ได้ว้าาาาา
คนที่พาเราไปเที่ยวคือ พอล คุณลุงใจดีที่ลูกชายแกเป็นอดีตลูกเรือที่นี่ ทำงานมาปีนึงแล้วไม่ชอบ พอล่ะ กลับมาบ้านเกิดเมืองนอนแล้วจัดทัวร์พาลูกเรือไปเที่ยวดีกว่า (ไอเดียนี้เราก็แอบคิดไว้เหมือนกันแหละว่าอยากลาออกมาทำ พาไปเที่ยวตลาดน้ำ ไหว้พระอยุธยาไรงี้)
ระหว่างทางเราไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเก็บไว้เลย เพราะโดนนั่งอยู่แถวหลังสุดตรงกลาง แต่ก็ตื่นตาตื่นใจไปกับวิวสองข้างทางเหมือนกันนะ และระหว่างทางที่กำลังขับรถออกนอกเมือง รถเราติดไฟแดงอยู่หลังจากรถกระบะ อยู่ๆก็มีเด็กประถมผิวสีใส่ชุดนักเรียนวิ่งกรูกันขึ้นมานั่งบนท้ายรถกระบะค่ะ
ทั้งรถเราตกใจกันหมดว่าเฮ้ย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย แต่ลุงพอลบอกว่ามันเป็นปกติของที่นี่แหละที่จะมีใครซักคนโดดขึ้นบนหลังรถกระบะของคนแปลกหน้า เดี๋ยวพอใกล้ถึงก็โดดลงไปเอง พอรถเราแซงกระบะคนนั้นก็เห็นพี่คนขับหันมามองรถเรา ทำหน้าตาแบบเออ...ชินแล้ว โดนบ่อย
เรานั่งรถออกมาไกลพอให้งีบหลับได้ในรถ ไปถึงปุ๊บเราก็ได้รับที่รัดข้อมือมาสองกัน สีเขียวคือเราจะได้ไปเซย์ฮายทักทายลูกสิงโต ส่วนอันสีเหลืองนั้นคือบัตรที่จะไปนั่งรถซาฟารีเที่ยวชมในสวน
หลังจากโดดขึ้นรถที่มีกรงล้อมหนาแน่นแล้วเราก็มุ่งหน้าเข้าไปส่วนพาร์คค่ะ ในหัวของเรานี่เต็มไปด้วยเพลงจากเรื่อง The Lion King นาซะเพ้นยา มาราดิอินาดา~ เฮนย่าเล~ เฮนยาลา~ ไปสำรวจอาณาจักรของสิงโตกันนนน
จ่าฝูงครอบครัวนี้ชื่อว่า จามู
คนบรรยายในรถบอกว่าจริงๆแล้วสิงโตก็เหมือนแมวนี่แล นอนวันละ 18-20 ชั่วโมง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมมันถึงหลับแบบหลั๊บหลับกันได้ตลอดเวลา และเขาจะให้อาหารสัปดาห์ละ 2 ครั้งโดยคำนวณเป็น 20% ของน้ำหนักตัว โดยอาหารที่ให้ไม่ได้ปล่อยกวางเข้ามาให้ล่าแบบเป็นๆนะจ๊ะเพราะว่ามันผิดเกี่ยวกับเรื่องของการทารุณสัตว์นั่นเอง
เป็นหนุ่มแล้วต้องดูแลตัวเอง
สำหรับสิงโตแล้ว การผสมพันธุ์จะทำเพื่อการสร้างสมาชิกใหม่เท่านั้น และถ้าเกิดว่าได้สิงโตน้อยเป็นตัวผู้ เมื่อโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่นแล้ว จ่าฝูง(พ่อ)ก็จะไล่ออกจากฝูงไปค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ผสมพันธุ์กับพี่น้องของตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงที่สมาชิกใหม่จะพิการ และป้องกันไม่ให้ลูกมีอำนาจกลายมาเป็นจ่าฝูงเลียนแบบสการ์ที่วางแผนลอบฆ่ามูฟาซ่าและขึ้นมาเป็นจ่าฝูงนั่นเอง
สะเทือนใจเหลือเกิน
จากนั้นเราก็มาเจอกับสิงโตขาวค่ะ ซึ่งสิงโตขาวจะมีแพงคอเป็นสีอ่อนกว่าสิงโตปกติแต่ไม่ใช่สิงโตเผือกนะคะ ตามธรรมชาติแล้วสิงโตขาวมีโอกาสรอดน้อยกว่าสิงโตปกติทั่วไปเพราะไม่สามารถพรางตัวเพื่อล่าเหยื่อได้นั่นเอง
ชาวพื้นเมืองของแอฟริกาใต้เชื่อว่าสิงโตขาวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณ
ขับรถต่อมาอีกนิดนึงเราก็เจอยีราฟคอยาวโผล่มาทักทาย : )
การแยกเพศของยีราฟนั้นจะสังเกตที่เขาของมันค่ะ ถ้าเขามีขนอยู่แสดงว่าเป็นตัวเมีย แต่ถ้าไม่มีเป็นผิวหนังโล้นๆจะเป็นตัวผู้ อย่างตัวนี้เป็นตัวเมีย ชื่อว่า เดซี่
ถัดจากยีราฟเดซี่แล้วก็มาเจอกับฝูงสิ่งมีชีวิตกินพืชและเคี้ยวเอื้อง มีทั้งม้าลาย ความป่า และสปริงบ๊อก นอกจากนี้ยังมีนกกระจอกเทศสามตัวนี้เดินโย่งๆไปมา
ได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นมาว่านกกระจอกเทศจะผลัดเวรกันฟักไข่ค่ะ โดยตัวเมียจะฟักกลางวัน และตัวผู้มารับหน้าที่ต่อในเวลากลางคืน
พอช่วงประมาณสี่โมงสิงโตจะเริ่มตื่นแล้วค่ะ
ระหว่างทางก็เจอสองตัวนี้เดินลาดตระเวนไปมาไม่ไกลจากฝูงที่ยังนอนอยู่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in